สหรัฐฯ พบ วัคซีนไฟเซอร์ - โมเดอร์นา ลดเสี่ยงติดเชื้อ 80% แม้ฉีดเพียงโดสเดียว

สหรัฐฯ พบ วัคซีนไฟเซอร์ - โมเดอร์นา ลดความเสี่ยงติดเชื้อได้ถึง 80% แม้ฉีดไปเพียงโดสเดียว และจะเพิ่มเป็น 90% เมื่อฉีดครบ 2 โดส

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) รายงานผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 ของ ไฟเซอร์ ( Pfizer) และโมเดอร์นา ( Moderna) ว่าสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ถึง 80% แม้ฉีดไปเพียงโดสแรก และจะเพิ่มเป็น 90% ในระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังจากที่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดส

โจ ไบเดน ทำได้ตามเป้า ฉีด วัคซีนโควิด ครบ 100 ล้านโดส ใน 100 วันแรก

CDC ระบุว่า ได้ทำการศึกษา และรวบรวมข้อมูลจากบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในสภาพการทำงานจริง รวมทั้งสิ้น 4,000 ราย ใน 8 รัฐทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 14 ธ.ค.63-13 มี.ค. 64 โดยพบประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อ ในเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังรับวัคซีนเข็มแรก แต่การฉีดครบ 2 เข็มจะเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น และสร้างภูมิคุ้มกันที่ยาวนานกว่า

ทั้งนี้วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา ต้องฉีดห่างกันราว 3-4 สัปดาห์ โดยผลการศึกษาใหม่นี้ ถือเป็นข่าวดี แต่ขณะเดียวกันก็มีความกังวลว่า ประชาชนจะคิดว่าประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มเดียวนั้นเพียงพอ และไม่กลับมารับวัคซีนเข็มที่ 2

CDC ยังระบุว่า ข้อมูลที่ได้จากการวิจัยครั้งใหม่นี้ สอดคล้องกับผลการศึกษาก่อนหน้านี้ โดยเมื่อเดือนกุมภาพัธที่ผ่านมา มีผลการศึกษาในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ ว่า วัคซีนของไฟเซอร์ สามารถป้องกันเชื้อได้ถึง 94%

ขณะเดียวกัน ในสหรัฐฯ CDC ระบุว่า รัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐนิวยอร์กมีการกลายพันธุ์ของโครานาไวรัสที่ต้องจับตามองถึง 4 สายพันธุ์ด้วยกัน สายพันธุ์ที่มีอันตรามากที่สุดในตอนนี้ คือ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ เพราะ การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของไวรัสในสายพันธุ์ดังกล่าวทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกโจมตีได้ง่ายขึ้น

เมื่อมาดูถึงประสิทธิภาพของวัคซีน ผลการวิจัยจากการทดลองของวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัท จอห์สัน แอนด์ จอห์นสัน ชี้ว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพการป้องกันโควิดเพียง 57% ในประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อเทียบกับ 72% ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นเพราะโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้นั้นมีการแพร่หลายไม่มากในสหรัฐฯ ส่วนวัคซีนแอสตราเซนเนกาสามารถป้องกันสายพันธุ์ดังกล่าวได้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ในผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางหรือไม่หนัก

ส่วนการกลายสายพันธุ์ชนิดอื่นๆที่ค้นพบแล้ว ได้แก่ สายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์บราซิล และ สายพันธุ์แทนซาเนียเป็นต้น

ที่มา - Voa, cnbc / ภาพจาก - AFP

พ่อพระ! "ไบเดน" ทุ่ม 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ บริจาคโครงการ "โคแวกซ์"

เนเธอร์แลนด์ระงับฉีด วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า ให้คนอายุต่ำกว่า 60 ปี