มาร์ติน บิซการ์รา อดีตประธานาธิบดีเปรู ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี หลังใช้อภิสิทธิ์แซงคิวฉีดวัคซีนโควิดก่อนประชาชนทั่วไป
มาร์ติน บิซการ์รา ใช้อิทธิพลในฐานะประธานาธิบดีของประเทศในการแทรกแซง สมคบคิด ตลอดจนให้การเท็จ เพื่อให้ตนเองและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลหลายคนได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทซิโนฟาร์ม จากจีน เป็นกลุ่มแรกๆ ของประเทศ ก่อนที่วัคซีนจะถูกนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนทั่วไป
สมาชิกรัฐสภาเปรูลงคะแนนโหวตด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 86 ต่อ 0 เสียง ให้ บิซการ์รา ถูกตัดสิทธิ์จากดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นระยะเวลา 10 ปี
ขณะที่ สองรัฐมนตรีที่มีส่วนรู้เห็นในการลัดคิวฉีดวัคซีน ทั้ง ปิลาร์ มัซเซตติ อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 8 ปี และ เอลิซาเบธ อัสเตเต้ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ โดนตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 1 ปี
ก่อนหน้านี้ บิซการ์รา ได้ออกมาแถลงเมื่อเดือน ก.พ. โดยอ้างว่า เขาและภริยาได้ฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือน ต.ค. ปีที่แล้ว เนื่องจากเป็น “อาสาสมัคร” ทดลองวัคซีนซิโนฟาร์มในเปรู ทว่าทางมหาวิทยาลัยซึ่งดำเนินการทดลองวัคซีนตัวนี้ ยืนยันว่าข้ออ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริง
การตัดสิทธิทางการเมืองของอดีตผู้นำเปรู และสองรัฐมนตรีในครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดของเปรูได้เพิ่มจำนวนเป็น 1,689,051 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดของเปรูอยู่ที่ 56,454 ราย
Advertisement