วงแตกอีกรอบ! พุทธะเทพฯ ฉุนสื่อจี้ปมขยี้กามศิษย์ สาวโผล่อ้างถูกไอ้โม่งย่ำยีคาวัด (คลิป)

19 เม.ย. 64

ความคืบหน้ากรณีลูกสาวได้ร้องเรียนว่า แม่สายบุญถูกหลอก หลังไปทำบุญกับพระรูปหนึ่งที่แต่งกายไม่เหมือนพระทั่วไป อ้างว่า สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงโรคโควิด-19 ได้ แถมยังกล่าวอ้างว่ามีอภินิหารต่างๆ จนแม่ถึงขั้นสบทบเงินทำบุญ และสร้างที่พักสงฆ์ภายในของตัวเองนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปะทะเดือด! ลูกบุกชิงตัวแม่จากลัทธินุ่งดำ ถก "เทพสุริยะ" วงแตกสาวกพาหนีสื่อ

- ลูกสุดทนแฉแม่บูชา "พุทธะเทพสุริยะ" ลัทธิใหม่นุ่งดำเสกโควิดหาย อึ้งคลิปลับดูดมะเร็ง
- เจ้าลัทธิ "เทพสุริยะ" เปิดใจโต้ลวงสาวกดูดเงิน ปัดโชว์ฤทธิ์ดูดแผ่นดิน-บินเหินฟ้า

วันที่ 19 เม.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ดินแดนปฏิบัติธรรมพุทธะธรรมชาติ ดงพญาเย็น หมู่ 16 ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นที่สถานที่ปฏิบัติธรรม โดยตั้งอยู่บนเขาชาวบ้านเรียกพื้นที่บริเวณนั้นว่า "หินเพลิง"

277301

เวลาประมาณ 9.30 น. นายวรแสน ประสงค์ ปลัดอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำทีมเข้าตรวจสอบ ขณะที่ลงพื้นที่ หลวงปู่พุทธะเทพสุริยะ ได้นั่งอยู่ในศาลาปฏิบัติธรรม ลักษณะคล้ายอาศรม

843848

นายวรแสน ประสงค์ ปลัดอำเภอ อ.ปะคำ เปิดเผยว่า ประเด็นหลักที่เข้ามาตรวจสอบคือ เรื่องของที่ดิน หรือที่ตั้งของที่พักสงฆ์ ซึ่งหลวงปู่ได้มาอยู่ 4-5 ปี หลังจากนี้จะต้องไปตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นที่ดินของ สปก. , ทบ.5 หรืออื่น ๆ แต่จากการสอบถามเบื้องต้นที่ดินนี้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ด้วยเหตุนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายข้อใดหรือไม่ ส่วนเรื่องของตรวจสอบว่าเข้าข่ายหลอกลวงต้องไปพิจารณากันอีกครั้ง

โดยวันนี้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่และพูดคุยกับหลวงปู่ แต่มีโอกาสสอบถามเพียงไม่กี่คำถาม เพราะหลวงปู่เดินหนีไปก่อน จึงยังไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก

796622

หลวงปู่พุทธะ เทพสุริยะจักรวาล หรือชื่อจริงตามบัตรประจำตัวประชาชนคือ นายพุทธะ เทพสุริยะจักรวาล อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า ตนไม่ใช่พระสงฆ์ เป็นแค่คนธรรมดา เพราะตนสึกออกมาประมาณ 4-5 ปีแล้ว ตนยังยืนยันว่าไม่เคยบอกว่ารักษาโรคโควิด-19 ได้ และไม่เคยแสดงอิทธิฤทธิ์ร่ายมนตร์ดึงแผ่นดินไทย-ลาวตามที่ข่าวที่ออกไป แต่เป็นเรื่องที่มโนจากความศรัทธาของลูกศิษย์ที่นำไปพูดต่อกันเท่านั้น ส่วนการนำไม้เท้าเคาะศีรษะของลูกศิษย์ เป็นแนวทางปฏิบัติของตน เพื่อให้พรแก่ลูกศิษย์ และตนอมรับว่าหลักคำสอนของตนนั้นแตกต่างจากหลักพระพุทธศาสนาทั่วไป แต่ที่คล้ายคลึงกัน คือ สอนให้คนเป็นคนดี คิดดี ทำดี

154138

ทั้งนี้ ตนสึกจากการเป็นสงฆ์ เพราะแนวทางการปฏิบัตินั้นไม่ตรงกัน และตนไม่ต้องการยึดแนวทางของสงฆ์ เช่น ถ้าเป็นสงฆ์สามารถฉันอาหารได้ 2 มื้อเท่านั้น แต่ถ้าเป็นคนธรรมดากินกี่มื้อก็ได้ ส่วนกรณีภาพที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลว่ามีพระสงฆ์ก้มกราบตนนั้น มองว่าเป็นเรื่องของสงฆ์ที่จะต้องไปลงโทษกันเอง เพราะตนไม่สามารถไปบังคับใครได้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สอบถามเรื่องประวัติส่วนตัว และถามว่า "สุปฏิปันโน" แปลว่าอะไร แต่หลวงปู่ได้ย้อนกลับว่าจะถามเพื่ออะไร เพราะตนไม่ใช่พระสงฆ์ ต้องไปถามพระสงฆ์เอง นอกจากนี้ หลวงปู่พุทธะโชว์บัตรประชาชนและหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ นยันว่าตัวเองไม่ได้กระทำผิด และยังบอกว่าตนเองเป็นผู้เสียหาย แต่หลวงปู่ให้ดูเพียงไม่กี่นาที ทีมข่าวขอดูอีกครั้งก็เอาไปเก็บ อ้างว่าพอแล้ว

หลวงปู่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดกระบี่ เป็นคนใต้ แต่หลวงปู่ได้ออกมาจากบ้าน ก่อนที่จะมาบวชที่ จ.ศรีสะเกษ และออกธุดงค์อยู่ตลอด ตัดสินใจสึกแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นนายพุทธะ เทพสุริยะจักรวาล ก่อนจะเดินทางมาอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ นอกจากนี้ หลวงปู่ได้ยืนยันว่า ไม่เคยขอรับบริจาค และไม่เคยรับเงินจากลูกศิษย์ ส่วนที่ลูกศิษย์จะทำบุญ และก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงดำเนินการในเรื่องอื่น  เป็นเรื่องของจิตศรัทธาที่ไม่สามารถห้ามได้ อีกทั้งที่ดินตรงนี้ไม่ใช่ที่ของตน แต่ที่ดินตรงนี้เป็นที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอ และตนเข้ามาพักเฉย ๆ

656536

จากนั้น หลวงปู่ไม่ขอให้สัมภาษณ์แล้ว พร้อมกล่าวว่า "พอแค่นี้ จบข่าว ไม่ให้ถามแล้ว" ก่อนจะสะพายย่ามและหยิบไม้เท้าลุกขึ้นเดินไปทันที บอกว่า "อย่ามาสร้างปัญหา เพราะที่นี่เป็นที่แก้ปัญหา" ทีมข่าวพยายามสอบถามอีกว่ากรณีที่มีคนอ้างตัวว่า ถูกกระทำชำเรามีจริงไหม หรือเขามโนไปเองอีก และหลวงปู่ตอบกลับว่า "ทุกคนมโนภาพไปเองทั้งนั้น ให้ไปแจ้งความกันเอาเอง" พร้อมกล่าวไล่ทุกคนว่า "ออกไป ๆ พอแล้ว"

titled

โดยระหว่างนั้น หลวงปู่ได้เดินวนไปวนมา และเรียกผู้ใหญ่บ้านให้เข้ามากันสื่อฯ ก่อนจะเดินลงเขาไป ส่วนทางลูกศิษย์รวมถึงนางสาวจ๋า หนึ่งในลูกศิษย์ได้ไล่สื่อเช่นกัน บอกว่าจะแจ้งความ ก่อนจะเดินหนีเข้าบ้านไปอีกคน

548120

ทีมข่าวเดินทางมาที่ ต.วังเหนือ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ นางสาวน้ำส้มปั่น ผู้เสียหาย ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับลูกสาวอายุ 4 ปี เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ตนเข้าไปปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ และนุ่งห่มข่าว แต่ไม่ได้บวชชีพราหมณ์ ช่วงที่ตนไปเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่มักจะพาตนและลูกศิษย์ไปปฏิบัติธรรมในสถานที่อื่นด้วยเป็นประจำ โดยสาเหตุเพื่อไปโปรดสัตว์กัน

โดยมีอยู่ครั้งหนึ่ง หลวงปู่ได้พาที่วัดแห่งหนึ่งแถวโขงเจียง และไปกันประมาณ 3 วัน แต่ลูกศิษย์กลับก่อน ซึ่งพระสงฆ์ที่จำอยู่วัดนั้นได้บอกว่า "พระมาที่นี่ทีไรไม่เคยอยู่ และสึกไปเอาเมียหมด" ตอนนั้นตนรู้สึกแปลกใจมาก กระทั่งกลับมาที่วังพญานาค และวันนั้นตรงกับวันมาฆบูชา ช่วงกลางดึกตนรู้สึกแปลก และตื่นขึ้นมาเดินไปเข้าห้องน้ำ ขณะนั้นตนเห็นเงาตัวตะคุ่ม ๆ และมีชายคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าใครมาดึงมือของตนไป ตนถามว่า "ทำอะไร" เจ้าตัวบอกว่า "อย่าพูดเสียงดัง มานี่" จากนั้นได้พาไปที่กุฏิสุดท้ายห่างจากจุดที่ทุกคนพัก ชายคนดังกล่าวบอกว่าให้ตนกราบก้มลงกราบเพื่อขอขมา บังคับให้ตนกราบ 3 ครั้ง พร้อมกับให้ตนพูดทำนองว่าขออโหสิกรรม และด้วยความกลัวตนเลยยอมก้มลงกราบ

หลังจากที่กราบ ชายคนดังกล่าวได้ดึงแขนของตนขึ้นมาบอกว่า "ขอขมาแล้วไง จะมีอะไรก็ไม่แปลก" วินาทีที่ได้ยิน ตนรู้สึกตกใจจนพูดไม่ออกและได้แต่คิดในใจ "นี่นะหรอโปรดสัตว์" จากนั้นได้ขืนใจตนทันที ตอนนั้นตนได้แต่บอกว่าจะทำอะไรแบบนี้เพราะมันไม่ถูก แต่ยังคงยืนยันว่าไม่เป็นอะไร ซึ่งตนพยายามจะขัดขืนแล้ว แต่ตอนนั้นเหมือนมีอะไรมารั้งตัวของตนไว้ ตนยืนยันว่าไม่ได้ถูกป้ายยาหรือถูกท่องคาถาใส่ ตนถูกขืนใจอยู่นานจนตนต้องบอกว่า "พอหรือยัง จะอีกนานไหม" เขาจึงยอมหยุด หลังจากที่ถูกทำร้ายตนได้แต่เดินกลับไปนอนที่ศาลา และรู้สึกเสียใจมาก เพราะมาทำบุญแต่ทำไมถึงมาถูกกระทำแบบนี้

924848

หลังจากวันนั้น ตนก็ยังไม่กล้าที่จะบอกใคร และยังคงไปโปรดสัตว์อีก 3 ครั้ง รวมแล้วเป็น 4 ครั้ง อีกทั้งตนยังคงถูกพาไปปฏิบัติธรรมที่สถานที่อื่น และช่วงที่ตนตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน ได้ไปปฏิบัติธรรมที่ จ.ชลบุรี กระทั่งมีอยู่วันหนึ่งตนได้หนีไปหาแม่ และได้มีโอกาสอยู่กับแม่กัน 2 คน ตนบอกกับแม่ว่าถูกขืนใจและท้อง ด้วยเหตุนี้แม่ของตนเลยพาไปตรวจครรภ์ ตอนนี้ตนไม่อยากจะเอาเรื่องแล้ว เพราะชีวิตของตนดีขึ้นแล้ว และไม่ได้อยากให้ลูกของตนได้เจอกับพ่อแบบนั้นด้วย

688420

ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดพญานาคบ่อโบราณ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นสถานที่สาธารณะ ผู้เสียหายได้พาทีมข่าวลงพื้นที่ลักษณะคล้ายลานปฏิบัติธรรม และคล้ายที่พักสงฆ์ มีศาลาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ พื้นที่โดยรอบมีรูปปั้นของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่หลายองค์ เช่น พระพิฆเนศ และพระโพธิสัตว์

883639

โดดเด่นที่สุดคือ รูปปั้นหน้าคล้ายผู้ปฏิบัติธรรมตั้งอยู่ เป็นรูปปั้นมีนาคปรกอยู่ในท่านั่ง และทำนิ้วปรางประทานพร ใกล้กันฝั่งซ้ายมือมีรูปปั้นในท่ายืนถือไม้เท้าอยู่ และฝั่งขวามือมีรูปปั้นศิวลึงค์ ตรงกลางมีป้ายระบุชื่อและมีคาถาระบุว่าให้ภาวนานะโม 3 จบ และท่องคาถา "นโม อะอุ พุทธายะ" จากนั้น ผู้เสียหายได้พาไปที่กุฏิที่เกิดเหตุซึ่งถูกล็อกไว้อยู่ และตั้งห่างจากทางเข้าประมาณ 100 เมตร ห่างจากห้องน้ำที่ถูกลากตัวไปประมาณ 30 เมตร บริเวณโดยรอบไม่มีไฟฟ้า ไม่มีใครอยู่อาศัย ลักษณะเปลี่ยว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม