หากคุณยังจำ วลีเด็ดที่ออดอ้อน และบทเพลง “ไก่จ๋า” เป็นอีกเอกลักษณ์ของสายัณห์ สัญญา ที่มาจากการสร้างสรรค์คำของ ปิยะ ตระกูลราษฎร์ ซึ่งสำหรับแฟนหนังแล้ว ปิยะอาจเป็นพระเอกตัวจริง แต่สำหรับสายัณห์ สัญญา เขาเป็นทั้งนักแต่งเพลงประจำตัว และเป็นเพื่อนคู่หูที่เคยคลุกคลีทำงานร่วมกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นในหัวใจ ทำให้คุณอาปิยะ แต่งบทเพลงหวานๆซึ้งๆขึ้นจากประสบการณ์ความรักของตัวเอง
ปิยะ ตระกูลราษฎร์ เล่าว่า เป้าหมายในการแต่งเพลงคือต้องการเขียนทั้งหมดให้คนๆนั้นที่เป็นอดีตคนรักได้ยิน เพราะจะไปเดินบอกตามถนนก็คงไม่ได้ จึงคุณสายัณห์ สัญญา นักร้องที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วในช่วงนั้น มาถ่ายทอด ผ่านเนื้อเพลงให้ผู้หญิงคนนั้นได้รับรู้ว่าชีวิตของเราเป็นแบบนี้
“โปรดจงรักเขานานๆ เปรียบเหมือนลบรอยชอล์กบนกระดาน โปรดจงรักเขานานๆ ลืมฉันเสียเถิดไก่จ๋า” ซึ่งเนื้อเพลงจะไม่มีการว่าผู้หญิง แต่เป็นการชื่นชมมากกว่า
หลังจากนั้นหลาย 10 ปี
คุณปิยะ ตระกูลราษฎร์ ได้กลับมาพบเจอกับอดีตคนรักที่เคยแต่งเพลงให้ จนได้พูดคุยไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบ และยังได้แต่งเพลงให้อดีตคนรักร้องแก้อีกด้วย
คุณปิยะ ตระกูลราษฎร์ เล่าว่าเป็นการเจอกันโดยบังเอิญในปั๊มน้ำมัน ระหว่างจอดรถเติมน้ำมันได้หันไปมองรถคันข้างๆ เห็นว่าผู้หญิงคนนี้หน้าคุ้นๆ ต่างคนต่างมองหน้ากัน ทักทายแล้วไปคุยกันที่ร้านอาหารใกล้ๆ เมื่อได้คุยกันก็เกิดอาการอึกอักทำอะไรไม่ถูก ก็ได้เขียนเพลงใหม่ขึ้นมาหนึ่งเพลง
จากนักแสดงจอแก้วเลื่องชื่อ และนักแต่งเพลงชื่อดัง อีกหนึ่งอาชีพที่กลายเป็นอีกภาพจำของคนรักแม่ไม้มวยไทย กับนักพากย์ฝีปากเด็ด ประสบการณ์จากการแสดง และความรักในภาษาไทยทั้งจากการสวดมนต์ อ่านบทกลอน ได้หลอมรวมมาเป็นลีลาการพากย์เสียงที่ไม่เหมือนใคร แต่กว่าจะเป็นที่รู้จักนั้น บอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย
ปิยะ ตระกูลราษฎร์ เล่าว่า ตอนนั้นเหลือเวลาประมาณ 10 นาที มวยกำลังจะออนแอร์ แต่นักพากย์ไม่มา เจ้าของรายการเลยบอกเพื่อนเราว่าอยากให้เรามาช่วยพากย์มวยให้ ก็เลยได้ลองดูในการพากย์ ครั้งแรกคนก็เขียนจดหมายมาด่าว่า “เล่นหนังชอบ แต่งเพลงเยี่ยม แต่พากย์มวยอย่าเลยเสียวงการ” แต่ที่สุดแล้วตนก็ยังไม่ลดละความพยายาม ก็เลยได้ตั้งใจฝึกฝนตัวเองอีกครั้ง
ปิยะ ตระกูลราษฎร์ บอกว่า เมื่อเราไม่ทันมวยเราก็ต้องซ้อม กลับมาบ้านก็เปิดทีวีดู ปิดเสียงแล้วซ้อมพากย์ ผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่เมื่อตนเองเป็นนักแต่งเพลงก็ไม่อยากพากย์เหมือนคนอื่น จึงต้องสรรหาคำมาพูดเอ็นเตอร์เทนคนดู อาทิ ขอยืมปลายคางไว้วางเท้า, เกาะเกี่ยวเหนี่ยวตี, กินปูนร้อนท้องแต่กินเข่าร้าวทั้งร่าง ฯลฯ ซึ่งลีลาพากย์มวยแบบนี้ ที่คอมวยตู้ถูกใจ เพราะไม่เพียงสนุก แต่ยังใช้ภาษาได้ชัดเจน ถูกต้อง มีความหมายลึกซึ้ง นี่เป็นแค่ความสามารถอีกด้านหนึ่งของ ปิยะ ตระกูลราษฎร์ ปัจจุบันคุณปิยะ ตระกูลราษฎร์ยังมีผลงานในวงการอยู่มากมาย และยังเป็นที่รักของเพื่อนพี่น้องในวงการนักมวยอีกด้วย