เมื่อปลายปีที่ผ่านมา นักแสดงหนุ่มท็อป จรณ ได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเพจดังเพจหนึ่ง เนื่องมาจากเพจดังกล่าวปล่อยข่าวว่า คุณแม่ของพระเอกรายหนึ่งชอบขอกระเป๋าแบรนด์เนมจากแฟนของลูกชาย ซึ่งคำใบ้ต่างๆโยงไปที่หนุ่มท็อป ทำให้คุณแม่ของเจ้าตัวเครียดถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล
และหลังจากนั้น คุณบู ลักษณ์ษิพร นพโพธิพงศ์ ซึ่งตกเป็นหนึ่งในผู้ที่มีชื่ออยู่ในสำนวนคดีฟ้องร้องหมิ่นประมาทของพระเอกหนุ่ม ก็ได้ออกมาบอกว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพจนี้ พร้อมแจ้งความหนุ่มท็อปกลับ
จนในที่สุดเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ผลสรุปออกมาแล้วว่า จากการสืบสวนปรากฏว่า คุณบู ไม่ใช่เจ้าของเพจดังกล่าว หลังจากก่อนหน้านี้พบชื่อของเธอว่า เป็นเจ้าของเพจ
ทำให้ทางหนุ่มท็อป และคุณบู ได้ออกมาแจ้งข่าว โดยคุณบู ได้กล่าวขอโทษหนุ่มท็อป และถอนแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ส่วนหนุ่มท็อป ก็บอกว่าได้พูดคุยกันจนเป็นที่เข้าใจแล้ว พร้อมขอบคุณคุณบูที่ออกมาชี้แจง และได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อวานนี้ (30 มีนาคม 2564) เจอหนุ่มท็อป ก็เลยให้อัปเดตเรื่องนี้หน่อย เจ้าตัวก็เผยว่า เป็นไปตามที่ตนได้โพสต์แจ้งไป ตอนนี้กับคุณบู ทุกอย่างจบหมดแล้ว
ส่วนกับทางเพจดังกล่าว ก็ได้เจอกันแล้ว มีการพูดคุยกันพอสมควร แต่เขาไม่ได้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งคิดว่าน่าจะมีการไกล่เกลี่ยกัน โดยตนมีข้อเสนอในใจแล้ว ส่วนค่าเสียหายเป็นตัวเงินก็มีเรียกด้วย ตามความเหมาะสมไม่ถึง 7 หลัก
เรื่องคดีความกับคุณบูตอนนี้ความคืบหน้าเป็นยังไงบ้าง
“อย่างที่ได้เห็นไปเลยครับ ที่อธิบายไปทุกอย่าง เราคุยกันเรียบร้อยแล้วทุกอย่างจบหมดแล้วครับ”
มันเป็นเพราะอะไรเกี่ยวกับเรื่องการสืบสวนหรือเปล่า
“ถ้าพี่ๆได้อ่านในรายละเอียด ก็จะเป็นเกี่ยวกับเรื่องการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ”
หลังจากนี้จะดำเนินการยังไงต่อบ้างกับทางเพจ
“ตอนนี้ยังดำเนินคดีอยู่นะครับ ยังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสำนวนต่ออัยการ”
เห็นว่ามีการเปลี่ยนทนายด้วย
“ต้องเรียนอย่างงี้ตั้งแต่แรก ผมใช้ทนายหนึ่งท่านแต่ว่าท่านมีอาการป่วยเลยต้องมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนทนาย”
ทนายคนใหม่เลือกเองเลยหรือเขาติดต่อเข้ามา
“เลือกเองด้วยครับ ผ่านทางคนรู้จักครับ”
เรื่องคดีมีอะไรที่กังวลอีกไหม
“ก็ขอให้ปล่อยเป็นเรื่องของการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วก็เป็นเรื่องของการรวบรวมหลักฐาน ไม่ได้กังวลอะไร”
ทางเพจได้ติดต่อมาบ้างไหม
“ครับ ได้เจอกับเจ้าของเพจแล้วครับ”
มีการพูดคุยกันยังไงบ้าง
“ก็พูดคุยกันพอสมควรครับ”
มีการขอโทษอะไรกันเกิดขึ้นไหม
“ไม่มีครับ”
จะดำเนินการให้ถึงที่สุดเลยไหม
“ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนที่กล่าวไปเมื่อกี้นะครับ ส่วนเรื่องเนื้อหาของคดี ผมอาจจะต้องอนุญาตที่จะไม่สามารถให้คำตอบได้”
แสดงว่าก็ยังยืนยันที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเหมือนเดิม
“ก็อย่างที่บอกครับ ผมไม่สามารถให้คำตอบได้ เป็นเรื่องของรูปคดีครับ”
ไม่น่าจะมีการไกล่เกลี่ยกันแล้ว
“การไกล่เกลี่ยเป็นขั้นตอนหนึ่งในการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย การไกล่เกลี่ยต้องมีอยู่แล้วครับ”
แสดงว่าตอนนี้ผลออกมาเป็นยังไงเรายังไม่รู้
“ใช่ครับ เพราะว่าตอนนี้ยังไม่ได้ไกล่เกลี่ยครับ”
ถ้าเรามีการไกล่เกลี่ยเราจะยื่นข้อเสนออะไรไหม
“มีครับ”
พอจะบอกได้ไหม
“อาจจะขออนุญาตไม่บอกครับ”
ถ้าเขามีการลงขอโทษพร้อมจะจบเลยไหม
“ต้องเรียนว่าเป็นเรื่องของรายละเอียดที่เราจะต้องคุยกันเป็นลายลักษณ์อักษรนะครับ เวลาพูดอะไรไปเดี๋ยวภายหลังมันจะไม่ตรงกัน อันนี้ผมขออนุญาต”
อย่างค่าเสียหายเราเรียกร้องเป็นตัวเงินด้วยไหมเพราะมีการเสื่อมเสียชื่อเสียง
“มีครับ มีครับ”
บอกเป็นจำนวนเงินได้ไหม
“ไม่ถึง 7 หลักครับ ตามที่สมเหตุสมผลนะครับ”
ศาลนัดเมื่อไหร่
"ไม่แน่ใจว่าบอกได้หรือเปล่า แต่ว่าเร็วๆ นี้ครับ ผมขออนุญาตจริงๆ พอดีไม่ได้คุยกับทนายก่อนว่าอะไรตอบได้บ้าง แต่เรื่องของคุณบูคือเราคุยกันจบเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าในเรื่องของเพจที่เป็นคดีความยังอยู่ในขั้นตอน"
กับคนที่คอมเมนต์เราได้อะไรด้วยไหม
"ในเบื้องต้นก็จะเก็บเป็นเรื่องของพยานครับ (ไม่ได้ฟ้อง) ณ ตอนนี้ยัง คือผมชี้แจงอย่างนี้เริ่มต้นในความตั้งใจ เราบอกว่ามันเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลในฐานะคนที่มียอดฟอลโลสูงละกัน บางครั้งที่เราจะสื่อสารอะไรออกไปผมว่าน่าจะมีวิจารณญานพอสมควรในการที่จะพิสูจน์หรือพิจารณาดีแล้ว ว่ามันเป็นความจริงไหมว่ามันอาจส่งผลกระทบแบบไหนกับความรู้สึกของคน ไม่ใช่แค่เฉพาะผมคนเดียวนะ แต่ผมเชื่อว่าหลายๆ คนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แบบนี้ แล้วผมรู้สึกว่าเราน่าจะมีวิจารณญานในการรับผิดชอบในสิ่งที่เราสื่อออกไป ผมคนนึงก็เป็นบุคคลสาธารณะบางครั้งที่ผมจะลงอะไรก็พยายามคิดให้ถี่ถ้วนว่ามันจะส่งผลกระทบกับใครไหม ผมว่ามันเป็นจิตสำนึกเบื้องต้นอ่ะ"
ทางครอบครัวเป็นยังไงบ้างตอนนี้
"ก็โอเคครับ คุณแม่ก็ดีครับเขาก็เป็นห่วงลูกแหละว่าจะมีผลกระทบกับหน้าที่การงานหรือเปล่า"
ไม่มีผลกระทบอะไรเนอะ
"ณ วันนี้ก็ยังนะครับ ยังมีงานทำอยู่ (หัวเราะ) ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ ที่ยังให้การสนับสนุนครับ"
วันนี้เข้าชิงนำชาย
"รางวัลนำชายจากเรื่องทุ่งเสน่หาครับ (ลุ้นไหม) ก็ตื่นเต้นเราคิดว่ามันเป็นอีกผลงานนึงที่เราได้ทำเต็มที่แล้ว แค่ได้มีชื่อเข้าชิงก็ดีใจแล้ว"
ปกติได้เข้าชิงปีละครั้งแบบนี้เลยไหม
"ไม่หรอกครับ เคยเข้าชิงเมื่อ 7 ปีที่แล้ว (หวังไหม) ก็นิดหน่อย ลึกๆ มากๆ ครับ"