ผัวหึงโหดยิงเมีย-เป่าขมับตายตาม ญาติช็อกเจอข้อความสั่งลาในเฟซบุ๊ก (คลิป)

วันที่ 18 เม.ย. 64 ร.ต.ท.ศุภวัฒน์ มนัสชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต ภายในปั๊ม ปตท.วังตะเคียน หมู่ 3 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะตู้ทึบยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ สปาร์ค สีขาว จอดติดเครื่องอยู่ ตัวถังมีรอยกระสุนปืนเจาะทะลุ 1 รู

ภายในด้านหน้าฝั่งคนขับพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อ นายประพันธ์ เพ็งพาณิช อายุ 25 ปี สภาพโน้มตัวไปที่ตักของฝ่ายหญิง  ซึ่งสวมใส่เสื้อลายทางเหลือง-น้ำเงิน กางเกงยีนส์ ถูกยิงบริเวณขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด

และฝั่งซ้ายที่นั่งโดยสารพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ทราบชื่อ นางสาวพรรณิดา นุชดี อายุ 28 ปี สภาพลำตัวพิงเบาะ ศีรษะพิงประตูรถ สวมใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ ถูกยิงขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด ใต้ราวนม 2 นัด นอกจากนี้ มีอาวุธปืนยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปภายในปั๊ม ปตท.วังตะเคียน หมู่ 3 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พบว่าจุดที่ผู้เสียชีวิตนำรถไปจอดยังคงมีคราบเลือดบริเวณพื้นของลานจอดรถจุดใหญ่ 1 จุด และจุดเล็กระจายตัว  1 จุด

น.ส.สุนันท์ พลรักษา อายุ 33 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่า วานนี้ช่วงเวลา 22.00 น. ตนได้ไปเคาะกระจกรถของผู้เสียชีวิต เพื่อไปแจ้งว่าปั๊มน้ำมันปิดให้บริการแล้ว ขณะนั้นผู้เสียชีวิตได้ลดกระจก 1 คืบไว้ แต่ตนไม่ได้เห็นชัดว่าเสียชีวิตหรือไม่ เห็นเพียงคนนอนหลับ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมืด จึงโทรแจ้งไปยังผู้จัดการของปั๊มน้ำมันว่ามีรถจอดอยู่ ซึ่งตนไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลน่าจะเมาแล้วนอนหลับไป

ต่อมาเวลา 13.00 น. ตนมาทำงานยังเห็นว่ารถกระบะตู้ทึบของผู้เสียชีวิตยังจอดอยู่ จึงเดินวนไปดู และได้ตัดสินใจส่องดูผ่านทางช่องกระจก ซึ่งผู้เสียชีวิตและแฟนสาวนอนในท่าเดิม โดยผู้ชายโน้มตัวไปที่ตักของฝ่ายหญิง ส่วนฝ่ายหญิงศีรษะพิงกระจกก้มหน้าลง ขณะนั้นคิดว่าน่าจะไม่ปกติแล้ว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้มาตรวจสอบ พบว่าผู้เสียชีวิตและแฟนสาวเสียชีวิตแล้วจากการถูกยิง ซึ่งตนไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตและแฟนสาวถูกยิงตรงบริเวณไหนบ้าง แต่คาดว่าฝ่ายชายน่าจะเป็นคนลงมือยิงฝ่ายหญิงก่อน และได้ตัดสินใจยิงตัวเองตาม เนื่องจากตรงบริเวณมือขวาของผู้ชายยังแข็งคล้ายกับถืออาวุธปืน นอกจากนี้อาวุธปืนหล่นตรงบริเวณที่ไว้เท้า ส่วนสาเหตุที่ผู้เสียชีวิตตัดสินใจยิงแฟนสาวนั้นตนไม่ทราบ เพราะไม่รู้จากการเป็นการส่วนตัว

ก่อนเกิดเหตุตนไม่แน่ใจว่าผู้เสียชีวิตเข้ามาใช้บริการที่ปั๊มน้ำมันตั้งแต่เวลาไหน แต่ปกติแล้วผู้เสียชีวิตจะมาใช้บริการในช่วงเวลา 20.00 น. และขณะที่ผู้เสียชีวิตได้ก่อเหตุยิงแฟนสาวหรือยิงตัวเองนั้น ตนและพนักงานในปั๊มน้ำมันไม่มีใครทราบว่ายิงในช่วงเวลาไหน และไม่มีใครได้ยินเสียงปืน นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตมักจะมาใช้บริการที่ปั๊มน้ำมันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งบางครั้งก็มาใช้บริการเพียงคนเดียว และบางครั้งก็มาใช้บริการกับแฟนสาว และจะมาจอดรถนอนหลับพักผ่อนอยู่เป็นประจำ

นายสำรวย เพ็งพาณิช อายุ 56 ปี พ่อของนายประพันธ์ เปิดผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์มีชาวบ้านได้ไปแจ้งว่าลูกชายของตนนั้นเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ท่าตะเคียน จากการยิงตัวเอง พอตนทราบตนหัวใจแทบสลาย และรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนั้นไม่ได้เข้าไปดูศพลูกชายอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเห็นชาวบ้านมุงกัน ก่อนเกิดเหตุลูกชายไม่ได้โทรศัพท์มาติดต่อหรือมาร่ำลา ตนทราบเพียงว่าวันศุกร์ที่ 16 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา ช่วงสายลูกชายได้เดินทางไปส่งยาล้างไตให้กับโรงพยาบาลในอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ จากนั้นวานนี้ช่วงเย็นได้เดินทางไปรับลูกสะใภ้กลับจากบ้านของเขา เพื่อจะกลับบ้าน แต่คาดว่าน่าจะแวะมาที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว และอาจจะมีปากเสียงกันเกิดขึ้น

แต่ก่อนหน้านี้วันที่ 14 เม.ย. 64 ยอมรับว่าลูกชายได้ทะเลาะกับลูกสะใภ้ คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องหึงหวง เพราะต่างฝ่ายต่างทำงานกันคนละที่ ซึ่งตนก็ได้พยายามสั่งสอนให้ลูกชายนึกถึงลูก ๆ ของพวกเขา ค่อย ๆ พูดคุยกัน นอกจากนี้อาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนของตนเองที่เพิ่งซื้อมา มีใบได้รับอนุญาต เพียงแต่ยังไม่ได้โอนชื่อ ตนไม่ทราบว่าลูกชายนำไปใช้เองตั้งแต่เมื่อไร

ส่วนตนมีลูกชาย 3 คน ผู้เสียชีวิตเป็นลูกชายคนกลาง เป็นเสาหลักของครอบครัว นอกจากนี้ลูกชายของตนก็มีลูก 3 คนเช่นกัน โดยเป็นฝาแฝดหญิง อายุ 4 ปี และผู้ชายอายุ 1 ขวบ 7 เดือน ภายหลังจากเกิดเหตุยังไม่ได้บอกหลาน ๆ ทั้ง 3 คน แต่หลังจากนี้ตนก็คงจะเลี้ยงดูหลานชาย ส่วนหลานสาวฝาแฝดก็คงให้ไปลูกสะใภ้เป็นคนเลี้ยงดูต่อไป สำหรับลักษณะนิสัยของลูกชายนั้นเป็นคนทำมาหากิน ไม่ได้เจ้าชู้ แต่งงานกับทางลูกสะใภ้ได้ 5-6 ปีแล้ว แต่อาจมีบ้างที่มีปากเสียงกัน ส่วนลูกสะใภ้ก็ขยันทำมาหากิน ทำงานอยู่โรงงาน

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียใจ ขณะนี้ยังมึนงงทำอะไรไม่ถูก ไม่มีอะไรจะพูดกับลูกชาย เพราะมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว

ก่อนเกิดเหตุ ฝ่ายชายมีการโพสต์เป็นนัยว่า "สิ่งที่กูคิดไม่ผิดจริงๆ" รวมถึงโพสต์ก่อนเกิดเหตุที่เป็นอิโมจิสัญลักษณ์ร้องไห้ด้วย

ด้าน นายสมบัติ นุชดี อายุ 49 ปี พ่อของ น.ส.พรรณิดา เผยว่า ก่อนเกิดเหตุวันพุธที่ 14 เม.ย. 64 ลูกเขยได้มาส่งลูกสาวของตนที่บ้าน แต่ไม่ได้บอกว่าทะเลาะเรื่องอะไร พอลูกเขยออกจากบ้านไป หลานสาวฝาแฝดได้มาฟ้องว่าพ่อนิสัยไม่ดี จิกผมแม่ ตนได้สอบถามลูกสาว แต่ลูกสาวปฏิเสธว่าไม่ได้มีปัญหากัน กระทั่งวันศุกร์ที่ 16 เม.ย. 64 ลูกเขยที่กลับมาจาก จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาที่บ้านของตนในเวลา 16.00 น. พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษพลั้งมือทำร้ายลูกสาวของตน

โดยตนก็ได้อภัยไม่ถือโทษโกรธ พร้อมกับสั่งสอนให้ใจเย็น จะทำอะไรให้คิดถึงลูกทั้ง 3 คนให้มาก จากนั้นลูกเขยก็ได้ลาบอกว่าจะกลับไปทำงาน ส่วนลูกสาวของตนก็ไปพร้อมกับลูกเขย ส่วนสาเหตุที่ลูกเขยยิงลูกสาวตนนั้น คาดว่าน่าจะเป็นปมเรื่องหึงหวงเพราะเนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่นานมีเพื่อนผู้ชายของลูกสาวได้มากดรูปหัวใจให้ในเฟซบุ๊ก อาจทำให้ลูกเขยน้อยใจและกังวลคิดมาก ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าลูกสาวของตนไม่ได้นอกใจลูกเขย ภายหลังจากเกิดเหตุการยอมรับว่าเสียใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ และอยากฝากบอกลูกสาวว่าให้ไปอย่างสบายไม่ต้องห่วงอะไร