กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "บิ๊กเกรียน" ได้โพสต์ภาพพร้อมบรรยายข้อความว่า "#คุณครูกระดาษทราย เด็กนักเรียน ป.2 ผวากลัวครูภาษาไทย ไม่กล้าไปเรียน ผู้ปกครองสงสัยซักถามรู้ความจริงถึงกับควันออกหู พบพฤติกรรมครูสาวสั่งทำโทษลูกชายด้วยการสั่งให้นักเรียนในห้อง 16 คน ตบหน้าลูกคนละ 10 ที รวม 160 ที
จนหน้าบวมแดง"
โดยเหตุเกิดโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา พบมีนักเรียนหลายคนถูกกระทำด้วยวิธีการลงโทษดังกล่าว จนผู้ปกครองแห่ไปแจ้งความดำเนินคดี โดยเมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียลฯ และมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวันที่ 31 มี.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปหมู่บ้านบ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา ได้พูดคุยกับ นางโส (นามสมมติ) อายุ 40 ปี ป้าของเด็กที่ที่ถูกครูสั่งเพื่อนนักเรียนตบหน้า เล่าว่า เด็กผู้เสียหาย คือ ด.ช.นัธวัฒน์ หรือ น้องติน อายุ 8 ขวบ นร.ชั้นป.2 รร.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา ปกติหลานเป็นคนชอบพูด นิสัยร่าเริง อาจมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อนบ้างตามประสาเด็ก แต่ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
กระทั่งวันที่ 28 มี.ค.64 ครอบครัวได้ไปนั่งรับประทานอาหารกัน โดยที่มีน้องตินไปด้วย ตนจึงสังเกตเห็นความผิดปกติบริเวณใบหน้าของน้องติน เนื่องจากแก้มด้านซ้าย มีร่องรอยเขียว-บวมช้ำ คล้ายล้มหน้ากระแทกพื้น จึงพยายามทำการสอบถามจนน้องติน ยอมรับว่า ถูก น.ส.สุกานดา นิลสุข ครูสอนวิชาภาษาไทย เป็นครูที่โรงเรียนสั่งลงโทษ
เนื่องจาก น้องติน คุยในห้องเรียนเลยถูกทำโทษโดยการให้เพื่อนนักเรียนห้องเดียวกันประมาณ 16 คน ตบหน้าน้องติน คนละ 10 ที รวม 160 ที จนหน้าบวมแดงดังกล่าว เมื่อทราบเรื่องจึงเดินทางไปที่โรงเรียน เพื่อสอบถามรายละเอียด แต่โรงเรียนกลับบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องสอบถามคุณครูรายดังกล่าวก่อน
ทั้งนี้ตนและครอบครัวจึงพาน้องติน เข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้กับเจ้าที่ตำรวจ สภ.จะนะ ก่อนนำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนภัย ปรากฏว่ามีผู้ปกครองเด็กนักเรียนในโรงเรียนหลายคนที่เห็นโพสต์ ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากว่า น้องติน ไม่ได้ถูกกระทำเป็นรายแรก แต่มีเด็กนักเรียนในโรงเรียนอีกหลายรายที่โดนในลักษณะเดียวกัน แต่มีเด็กนักเรียนชั้นป.2 ถูกครูรายนี้ลงโทษเกือบทั้งระดับชั้น
ทางผู้ปกครองเด็กนักเรียน จึงรวมตัวกันคิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และอยากให้ทาง ผอ.โรงเรียน พิจารณาปลดครูคนนี้ให้พ้นจากการประกอบวิชาชีพครู เพราะรับไม่ได้กับการกระทำที่เกิดขึ้น และเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำ รวมไปถึงการลงโทษในลักษณะนี้ อาจทำให้เด็กจดจำความรุนแรง ติดตัวไปเป็นนิสัยในอนาคต
โดยหลังจากมีกระแสดังกล่าว ทางโรงเรียนได้นัดครูผู้ก่อเหตุ และผู้ปกครองเด็กนักเรียนไปพูดคุยเจรจากันที่สภ.จะนะแล้ว เบื่องต้นคุณครูดังกล่าวก็ได้ขอโทษกับทางผู้ปกครองเด็ก แต่ไม่ได้มีท่าทีว่าจะขอบโทษจากใจจริง ไม่ยกมือขอโทษ เหมือนไม่สำนึก หรือรู้สึกผิด จึงเกิดมีปากเสียงกับทางผู้ปกครองตามคลิปที่ปรากฏ ซึ่งหลังจากนี้ทางโรงเรียนจะมีการนัดผู้ปกครองเด็กนักเรียนมาเจรจาถึงกรณีที่เกิดขึ้น ในวันที่ 9 เม.ย.64
น.ส.วิมล (นามสมมติ) ผู้ปกครองเด็กอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องตนก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจาก 1-2 ปี ที่ผ่านมา หลานสาวของตนที่เคยเรียนอยู่ในโรงเรียนดังกล่าว ก็เคยถูกครูสั่งลงโทษทำร้ายร่างกายรุนแรง โดยการใช้ไม้ตีตามร่างกาย จนบวมช้ำ ทางครอบครัวต้องให้ย้ายออกไปเรียนที่อื่น แต่ไม่ได้เอาเรื่องกับทางโรงเรียน
กระทั่งล่าสุดมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวกับ น้องติน ตนก็คิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และรุนแรงเกินไป ซึ่งตนเชื่อว่าครูที่สอนอยู่ภายในโรงเรียนดังกล่าวมีทั้งดีและไม่ดี ตนก็อยากจะให้ทางผอ.โรงเรียน มีการตรวจสอบและคัดกรองบุคลากรที่จะเข้าไปสอนเด็กนักเรียน เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก เสมือนเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับโรงเรียน และก่อให้เกิดควาไม่เชื่อมั่นของผู้ปกครองที่จะส่งเด็กนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ เนื่องจากเด็กหลายรายที่ถูกครูลงโทษในลักษณะดังกล่าว ส่วนใหญ่ก็มักจะบอกว่าไม่อยากไปโรงเรียน หรือไม่อยากไปเรียนหนังสือ และอยากย้ายไปเรียนที่อื่น
หลังจากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปยังโรงเรียนนบ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อไปถึงพบว่าภายในโรงเรียนก็ยังคงเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางเกศกนก เผ่ามุณี อายุ 45 ปี รองผู้อำนวยการ รร.บ้านนา เปิดเผยว่า ครูที่ถูกกล่าวอ้างคือ น.ส.สุกานดา นิลสุข ครูสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นป.2 มาประจำได้ 6 เดือนแล้ว กรณีที่เกิดขึ้น หลังจากผู้อำนวยการทราบเรื่อง ก็ได้มีการเรียกครูดังกล่าวมาสอบถามทราบว่า วันที่เกิดเหตุ คือ วันที่ 26 มี.ค.64 ขณะนั้นทางครูสุกานดา ได้ไปสอนในห้องของ น้องติน ตามปกติ แต่ในวันนั้นครูอีกท่านหนึ่งที่สอนหัองข้างกัน ติดภารกิจด่วนจึงฝากให้ ครูสุกานดา ช่วยดูแล เท่ากับต้องดู 2 ห้องเดินคุมเด็กสลับห้องไป-มา
ทางครูสุกานดา จึงตั้งกฎกับนักเรียนภายในห้องว่า ในขณะที่ครูสลับไปดูเด็กนักเรียนห้องอื่น ให้ตั้งใจทำแบบฝึกหัดที่ครูได้มอบหมายอย่างตั้งใจ โดยห้ามพูดคุยกัน หากพูดคุยจะถูกลงโทษด้วยการถูกตบปาก ซึ่งเด็กนักเรียนภายในห้อง ก็ตกลงที่จะประพฤติตามคำสั่งของครูสุกานดา
แต่เมื่อครูสุกานดา เดินไปดูเด็กนักเรียนอีกห้องหนึ่ง น้องติน ก็ได้ลุกขึ้นจากโต๊ะและพูดคุยโวยวายอยู่ภายในห้อง ทำให้เพื่อน ๆ นักเรียนที่อยู่ภายในห้องเข้าไปพูดคุยว่าน้องติน ผิดกฎที่ครูสั่งไว้และต้องถูกลงโทษ โดยในตอนแรกทางตัวน้องติน ได้ใช้มือตบแก้มซ้ายตัวเองจำนวนหลายครั้ง เพื่อเป็นการลงโทษตัวเอง และตัวน้องตินเองก็ยินดีให้เพื่อนลงโทษตามที่ครูได้สั่งไว้ จนถูกตบใบหน้าบวมช้ำดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผอ.โรงเรียน ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบครูสุกานดา ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่ามีความเป็นมาอย่างไร และขณะนี้ได้มีคำสั่งให้ครูสุกานดา หยุดพักการเรียนการสอน เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อทางโรงเรียน และกระแสจากผู้ปกครอง จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะคลี่คลาย
น.ส.อภิสรา กังสังข์ อายุ 35 ปี เพื่อนครู รร.บ้านนา กล่าวว่า ส่วนตัวเท่าที่สัมผัสใกล้ชิดครูสุกานดา ก็เป็นครูที่ดี มีความมุ่งมั่นในการเรียนการสอนเด็กนักเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก จากการสอบถามทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิดกันในเรื่องของการสื่อสาร ระหว่างครูนักเรียน และผู้ปกครอง จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วเจตนาของครูผู้สอนไม่ได้มีความตั้งใจจะให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้
ทางโรงเรียนก็อยากจะให้ผู้ปกครองเด็ก รวมไปถึงคนในสังคมที่เห็นกระแสข่าว ควรวิเคราะห์พิจารณาและให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ด้าน เพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำอีก หลังจากนี้ทางโรงเรียนจะมีการนัดผู้ปกครองเด็กนักเรียนมาเจรจาในวันที่ 9 เม.ย.64 ส่วนทางด้านคดีความ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงต้องให้โรงเรียนและผู้ปกครองเด็กมีการเจรจากันก่อน เพื่อจะสามารถยอมความกันได้ หากเจรจาไม่ลงตัว ทางตำรวจก็จะรับเรื่องและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป