จากกรณีพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี รับแจ้งช้างทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิต บริเวณหน้าเดอะจังเกิ้ลเฮาส์ เขาใหญ่ ริมถนนธนะรัชต์ กม.19-20 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพนายราชัน ธีระพิทยาตระกูล อายุ 55 ปี นักวิชาการสุขาภิบาลชำนาญการพิเศษ ระดับ 8 เทศบาลนครนครราชสีมา สวมเสื้อแขนสั้นคอกลม กางเกงขาสั้นสีเทา สภาพศพถูกช้างเลี้ยงที่ผูกไว้ทำร้ายเตะเหยียบ จนกระดูกแขนขาหักผิดรูป
พบช้างเลี้ยงที่ควาญช้างผูกไว้ ชื่อเชอรี่ เพศเมีย อายุ 28 ปี ที่นำมาผูกให้นักท่องเที่ยวชม เหตุเกิดวันที่ 15 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 07.50 น.
ล่าสุด วันที่ 16 เม.ย. 64 ทีมข่าวย้อนกลับไปที่เกิดเหตุพบช้างพังเชอรี่ซึ่งมีท่าทีโมโหจะเดินออกมา ทีมข่าวจึงพยายามวิ่งออกให้ห่างจากบริเวณนั้น
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเดินทางไปรับร่างนายราชัน ประกอบพิธีการทางศาสนาที่วัดดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา มีการสวดพระอภิธรรม 2 คืน ก่อนทำการฌาปนกิจศพในวันที่ 18 เม.ย. 64 ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. มีการรดน้ำศพ ทำการสวดพระอภิธรรมศพ เวลา 17.00 น. บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นายชนะ ธีระพิทยาตระกูล อายุ 59 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ น้องชายของตนเองกลับมาจากไปรับลูกชายที่กรุงเทพฯ จึงได้แวะไปพักที่เขาใหญ่ซึ่งมีภรรยา และลูกรวม 4 คน พอตื่นเช้ามาก็ได้ขับรถคนเดียวขึ้นไปไหว้ศาลเข้าพ่อเขาใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล ขาลงจากเขาใหญ่ จึงเห็นช้างอยู่ริมถนนธนะรัชต์ ด้วยความเป็นคนรักช้าง จึงได้จอดรถไว้ฝั่งตรงข้ามถนน แล้วเดินไปซื้ออ้อยนำไปให้ช้างกิน โดยที่ไม่คาดฝันว่าความปรารถนาดีครั้งนี้จะทำให้ตนเองถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิต
ซึ่งจากการชันสูตรศพของแพทย์ ระบุว่าอวัยวะภายในร่างกายของน้องชาย เช่น ม้ามและตับ ถูกช้างใช้เท้าหน้าทั้ง 2 ข้างเหยียบจนเหลวแหลก ศีรษะยุบ แขนและขากระดูกหักหลายท่อน ส่วนคดีขณะนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หมูสี ได้แจ้งความเอาผิดควาญช้างแล้ว ในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนศพของน้องชาย ญาติก็จะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา
นางสุมาลี ธีระพิทยาตระกูล อายุ 50 ปี ภรรยาของนายราชัน เปิดใจว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 64 หลังสามีพาตนเองและลูกสาววัย 17 ปี ไปรับลูกชายวัย 22 ปี ที่กรุงเทพฯ เพื่อกลับมาทำเรื่องผ่อนผันเกณฑ์ทหาร ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. มาถึงที่พักห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. ช่วงบ่าย นอนพักผ่อน 1 คืน
จากนั้นเช้าของวันที่ 15 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 06.00 น. สามีชวนตนไปศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ห่างจากที่พักเพียง 5 กม. แต่ตนเองบอกว่าลูกยังไม่ตื่น หากไป 2 คนลูกตื่นมาจะไม่เจอใคร ก่อนที่สามีตนเองจะชงกาแฟให้ตนดื่มเป็นครั้งแรก แล้วสามีก็ออกไปคนเดียว ส่วนศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ สามีก็ไปเป็นประจำ เพราะเป็นสายบุญ ชอบไหว้พระ ทำบุญทำทาน จึงไม่แปลกว่าเห็นช้างก็เลยแวะให้อาหารช้าง รวมถึงช้างพวกนี้เวลาขับรถผ่านก็เห็นเป็นประจำ แม้แต่วันฝนตกควาญก็ไม่ได้ให้ช้างเข้าร่ม จึงเชื่อได้ว่านาทีนั้นสามีเต็มใจอยากให้อาหารช้างจริง
เวลาผ่านไปนานกว่าชั่วโมงตนเองก็ยังคิดว่าสามีไปนาน เวลาประมาณ 08.00 น. ญาติโทรศัพท์มาถามตนเองว่าอยู่กับสามีไหม มีเหตุช้างทำร้ายคนเกิดขึ้นที่โรงแรม เมื่อไปถึงก็พบว่าผ้าขาวไปคลุมสามีไว้แล้ว นาทีนั้นตนช็อก แอบมีความหวังว่าไม่ใช่สามี เพราะรถจอดอยู่อีกฝั่ง จากนั้นในช่วงบ่ายก็ได้ไปเชิญดวงวิญญาณสามี ทำตามประเพณีชาวโคราช มีการปั้นหุ่นเรียกชื่อสามีให้เข้าหุ่นแล้วกลับบ้าน เมื่อคืนนี้ก็ได้กลิ่นครีมทาผิวยี่ห้อโมชิโมชิที่ตนเองใช้อยู่ประจำ และสามีก็ใช้ด้วย คาดว่าสามีได้เดินทางกลับบ้านแล้ว
ทั้งนี้ เท่าที่ตนติดตามข่าวตนเองรู้สึกติดใจมาก กรณีที่ควาญช้างรู้อยู่แล้วว่าช้างตัวนั้นมีปัญหา มีอารมณ์ไม่ดีนานกว่า 3 เดือนแล้ว ทำไมถึงปล่อยเอาช้างออกมาโชว์ในที่โล่งแจ้ง แถมปล่อยช่วงทิ้งไม่มาดูแลอย่างใกล้ชิด ในฐานะคนใจบุญอย่างสามี และคิดว่าคนอื่นก็คงไม่รู้ว่าช้างมีอารมณ์โกรธอยู่แน่นอน จุดนี้อยากให้ควาญช้างและผู้เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาด้วย
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันเกิดเหตุตนเองยังไม่เห็นหน้าควาญช้าง หรือคนของโรงแรมในฐานะผู้ว่าจ้าง เบื้องต้นญาติบอกว่ามีการติดต่อมาขอเป็นเจ้าภาพจัดงาน ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดี มีการแสดงเจตนารับผิดในเบื้องต้น แต่ตนเองคงไม่เรียกร้อง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และการมีจิตสำนึก ต้องขอบคุณเทศบาลฯ เพื่อน ๆ และหัวหน้างานของสามีที่เข้ามาช่วยจัดการทุกอย่างให้ ตอนนี้ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่อนาคตก็รู้สึกเคว้งคว้าง เพราะเสาหลักไม่อยู่แล้ว ลูก 2 คนก็วัยกำลังเรียน เส้นทางที่จะพากันไปก็ยังมืดมน
อย่างไรก็ตาม นายราชันได้บริจาคร่างกายไว้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย แต่ทุกอย่างในร่างกายเสียหายทั้งหมด ยิ่งทำให้ครอบครัวรู้สึกหดหู่ รู้สึกว่าทำไมครอบครัวต้องเจอเหตุเลวร้ายขนาดนี้
ด้าน พ.ต.อ. ชูสิทธิ์ หล่อแสง ผกก.สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สอบถามเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลหมูสี ทั้ง 3 คน ที่เคยเข้าไปช่วยหญิงสาวที่ถูกช้างเชอรี่ ทำร้ายขณะที่เอาอาหารไปให้ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 ช่วงบ่าย
โดยช้างได้ทำร้ายนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ฟันหัก 2 ซี่ รวมทั้งบาดเจ็บที่ลำตัว โชคดีที่พนักงานโรงแรมเข้ามาช่วยเหลือดึงตัวออกมาทัน ซึ่งในวันนั้นก็ไม่มีควาญช้างอยู่เช่นกัน แต่นักท่องเที่ยวสาวไม่ขอเอาเรื่อง
นอกจากนี้ ช้าง 2 ตัว ชื่อเชอรี่ หรือ ลำไย และป๋อมแป๋ม หรือ สายรุ้ง เป็นของนาย เพ็ง ยิ้มรัมย์ หรือ ควาญน้อย อายุ 51 ปี ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 10,000 บาท และอีก 1 ตัวชื่อ พังบัวบาน เป็นของโรงแรม และเมื่อมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ นั่งช้างชมป่า จะได้อีก 10 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากนักท่องเที่ยว
ซึ่งจากการสอบสวนได้แจ้งข้อหากับนายเพ็ง ยิ้มรัมย์ อายุ 51 ปี หรือ ควาญน้อย, นายสรุศักดิ์ ใจกล้า และนายคำพันธ์ ศาลางาม ควาญช้างทั้ง 3 คน ในข้อหาร่วมกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย