กรณีวัยรุ่นกว่า 100 คนจากหลายตำบล ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ก่อเหตุชกต่อยกันหน้าเวทีคอนเสิร์ต อีกทั้งยังสาดกระสุนใส่กันกลางงานศาลหลักเมืองปะคำ ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างที่ 25-31 มี.ค.64 เป็นเหตุทำให้วัยรุ่นถูกยิงบาดเจ็บ 1 ราย กระสุนอีก 3 นัดพลาดไปโดนร้านขนมหม้อแกงเมืองเพชร แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุดวันที่ 30 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่จัดงานหน้าศาลหลักเมือง อ.ปะคำ พบนายณัชพล หล้าล้ำจำรัสกุล อายุ 25 ปี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตนกับเพื่อนหลายคนมาเที่ยวงาน ระหว่างที่ดนตรีกำลังเล่นบนเวที กลุ่มวัยรุ่นด้านล่างเต้นกันอย่างอย่างสนุกสนาน จากนั้นได้มีวัยรุ่น 2 กลุ่มชกต่อยกันเป็นวงเล็ก ๆ แต่เหตุการณ์บานปลายเพราะมีวัยรุ่นที่มาจากหลายตำบลตะลุมบอลกันอย่างเมามัน โดยไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
ทันใดนั้นได้ยินเสียปืนดังขึ้น 3-4 นัด กระสุนไปโดนขาขวาของเพื่อนตน 1 นัดล้มลง คือ นายชัยวัฒน์ สมอยู่ อายุ 22 ปี ที่ไปดูคอนเสิร์ตในงานดังกล่าวกับเพื่อน ๆ ถูกกระสุนปืนเจาะเข้าที่บริเวณสะโพกด้านซ้าย กระสุนฝังในได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.ปะคำ แต่เนื่องจากอาการค่อนข้างสาหัสและกระสุนฝังในกระดูก จึงต้องส่งไปรักษาต่อที่ รพ.นางรอง
จากการสอบถามนายวันชัย มีล้อม อายุ 52 ปี เจ้าของร้านขายขนมหม้อแกงในงาน เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 23.00 น. มีกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกัน และได้ยินเสียงปืนประมาณ 4 – 5 นัด แต่ก็ไม่รู้ว่าฝั่งไหนยิงใส่ฝั่งไหน เพราะเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายมาก เมื่อสิ้นเสียงปืนจึงทราบว่ามีวัยรุ่นชายคนหนึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และพอตอนเช้ามาดูก็พบว่ามีรอยรูกระสุนยิงทะลุผ้าใบหน้าร้านด้วย เคราะห์ดีที่ไม่มีคนในร้ายถูกกระสุนลูกหลงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อการค้าขาย เพราะแทนที่คนมาเที่ยวงานจะได้จับจ่ายซื้อของ แต่ต้องมาคอยวิ่งหลบหรือเที่ยวแบบหวาดระแวง ตนก็อยากให้กลุ่มวัยรุ่นที่จะมาเที่ยวงานหยุดก่อเหตุทะเลาะที่จะส่งผลกระทบกับคนอื่นอีกมาก
ด้านนายชิษณุพงศ์ อบอุ่น อายุ 46 ปี ลุงของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า หลานชายเพิ่งกลับมาจากทำงานต่างจังหวัดก็ไปเที่ยวงานศาลเจ้าประจำปีกับเพื่อน ๆ และมารู้ก็ตอนที่ลูกชายที่ทำงานต่างจังหวัดโทรศัพท์มาบอกว่าหลานถูกยิง และส่งตัวไปโรงพยาบาล เคราะห์ดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ แต่ตอนนี้ก็รอแพทย์วินิจฉัยว่าจะผ่าเอากระสุนออก หรือจะรักษาวิธีไหนเพราะสาหัสอยู่เหมือนกัน แต่หลานก็ยังสื่อสารได้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าหลานไปมีเรื่องกับใครหรือไม่ หรือแค่ถูกลูกหลง เพราะยังไม่ได้สอบถามรายละเอียดกับหลาน
ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าวัยรุ่นตีนกันก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ถึงขั้นใช้อาวุธปืนยิงใส่กันแบบนี้ ถือว่าอุกอาจมาก ๆ เพราะเป็นงานประจำปีที่มีผู้คนไปเที่ยวงานจำนวนมากและอาจถูกลูกหลงไปด้วย ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจให้เข้มงวด ไม่ควรปล่อยให้พกพาอาวุธใด ๆ เข้าไปเที่ยวงาน เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้ ส่วนกรณีของหลานชายของตนก็อยากให้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด