ทะเลาะแฟนแล้วพาล! หนุ่มสิงคโปร์แกล้งโทรขู่วางระเบิดสายการบิน พอโดนรวบจริงอ้างแค่แกล้งไม่คิดว่าเรื่องใหญ่
พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมตำรวจสน.ดอนเมือง ร่วมกับ ตม.2 และเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานดอนเมือง ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายโฮ ไวท์ ฉ่อง อายุ 37 ปี ชาวสิงคโปร์ โดยจับกุมได้ภายในท่าอากาศยานดอนเมือง พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือที่มีบันทึกการโทรออก 1 เครื่อง
การจับกุมชายชาวสิงคโปร์รายนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 14.40 น. วันที่ 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งจากพนักงานสายการบินหนึ่ง ที่อยู่ในท่าอากาศยานดอนเมือง ว่า มีชายปริศนาพูดไม่ชัดเสียงคล้ายคนจีนโทรเข้ามาที่ประชาสัมพันธ์ของท่าอากาศยาน โดยจับใจความได้ว่า “รู้มั้ยสายการบินแอร์เอเชียที่ไปหาดใหญ่มีระเบิด” จากนั้นเจ้าหน้าที่ของการท่าอากาศยานได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกับสายการบินเอเชีย ประกาศใช้แผนฉุกเฉินยกเลิกเที่ยวบิน จากท่าอากาศยานดอนเมืองเดินทางไปท่าอากาศยานหาดใหญ่ เที่ยวบินที่ FD3114 ของวันที่ 21 โดยทันที
จากนั้นฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้ทำการตรวจสอบเบอร์ที่โทรเข้ามาแจ้ง และประวัติการซื้อตั๋วเดินทาง จนสามารถระบุตัวตนเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ได้อย่างชัดเจน ประกอบกับพบสัญญาณครั้งสุดท้ายในพื้นที่สนามบิน เชื่อว่าคนร้ายจะคงอยู่ในพื้นที่สนามบิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนต่อจนทราบว่าผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์สีดำ มาจอดที่สนามบินดอนเมือง และขับออกไปภายหลังก่อเหตุ
กระทั่งวันที่ 22 พ.ย. เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ในสนามบิน ได้รับแจ้งพบรถคันดังกล่าวขับมาจอดภายในสนามบินดอนเมือง โดยมีการถอดป้ายทะเบียนหน้าออก จึงเชื่อว่าเจ้าของรถคันนี้น่าจะอยู่ในสนามบิน กระทั่งพบเห็นชายซึ่งมีลักษณะตรงตามภาพวงจรปิด เดินอยู่บริเวณสนามบิน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและ ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางบุคคลดังกล่าว ทราบชื่อ MR.HO WAI CHONG (โฮ ไวท์ ฉ่อง) สัญชาติสิงคโปร์ ซึ่งหนังสือเดินทางปรากฎอยู่เกินกำหนดอนุญาต (OVER STAY) เป็นจำนวน ทั้งสิ้น 28 วัน
จากการสอบสวน MR.HO WAI CHONG (โฮ ไวท์ ฉ่อง) ให้การว่า ยอมรับว่าได้เป็นคนโทรว่ามีระเบิดบนเครื่องจริง โดยก่อนหน้าตนเองมีปากเสียงกับแฟนสาว มา 2-3 วันแล้ว ซึ่งแฟนสาวบอกว่าจะเดินทางกลับบ้านที่ภาคใต้ จึงเดินทางมาที่สนามบินเพื่อที่จะตามหาแต่ไม่เจอ คิดว่าแฟนคงกำลังจะเดินทางด้วยเที่ยวบินนี้ กลับบ้านเกิด จังหวะมองไปเห็นเบอร์โทรศัพท์ติดไว้จึงกะว่าจะโทรแกล้งเฉยๆ ถ้าเครื่องยกเลิกเที่ยวบินได้แฟนสาวก็จะไม่ไปจากตัวเอง ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVER STAY)” และหากพบว่ามีการทำผิดตาม พรบ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 " ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ และถ้าการกระทํานั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนสน. ดอนเมือง ได้นำตัวฝากขังแล้ว
Advertisement