“ดุ๊ก ภาณุเดช” วาดภาพส่งกำลังใจช่วยหมูป่า หลังภารกิจช่วยฟื้นฟูป่า (คลิป)

เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่ติดตามภารกิจการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่ามาโดยตลอด ล่าสุด “ดุ๊ก ภาณุเดช วัฒนสุชาติ” ได้โพสต์ภาพวาดฝีมือตัวเองเป็นการให้กำลังใจเด็กๆ และเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติภารกิจ พร้อมระบุข้อความว่า “ออกมาแล้ว 2 คน ขอให้ทีมหมูป่าที่เหลือออกมาอย่างปลอดภัยครับ เก่งมากเลย ทั้งทีมงาน ทั้งเด็กๆ ลุงเป็นกำลังใจให้ #พาทีมหมูป่ากลับบ้าน #กราบหัวใจทั้งหน่วยซีลและผู้ช่วยเหลือทุกคนจากใจ #ถ้ำหลวง #ขุนน้ำนางนอน #13ชีวิตต้องรอด #หมูป่าอะคาเดมี่ #ทีมหมูป่า #พา13หมูป่ากลับบ้าน #ThaiCaveRescue” นอกจากนี้ยังได้ให้สัมภาษณ์กับทางทีมข่าวอมรินทร์ทีวีถึงเรื่องนี้ว่า “ตนตามข่าวอยู่เหมือนกับหลายๆคน แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ไปทำอะไรเลย คือก็ทำภารกิจของเรา ในขณะเดียวกันเราก็ลุ้น เราก็ให้กำลังใจ เป็นสิ่งที่ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนรู้สึกแบบนั้น”

ส่วนเรื่องภาพวาดเจ้าตัวก็เผยว่า “ตนได้โพสต์ลงในแฟนเพจและไอจีส่วนตัวให้สำหรับกลุ่มแฟนที่ติดตาม ตนใช้การ์ตูนหรือภาพศิลปะเป็นสื่อ เพราะว่าในเพจส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแนวคิด เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ รวมทั้งเรื่องของงานศิลปะที่ตนทำ ทีนี้ก็รู้สึกว่าในฐานะที่ตนก็เป็นสื่อหนึ่งก็อยากจะร่วมให้กำลังใจก็เลยเขียนรูปขึ้นมา แล้วแต่ช่วงเวลาที่ตนรู้สึก คือจริงๆตนตามข่าวมันมีรายละเอียดเยอะเลยที่น่าพูดถึง แต่ว่าตนไม่อยากดราม่า มันน่าจะเป็นเรื่องที่เรามีหน้าที่ในการที่จะขอบคุณผู้ที่มาช่วยเหลือ ทั้งหน่วยซีลของเรา หน่วยงานต่างๆ อาสาสมัคร พี่น้องชาวนาที่เสียสละ รวมทั้งชาวต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำหรืออะไรก็ตามที่เข้ามาช่วย ก็เลยเริ่มจากการเขียนมนุษย์กบมนุษย์ดำน้ำ เขียนด้วยสีน้ำ อันนั้นก็โพสต์ลงไปเหมือนกับเป็นการให้กำลังใจว่าเราดูอยู่นะ เราให้กำลังใจอยู่ เพราะว่าเราก็คงไม่อยากจะขึ้นไปตรงนั้นแล้วก็ไปทำความยุ่งยากเพราะเราทำอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้คือกำลังใจแล้วก็ให้เขารู้สึกว่าเราในฐานะคนไทยเรารู้สึกขอบคุณพี่น้องคนไทยด้วยกันเองแล้วก็น้ำใจของชาวต่างชาติทั่วโลก พอหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปก็เริ่มรู้สึกว่ามันรอคอยนาน ก็มีเหตุและผลต่างๆ ตนก็เข้าใจก็เลยโพสต์ให้กำลังใจเป็นรูปหมูป่าซึ่งก็ติดอยู่ตรงนั้น 13 คน แต่ในนั้นเราเขียนว่า 14 เหมือนกับว่าเราไปยืนอยู่ตรงนั้นด้วยคนนึง อารมณ์ประมาณนั้น แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไร ก็แค่โพสต์รูปตามความรู้สึกของเราแล้วก็ให้กำลังใจไป จนมันก็มีเหตุการณ์อื่นๆ แทรกมา รวมถึงการสูญเสียด้วย พวกนั้นตนไม่ได้เขียนเป็นการ์ตูน แต่ว่าก็ได้มีโอกาสโพสต์ลงไปเพื่อแสดงความรู้สึกขอบคุณแล้วก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีการโพสต์ชื่นชมท่านผู้ว่าฯด้วยในเรื่องของสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ท่านทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตนรู้สึกว่านอกจากความสามารถในการที่ท่านดูแลสถานการณ์นี้ได้เป็นอย่างดีแล้ว ในรายละเอียดตนเห็นความเป็นผู้นำที่ดีของท่าน โดยเฉพาะมีเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ท่านไปต่อแถวกินก๋วยเตี๋ยว รู้สึกประทับใจว่า บางครั้งตนเป็นนักแสดงอยู่กองถ่ายยังมีคนเอาก๋วยเตี๋ยวมาให้เลย ไม่ยอมให้ไปต่อแถว แล้วเราก็ยอม แต่นี่มันสะท้อนใจให้เรารู้สึกว่า โอ้โหท่านตำแหน่งขนาดนั้น แล้วก็เรียกว่าเป็นผู้บัญชาการ ณ สถานที่ตรงนั้น แต่ท่านก็ยังทำตัวเป็นตัวอย่างให้กับเรา ก็เลยรู้สึกชื่นชม ก็โพสต์ลงไป จนกระทั่งได้พบ มีนักดำน้ำชาวอังกฤษโผล่ขึ้นไปเจอ ก็รู้สึกดีใจ ก็เขียนอารมณ์ของตน ก็เขียนเป็นการ์ตูนเหมือนเด็กๆที่อยู่ตรงนั้น ทุกคนสู้แล้วก็อยู่ตรงนั้น ก็รู้สึกดีก็เลยโพสต์รูปนั้นขึ้นมาอีก

จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) ข่าวดีมากที่มีการดำน้ำพาออกมาก็โพสต์เป็นซิมโบลิกคือเป็นมนุษย์ดำน้ำแล้วพาเด็กออกมา 2 คน เพราะตอนแรกได้ข่าวว่าพามา 2 คนก่อน ตอนที่เขียนรูปนะ แล้วมนุษย์กบนั่นจริงๆประกบก็จริงแต่ว่าตนก็เขียนเป็นซิมโบลิกแค่หนึ่งคนแล้วก็มีหัวใจล้อม แล้วก็เป็นสีน้ำเงิน เพราะเป็นสีที่เห็นจากชุดของ 3 คนที่จับมือกันที่โพสต์กัน ก็ได้แรงบันดาลใจมา ก็อยากจะเป็นสัญลักษณ์ว่าหัวใจเราพองโต เรารู้สึกดีแล้วก็อยากให้กำลังใจ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่มีอะไรหลายๆอย่างที่เรามองได้เป็นบทเรียน มากกว่าที่จะไปมองว่าใครผิด ทาใคร หรืออะไรก็ตาม อันนี้ในมุมมองของตนคือมันมีสิ่งที่เป็นความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นด้วย จากการร่วมมือร่วมแรงร่วมใจ มันสะท้อนให้พี่เห็นถึงความรู้สึกของคนไทยที่ทุกครั้งตนมีโอกาสสัมผัสเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม สึนามิ ดินถล่มที่อุตรดิตถ์เมื่อหลายปีก่อน ตนได้มีโอกาสเป็นจุดหนึ่งที่จะเป็นเซ็นเตอร์ในการรวบรวมความช่วยเหลือ แล้วก็ตรงจุดอื่นที่มองออกไปด้วย ก็จะเห็นว่าทุกครั้งคนไทยไม่ปฏิเสธที่จะสามัคคีกัน ทุกครั้งที่มีภัยคนไทยร่วมมือกัน มันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยรักกัน แต่ไม่อยากให้มันแสดงออกในโอกาสที่มีการสูญเสียหรือว่ามีวิกฤตอย่างเดียว ในเมื่อมีโอกาสพูดออกสื่อก็อยากจะเป็นแรงบันดาลใจหรือปลูกจิตสำนึกกันนิดนึงว่าจริงๆแล้วเรายังทำอะไรดีๆ เพื่อประเทศชาติได้อีกเยอะในยามที่ปกติอันนี้ส่วนหนึ่ง สองคือเราก็คงจะได้เรียนรู้วิธีคิดอีกหลากหลายแล้วก็เห็นคนมากมายทั้งคนที่รู้จริง ไม่รู้จริงที่แสดงความคิดเห็นในโลกโซเชียล เราก็จะได้รู้จักวิเคราะห์แล้วก็แยกแยะคือต้องทำให้เป็น รวมถึงหน้าที่ของเรา เราช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ก็พิจารณาที่ตัวเราด้วย เพราะฉะนั้นเบื้องต้นในฐานะที่ตนก็ไม่ได้มีทักษะความสามารถในการไปกู้ภัย ให้กำลังใจกันแบบนี้แหละ”

เมื่อถามถึงความกังวลหลังจากนี้ เจ้าตัวก็บอกว่า “ตอนนี้จะสังเกตว่าการวางแผนมีเป็นขั้นตอนเป็นระบบ แล้วก็มีการเตรียมการแม้กระทั่งเรื่องสุขภาพจิตของเด็ก เมื่อถามว่าตนเป็นห่วงมั้ย ตนว่าเด็กได้รับการปกป้องทะนุถนอมอย่างดี ห่วงก็แต่ว่าคนรอบข้างจะใช้เขาเป็นเครื่องมือ ไม่ว่าจะไว้สำหรับที่จะทำอะไรก็ตาม อันนี้ก็ฝากช่วยกันคิดด้วยว่าจะโพสต์จะพูดจะดึงมาสัมภาษณ์จะทำอะไรก็ตามไม่รู้ก็ให้คิดให้ระวังแล้วก็พยายามอยู่ในกรอบที่ทางหน่วยงานที่เข้าไปช่วยเหลือได้วางแผนไว้ ไม่ได้ห่วงว่าเด็กเหล่านี้จะถูกกระทบกระเทือนจิตใจแบบมากมายนัก แล้วก็เชื่อว่าเขาแข็งแรง เขามีผู้นำที่ดีนะคืออย่างโค้ชเอกที่อยู่ตรงนั้นถือว่าเป็นผู้นำที่ดูแลเด็กอย่างดี เพราะว่าอาจจะผ่านการบวชเรียนมาแล้ว เป็นผู้ที่มีสติแล้วก็ความเสียสละ ไม่ต้องมานั่งคิดหรอกว่า โค้ชเอกทำไมพาเข้าไปแล้วอะไรต่างๆที่มันเกิดขึ้นมาแล้ว แล้วเราก็ไม่รู้ความจริงด้วย มันมีเหตุและผลเสมอในการที่ใครจะทำอะไรก็ตาม แล้วก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเกิดแล้ว ควบคุมเหตุการณ์อย่างมีสติ สอนให้เด็กอยู่รอดได้ อันนี้น่าชื่นชม แล้วก็เป็นตัวอย่างที่ดีด้วย ตนว่ามันเป็นเรื่องดราม่ากันเยอะมาก คิดว่าโค้ชแกคิดอย่างนั้น คิดว่าโค้ชแกเป็นอย่างนี้ เราไม่รู้จนกว่าจะได้เจอตัว เพราะฉะนั้นเราน่าจะมีหน้าที่ให้กำลังใจกัน หลายๆคนก็ลุกขึ้นมาเหมือนจะบอกว่าอยากตำหนิว่าซนกันจัง ตนว่าเด็กซนก็เป็นเด็กฉลาด เขาไปฝึก เขาไปเรียนรู้ที่จะอยู่รอด เพียงแต่ว่าเขาเจอบทเรียนธรรมชาติที่รุนแรงมาก เขาไม่คิดหรอกว่ามันจะเกิดอะไรขนาดนี้ แล้วตนก็คิดว่าในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว แล้วทุกคนก็ร่วมมือร่วมใจกันขนาดนี้ มองบวกดีกว่า มองว่ามันมีอะไรที่ดีเกิดขึ้นในขณะที่มันมีการสูญเสีย มีทั้งทรัพยากรบุคล มีทั้งงบประมาณต่างๆ อันนั้นก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หวังว่าเด็กๆเหล่านี้เมื่อออกมาเขาจะแข็งแกร่งกว่าเด็กทั่วไปที่อยู่ข้างนอกเป็นกองเชียร์ชู 2 นิ้ว ทำอะไรก็ตามเพื่อเป็นกำลังใจ แต่เขาเจอ เขาเผชิญต่อสู้ เขาออกมาคงช็อกว่า โอ้โหทำไมมันมีกระแสอะไรต่างๆเยอะแยะมากมาย อยากให้เขาได้สิ่งเหล่านี้กลับไปเป็นแรงบันดาลใจในการที่จะใช้ชีวิตเป็นตัวอย่างที่ดีเพราะเขาเป็นที่รู้จักแล้ว ให้เขาเสียสละเหมือนกับฮีโร่ที่เสียสละไปช่วยชีวิตเขา เชื่อว่าเขาน่าจะรู้สึกแบบนั้น อยากให้เขาได้มีโอกาสตอบแทนสังคมด้วยการเป็นคนดี ส่วนการจะมีกำลังในการที่จะทำเพื่อตอบแทนเพื่อเป็นรูปธรรมแค่ไหนมันก็แล้วแต่กำลังของเขา แต่เชื่อว่าหัวใจเขาแข็งแกร่ง”

เมื่อถามว่าภารกิจนี้ ทั้งโลกช่วยกันระดมสมอง ระดมแรง ตนรู้สึกอย่างไรบ้าง เจ้าตัวก็บอกว่า “น่าประทับใจ ในความสูญเสีย ในความเดือดร้อน ในพิบัติภัยเราก็เกิดความประทับใจในสิ่งที่ชาวโลกยื่นมือมาช่วย เด็ก13 คน แต่ทุกคนให้ความสำคัญกับชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ตนคิดว่าถ้าเป็นเรื่องที่ผนวกกับจินตนาการแล้วเป็นเรื่องที่เหมือนกับซุปเปอร์ฮีโร่ จากแต่ละที่ แต่ละประเทศรวมตัวกันมาช่วย ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น เราก็ไม่คิดว่าจะขนาดนั้น ยังคิดว่ามันเป็นภาระหน้าที่ของคนไทยที่จะช่วยกัน แต่ในขณะเดียวกัน ต่างประเทศยื่นมือกัน ใครมีสิ่งที่ดีอะไรก็เอามาช่วย ใครที่เก่งก็เข้ามาช่วย ตนว่ามันเป็นสันติภาพ มันเป็นสิ่งที่ชูใจชาวโลก” นอกจากนี้เจ้าตัวยังฝากกำลังใจไปถึงเด็กๆและเจ้าหน้าที่ว่า “อยากฝากกำลังใจผ่านไปยังเด็กๆ ซึ่งเชื่อว่าเด็กๆเป็นผู้ที่มีกำลังใจแข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่หลังจากวันนี้น้องได้ออกมาพบกับโลกซึ่งเปลี่ยนไปแน่นอน เพราะน้องจะต้องเจอกับสื่อ เจอกับผู้คน น้องต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ โลกของน้องที่อยู่ในถ้ำ กับโลกที่อยู่ข้างนอกถ้ำ มันพร้อมจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของน้องๆเสมอ ตั้งรับดีๆ ตั้งสติดีๆ แล้วก็คิดบวก รับพลังบวกเอาไว้เยอะๆ เพื่อที่น้องจะได้แข็งแกร่งและลุกขึ้นมาเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนในสังคมกันต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งขอเป็นกำลังใจให้กับทีม ใช้คำว่าทีมเพราะว่ามันเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีทีมเวิร์ค ทุกๆคน ทุกๆระดับที่เข้าไปช่วย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยซีลซึ่งทั้งจากนานาประเทศแล้วก็ของบ้านเราเอง ผู้หลักผู้ใหญ่คอยควบคุมดูแลจัดการ หรือเจ้าหน้าที่ในจุดเล็กจุดน้อยต่างๆ ที่คอยช่วยเหลือ อาสาสมัครต่างๆ แล้วก็ที่น่าเห็นใจก็คงจะเป็นชาวบ้านที่รองรับน้ำแล้วก็ทำให้ผืนนาหรือว่าอาชีพของเขามีปัญหา แต่เขาก็รู้สึกว่ามันประเมินค่าไม่ได้เมื่อแลกกับชีวิตของเด็ก สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม แล้วก็อยากให้กำลังใจรวมทั้งครอบครัวของผู้สูญเสีย ฮีโร่ของเราก็อยากฝากกำลังใจให้ด้วย เชื่อว่าหลังจากที่เด็กๆออกมาครบเรียบร้อยแล้ว น่าจะมีการเยียวยาช่วยเหลือกันอีกมากมาย ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนเท่าที่ตนจะทำได้ ฝากกำลังใจไปด้วย และฝากสุดท้ายอีกเรื่องหนึ่งก็คือเมื่อถอนกำลังกันออกมาเรียบร้อยแล้วเราคนไทยก็ช่วยกันนะครับ ในการที่จะฟื้นฟูสภาพป่าอันนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น ให้ความร่วมมือกันเยอะๆ แล้วก็ฟังเจ้าหน้าที่ว่าเราจะปฏิบัติอย่างไรได้ เพื่อให้เหตุการณ์นี้มันผ่านพ้นไปด้วยดี แล้วก็ส่งผลกระทบในแง่ลบน้อยที่สุด”