จากกรณีเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 4 เม.ย. 64 พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ผลิต อรัญบุญมาตุ่น รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังตำรวจ และตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุดรธานี ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และกระสุนปืนที่ตกอยู่ห่างจากรถ 5 เมตร หลังจากที่มีชาวบ้านที่ผ่านมาพบ และโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
ตรวจพบบัตรประชาชนอยู่ในรถ ชื่อนายพนาไพรจันทร เสนา หรือ โจ้ อายุ 36 ปี ชาว ต.ปะโค อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี และผู้หญิงที่มาด้วยกันชื่อ น.ส.วรัญญา พาเที่ยม หรือ ตุ่น อายุ 35 ปี ชาว ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี พบยาเสพติดและปืน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
วันที่ 5 เม.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านของผู้ก่อเหตุ หมู่ 5 ต.ปะโค อ. กุมภวาปี จ.อุดรธานี เป็นบ้านชั้นเดียว นางไหว แม่ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อวานว่าลูกชายไปก่อเหตุแหกด่านและยิงรถตำรวจ ยอมรับว่าหลังทราบข่าวตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ก่อนเกิดเหตุ 2 สัปดาห์ ลูกชายได้มาเล่นที่บ้านตน พร้อมกับสาวคนสนิท จากนั้นลูกชายก็หายตัวไป และหลังเกิดเหตุ ลูกชายก็ยังไม่ได้ติดต่อมาหาตนหรือญาติ ตนไม่มีเบอร์โทรของลูกชาย จึงไม่รู้ว่าจะสามารถติดต่อลูกชายได้ช่องทางไหน ยากให้ลูกชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ ส่วนนางสาววรัญญา คนที่ไปกับลูกชายตนนั้นเป็นแฟนใหม่ของลูกชาย คบกันได้ 5 เดือน
สำหรับลูกชายตนนั้นเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ตนยอมรับว่าลูกชายมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด เคยเข้ารับการบำบัดมาแล้วถึง 2 ครั้ง ตนเคยเตือนลูกชายแล้วว่าให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่เขาก็ไม่ฟัง ถ้าหากเจ้าหน้าที่วิสามัญลูกชายเพราะเขาไม่มอบตัวนั้น ตนก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย "คนเราอยู่ไหนก็ตาย ตนทำใจไว้แล้ว ลูกตนทำผิด ก็ต้องรับผิด"
ด.ต.รุ่งเพชร สุดสนธิ์ ตำรวจที่ถูกยิงใส่รถ เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุวันที่ 3 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 22.00 น. ตนเองได้ประจำด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ก่อนถึงอุโมงค์เส้นเข้าเมืองอุดรธานี ตอนนั้นตนได้ยินรายงานมาว่ามีรถเก๋ง ฮอนด้าแจส ที่เป็นรถต้องสงสัยกำลังมุ่งหน้ามาที่ด่านตรวจ กระทั่งรถเก๋งคันดังกล่าวมาถึงได้ขับฝ่าด่านชนกรวย มุ่งหน้าเข้าเมืองอุดรธานี จากนั้นตนได้ขับรถกระบะตราโล่ตำรวจตามคนร้าย มีผู้ช่วยชื่อบอสนั่งข้างเบาะรถขับไปด้วย
จากนั้นคนร้ายได้ขับเข้าเมืองอุดรธานี ไปถึงห้าแยกในเมืองอุดรธานี มุ่งหน้าไปวงเวียนกลางอุดรฯ จากนั้นคนร้ายได้เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนคุณากรณ์ จ.อุดรธานี และเลี้ยวขวาเพื่อจะข้ามรางรถไฟ ระหว่างถึงทางข้ามรางรถไฟบ้านหนอง จ.อุดรธานี มีเสาไม้จำนวน 4 เสากั้น ทำให้รถยนต์ของผู้ก่อเหตุไปต่อไม่ได้
จากนั้นผู้ก่อเหตุได้จอดรถ นายโจ้ และสาวคนสนิท ได้ลงมาจากรถ ตนจึงเปิดไฟสูงใส่รถผู้ก่อเหตุ นายโจ้ได้เปิดฉากยิงปืนใส่รถของตนที่จอดด้านหลังห่างประมาณ 10 เมตร กระหน่ำยิงประมาณ 10 นัด จากนั้นตนได้บอกรุ่นน้องที่มากับตนว่า "หลบ มันมีปืน ปรับเบาะนอนราบพื้น" สิ้นเสียงปืน ผู้ก่อเหตุและสาวคนสนิทวิ่งข้ามสะพานไปอีกฝั่ง หลังเกิดเหตุตนรู้สึกตกใจมาก ตนพยายามจับตามร่างกายและศีรษะว่าถูกกระสุนปืนยิงเข้าตามร่างกายหรือไม่ แต่ก็ไม่มี ส่วนรุ่นน้องที่มากับตนก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
ทั้งนี้ ตอนที่ตนหลบกระสุนปืน ตนได้นึกถึงคุณงามความดีที่ตนทำมา และตนก็เชื่อว่าเครื่องรางของขลังที่ตนพกติดตัวช่วยคุ้มครองตนให้แคล้วคลาด คือเข็มกลัดหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด ตนติดไว้ที่หน้าอกฝั่งขวาในวันเกิดเหตุ
รวมถึงรูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบังคาร จ.พิจิตร เหรียญหลวงปู่สรวง รุ่น 1 เกจิอีสานใต้ ตนใส่คล้องคอ และหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้เนื้อว่าน ตนพกใส่กระเป๋าเสื้อ เหตุที่เกิดขึ้นตนคิดว่าคนร้ายตั้งใจก่อเหตุเอาให้ถึงตาย เขาคงคิดว่าตนตายแล้วจึงวิ่งข่ามฝั่งไปยังอีกฝั่ง นอกจากนี้ เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ตนเคยหลับในและประสบอุบัติเหตุขับรถตกถนนมาแล้ว จึงเชื่อว่าเป็นบารมีของเครื่องรางที่พกติดตัว
ต่อมา ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดที่คนร้ายมีการจอดรถทิ้งไว้ ลักษณะเป็นทางข้ามรางรถไฟ มีเสาไม้กั้น 4 เสา ก่อนถึงรางรถไฟ ถัดจากรางรถไฟไปจะเป็นสะพานข้ามลำคลองที่คนร้ายวิ่งข้ามสะพานในกล้องวงจรปิด
นางประดิษฐ์ จันทวงษ์ แม่ของเจ้าของรถมอเตอร์ไซต์ที่คนร้ายชิงไป เล่าว่า ตอนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.35 น. ลูกชายตนกำลังจูงรถมอเตอร์ไซต์เข้าบ้าน ระหว่างนั้นคนก่อเหตุทั้ง 2 คนได้วิ่งมาที่หน้าบ้านตน บอกกับลูกชายว่า "ขอยืมรถหน่อย" ลูกชายตนจึงตอบว่า "จะยืมไปไหน" ระหว่างที่ลูกชายพูดกับผู้ก่อเหตุ นายโจได้ถกเสื้อขึ้นมาให้เห็นอาวุธปืนที่เหน็บอยู่กับกางเกง ด้วยความกลัวลูกชายจึงยอมให้รถกับคนก่อเหตุไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่าสภาพจิตใจลูกชายตนแย่มาก และลูกชายก็ยังตกใจอยู่ ส่วนนายโจ้และสาวคนสนิทที่มาด้วยกัน ตนและลูกชายก็ไม่รู้จักกับเขา
ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปยังจุดที่คนร้ายไปจอดทิ้งรถองชาวบ้านที่ป่ารกร้าง ในหมู่บ้านนาทราย จ.อุดรธานี อยู่ห่างจากจุดที่มีการยิงรถตำรวจประมาณ 9.8 กิโลเมตร ลักษณะจุดที่คนร้ายทิ้งรถเป็นป่ารกร้าง มีบ้านเรือนขอฃชาวบ้านอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเพียงแค่ 2 หลัง