จากกรณีเมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 17 เม.ย. 64 พ.ต.ท.อนุรักษ์ ดีคล้าย สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุชายถูกยิงเสียชีวิต ภายในชุมชนวัดสามัคคีศรัทธาราม (วัดโกรกกรากใน) ต.โกรกกราก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ตำรวจสายตรวจ และฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุพบศพ นายสุวินัย ลาจันทึก อายุ 29 ปี บ้านอยู่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 4 นัด แขนซ้าย 3 นัด ไหปลาร้า 1 นัด และแขนขวา 1 นัด บนพื้นมีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 9 ปลอก นอกจากนั้นรถเก๋งที่จอดอยู่ใกล้กันยังมีรูกระสุนปืน
ส่วนมือปืนนั้น ถูกเพื่อนผู้ตายและชาวบ้านช่วยกันจับไว้ได้ ในสภาพถูกรุมกระทืบเลือดอาบ ทราบชื่อคือ นายนิวัตร สุขเกตุ อายุ 30 ปี ได้นำส่งโรงพยาบาลสมุทรสาครแล้ว
วันที่ 18 เม.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ไปยังภายในชุมชนวัดสามัคคีศรัทธาราม หรือวัดโกรกกรากใน ต.โกรกกราก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งจากที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปปรากฏว่าพบคราบเลือดของผู้ตาย มีกองทรายถมปกปิดคราบเลือดไว้ และมีดอกไม้ธูปเทียนจากญาติผู้ตายมาเรียกเชิญดวงวิญญาณไว้ตั้งแต่ช่วงหลังเกิดเหตุ
นายสง (นามสมมติ) ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นฟ้า 1 นัด จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนยิงรัวเป็น 10 นัด จากนั้นออกมาดูบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ามีเด็กวัยรุ่นจำนวน 7-8 คน กำลังชุลมุนกันอยู่ และเหตุการณ์ในนั้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่น ที่หมู่บ้านอื่นมานั่งดื่มเหล้ากินกันกับเด็กวัยรุ่นภายในซอยวัดโกรกกรากในสภาพศพตอนนั้นถูกยิงหลายบาดแผล จนนอนแน่นิ่งฟุบลงกับพื้น สร้างความสะเทือนใจกับคนที่ออกมาดูเป็นอย่างมาก
ระหว่างนั้นตนก็ได้เห็นเด็กกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 7-8 คน ได้ช่วยจับตัวมือยิง โดยขณะที่จับตัวได้แล้ว ก็ยังคงยิงใส่ตัวผู้ตายอีก จนทำให้วัยรุ่นที่กำลังจับตัวอยู่ รุมกระทืบผู้ก่อเหตุอย่างไม่ยั้ง ต่อมาก็ได้มาทราบว่าผู้ก่อเหตุกับผู้ตายเป็นเพื่อนกัน และเคยทำงานที่เดียวกันมาก่อน แต่ไม่มีใครทราบว่าทั้ง 2 มีปัญหาทะเลาะหรือผิดใจกัน
น.ส.นุ่น (นามสมมติ) ภรรยาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อคืนนี้ก่อเกิดเหตุ ได้มีการนัดกันมากินเลี้ยงสังสรรค์งานวันเกิดของเพื่อนสาวในกลุ่มของสามี ตนก็ได้มานั่งอยู่กินด้วย ขณะที่นั่งกินกันอยู่ ตนก็สังเกตเห็นว่าทางผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุดังกล่าว มาวนเวียนอยู่ก่อนแล้ว 1 รอบ หันมาดูบริเวณพื้นที่ที่กำลังกันอยู่ หลังจากนั้นไม่นานเวลา 22.00 น. ก็ได้มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แวะมาตักเตือนว่าควรจะหยุดสังสรรค์กันได้แล้ว เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์โควิด-19 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถออกไป ตน สามี และเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ได้ช่วยกันเก็บของจะกลับบ้าน
จากนั้น ตนก็ได้เดินไปร้านขายของชำที่อยู่ตรงกันข้ามกับศาลาวัด ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทุกคนในบริเวณดังกล่าวหันมาดู และรีบหาที่หลบกัน แต่ปรากฏว่าภาพตอนนั้นที่ตนหันไปเห็น ทางผู้ก่อเหตุใช้ปืนยิงรัวไปกลุ่มที่กำลังเก็บของกันอยู่ ต่อมาทางกลุ่มเพื่อนก็ได้ช่วยกันจับตัวผู้ก่อเหตุ รุมกระทืบไม่ยั้ง ตนรีบวิ่งไปดูในเหตุการณ์ ปรากฏว่าคนที่ถูกยิงรัวจนหมดแม็ก คือสามีของตนเอง รู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ขณะนั้นได้แต่นั่งกอดสามีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนไม่เคยรู้จักกับทางผู้ก่อเหตุ แต่ทราบมาว่าทางสามีรู้จักกับผู้ก่อเหตุ เนื่องจากเคยทำงานที่เดียวกัน และทางสามีของตนก็เพิ่งจะออกจากงานดังกล่าวนั้นมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ส่วนปมปัญหาตนไม่เคยทราบ
ทีมข่าวได้ทราบข้อมูลเรื่องปมปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า เรื่องดังกล่าวนี้เกิดมาจากปมปัญหาเรื่องเงิน ผู้ตายได้ไปยืมเงินคนหนึ่งจำนวน 100,000 บาท และไม่ยอมจ่ายเงินที่ยืมคืนให้ และได้หนีออกมา จากนั้นไม่นานถูกคนมารุมกระทืบ จนผู้ตายต้องกลับไปทำงานต่อ จนเหลือเงินที่ต้องจ่ายชดใช้อีกจำนวน 30,000 บาท และไม่กลับไปทำงานต่อ จากนั้นหัคนมีอิทธิพลสั่งให้ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเพื่อนที่เคยทำงานร่วมกันไปยิงสั่งสอน ไม่ได้สั่งให้ถึงตาย แต่ทางผู้ก่อเหตุมีอาการมึนเมาอยู่ด้วยขาดสติจึงยิงถึงตาย
ทีมข่าวได้รับคลิปวิดีโอช่วงเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ญาติอ้างว่าวิญญาณผู้เสียชีวิตได้มาเข้าร่างแม่ภรรยาของผู้เสียชีวิต โดยระหว่างที่ได้เข้าร่างมีการอาการร่มห่มร้องไห้ตลอดเวลา และมีการพูดกล่าวว่า "ตนทำผิดอะไร ถึงได้มายิงตน เพราะตนไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ยิงตนทำไม" โดยมีการพูดถามประโยคซ้ำอยู่หลายครั้ง จนทางภรรยาที่ช่วยประคองนั่งอยู่ข้าง ๆ ต้องคอยลูบศีรษะ จับมือ และสั่งวิญญาณสามีว่าอย่าออกกำลังมาก เนื่องจากทางแม่ภรรยามีอายุมากแล้ว
