ศิลปินอารมณ์ดีอย่าง
“ป๊อป ปองกูล” ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ติดตามข่าว 13 ชีวิตติดถ้ำ อยู่เสมอ และร่วมติดตามทุกภารกิจของเหล่าฮีโร่ทุกภาคหน่วย ที่ร่วมปฏิบัติงานในครั้งนี้ โดยส่วนตัวหนุ่มป๊อป เชื่อว่านี่คือข่าวที่ใหญ่มาก ตั้งแต่วันแรกๆที่น้องๆติดถ้ำ ไม่คิดว่าภารกิจจะใหญ่ขนาดนี้ แต่พอดูไปเรื่อยมีการชี้แจง ให้รายละเอียดข้อมูลเราเลยรู้สึกว่านี่ คือภารกิจที่ยากมาก ในส่วนตอนแรกเลยที่ผ่านภารกิจการเจอน้องแล้วเนี่ย คิดว่านี่คือภารกิจที่เสร็จลุล่วงได้อย่างรวดเร็ว แต่ว่าพอไปนั่งรับรู้ข้อมูลและรายละเอียดแล้ว เรารู้ว่าว่าโห เพิ่งผ่านมาแค่ 1 สเต็ปเท่านั้นเอง ซึ่งมันอาจจะมี 3 สเต็ปใหญ่ๆที่เราจะต้องก้าวผ่านพร้อมกัน ก็ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ทำงานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทีมงานที่เกี่ยวข้อง หรือคนที่เข้าไปข้างใน ที่เป็นคนไปพาน้องออกมา ผมว่าต้องเป็นคนที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ และการสร้างจิตวิทยาที่ดีให้แก่น้องๆที่อยู่ในนั้น ที่อยู่มืดๆเงียบๆในนั้นมา 10 กว่าวัน เขายังมีแรงในการสู้
วินาทีที่ทราบข่าวว่าจะมีการนำเด็กออกมาวันนี้ หนุ่มป๊อปได้เล่าความรู้สึกว่า ตนเองกำลังประชุมกับพวกเพื่อนๆ และว่าน ธนกฤต ยื่นโทรศัพท์มาให้ดู รู้สึกดีใจกันมากๆ เพราะเรารู้สึกว่านี่คือภารกิจที่ทั้งประเทศโฟกัสและให้ความสำคัญหมด และมันเป็นเรื่องที่ทำให้เรามีความสุข และเป็นความสุขของทั้งประเทศไทย ที่เรารู้สึกว่าน้องๆเหล่านี้ควรได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ที่กำลังทำกันอยู่
สุดท้ายอยากให้กำลังใจ ท่านเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเอง หรือแม้กระทั่งตัวน้องๆเอง หรือคนทำงาน ท่านผู้ว่า ทีมงานทุกคน หรือกระทั่งญาติพี่น้อง ตนเองเชื่อว่า ทุกคนเหน็ดเหนื่อย มีความเหนื่อยทั้งใจและกาย ตอนนี้ที่เราทำกันมาเราใกล้ประสบความสำเร็จกันแล้ว ผมเชื่ออย่างนั้น และเชื่อว่าไม่มีการสูญเสียใดๆเกิดขึ้นอีกแล้ว ผมดูจากการทำงาน การวางแผน และการร่วมมือร่วมใจของทุกคน เชื่อว่ามันจะทำได้อย่างนั้นจริงๆ ตอนนี้พวกเรารอข่าวดีอย่างเดียว อย่างใจจดจ่อ
มุมมองที่ได้จากเรื่องนี้
ป๊อป ปองกูล บอกว่า ส่วนตัวมองว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่พึ่งพาอาศัยกันอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ คือถ้าคนปกติเห็นความเดือดร้อน หรือการถูกทำร้าย การประสบภัยพิบัติ อุทกภัยหรือภัยพิบัติ อะไรก็แล้วแต่ มันจะมีการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเสมอ ซึ่งเรามองว่านี่คือข้อดีในเรื่องร้าย ที่เราเห็นเต็มไปหมดในโลกใบนี้เนี่ย ข้อดีที่เห็นคือ เราพร้อมจะยื่นมือไปช่วยเหลือกันและกัน มันทำให้เรามีโอกาสทบทวนในเรื่องต่างๆว่า จริงๆแล้วพื้นฐานของมนุษย์เนี่ยดีอยู่แล้ว เราพยายามขยายจุดดีจากจุดนี้ขยายต่อไปเรื่อยๆ ในเรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ดีได้เหมือนกัน