รุ่นพี่โหด ต่อยรับน้อง “ม้ามแตก” โผล่มอบตัว - น้าเหยื่อ เผยนาทีเค้นความจริงจากเพื่อน (คลิป)

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กแชร์เรื่องราวที่หลานชายถูกรุ่นพี่ในคณะ ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทำร้ายร่างกายจนกระทั่งม้ามแตก ต่อมาแพทย์ต้องตัดม้ามออกนั้น

วันที่ 20 ก.ค. 61 “รายการต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.20 น. ได้เชิญ คุณประสบสุข เชียงเชาว์ แม่ของน้องปอนักศึกษาที่ถูกทำร้าย, คุณรุ่งโรจน์ ขวัญโกมล น้าสาวของน้องปอนักศึกษาที่ถูกทำร้าย และ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ร่วมพูดคุยกันในรายการ

คุณประสบสุข แม่ของน้องปอ นักศึกษาที่ถูกทำร้าย เล่าว่า ในช่วงเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่กับน้องปอ แต่ลูกได้ส่งข้อความมาหาตนว่าให้พาไปหาหมอ เพราะเจ็บแขน แต่เมื่อถามถึงสาเหตุ น้องปอบอกเพียงว่าเจ็บแขนจากการเล่นกีฬา จนกระทั่งช่วงเช้ามืดประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 19 ก.ค. น้องลงมาเข้าห้องน้ำแล้วล้มลงไป และได้คลานไปเคาะห้องของน้าสาว ให้พาไปส่งโรงพยาบาล เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็ไม่สามารถเจาะเลือดได้ เพราะน้องปอความดันต่ำ ทำให้เลือดไม่ออก และจากการตรวจร่างกายพบว่าน้องปอมีเลือดออกในช่องท้องจำนวนมาก หมอสันนิษฐานว่า ม้ามของน้องปอแตก จึงสั่งผ่าตัดม้ามด่วน หากปล่อยไว้จะเป็นอันตราย

คุณประสบสุข ยังบอกอีกว่า ขณะผ่าตัดน้องปอก็ไม่ได้บอกถึงสาเหตุของอาการ จนกระทั่งน้าสาวของน้องปอได้เช็กโทรศัพท์และพบข้อความ จึงทราบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากถูกรุ่นพี่ทำร้าย หลังจากการผ่าตัด ตอนนี้น้องปอยังพูดไม่ได้ จึงสอบถามเรื่องทั้งหมดจากเพื่อนของน้องปอ ด้าน คุณรุ่งโรจน์ น้าสาวของน้องปอ นักศึกษาที่ถูกทำร้าย เปิดเผยว่า วันที่เข้าโรงพยาบาล น้องปอได้คลานมาเคาะห้องของตน และอาเจียน แต่บอกเพียงว่าตัวเองถูกลูกฟุตบอลอัดหน้าอกขณะเล่นกีฬา และได้ขอให้ตนพาไปส่งโรงพยาบาล ขณะนี้อาการของน้องอยู่ในระดับปลอดภัย และออกจากห้องไอซียูแล้ว สำหรับสาเหตุที่น้องปอไม่ได้บอกความจริง ตนคิดว่าน้องปอน่าจะกลัวรุ่นพี่ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนกระทำ เพราะจากที่ตนดูในเฟซบุ๊กของน้องปอ ก็พบภาพที่เป็นแผลช้ำบริเวณท้อง โดยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จากนั้น ตนได้บอกให้รุ่นพี่เข้ามาพบ และยอมรับผิดในโรงพยาบาล ภายในเวลา 18.00 น. แต่ไม่มีใครมา

คุณรุ่งโรจน์ เปิดเผยว่า เมื่อไปถามเพื่อนของน้องปอ กลับไม่มีใครยอมบอกความจริง แต่มีเพื่อนผู้ชายคนอื่น ๆ ที่ทนไม่ไหวถึงกับนั่งกุมขมับแล้วร้องไห้ จนตนต้องบอกว่า น้องปออาการหนักมาก จะเป็นหรือจะตายยังไม่รู้ เพื่อน ๆ ของน้องปอ จึงยอมบอกว่ารุ่นพี่ปี 3 จะเข้ามาทำโทษเด็กปี 2 ซึ่งเป็นชั้นปีที่น้องปอเรียนอยู่ สาเหตุเพราะดูแลรุ่นน้องปี 1 ไม่ดีและไม่เคารพรุ่นพี่ การทำโทษจะแยกกันระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง โดยวิธีการทำโทษจะให้เด็กปี 2 ยืนเรียงแถว แล้วรุ่นพี่ปี 3 จำนวน 3 คน ต่อยท้องเด็กปี 2 ทีละคน น้องปอจึงได้รับบาดเจ็บ

นอกจากนี้ คุณรุ่งโรจน์ ยังเปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ ดร.สุกิจ นิตินัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ได้สั่งให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ทราบตัวรุ่นพี่ปี 3 ทั้ง 3 คนแล้ว เป็นรุ่นพี่ในคณะ 2 คน และเป็นอดีตรุ่นพี่ที่เคยอยู่ในคณะ แต่ถูกรีไทร์ไปเรียนอีกคณะ 1 คน และได้แจ้งความดำเนินคดีกับทั้ง 3 คนไปแล้ว ตนยังรู้มาอีกว่า รุ่นพี่กลุ่มนี้มีการสั่งห้ามรุ่นน้องไม่ให้พูดถึงเรื่องดังกล่าว หากใครไปบอกผู้ปกครองก็จะถูกขู่ฆ่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตนมองว่า คนที่มีการศึกษาต้องเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่ คุณรุ่งโรจน์ บอกว่า แม้ว่าน้องปอจะฟื้นขึ้นมาแล้วขอให้ตนไม่เอาความกับรุ่นพี่ทั้ง 3 คน ตนก็คงไม่ยอม เพราะตอนนี้น้องปอได้ถูกตัดม้ามและเสียอวัยวะไปแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้น้องปอต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดทุกชนิดในทุกปี ตนจึงคิดว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และผู้กระทำผิดจะต้องได้รับผลและต้องมาขอโทษ ตนจะก็ไม่ยอมจบ เพราะคนเราพูดคำว่าขอโทษได้เรื่อย ๆ ถ้าคิดได้ต้องไม่ทำ และตนอยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนกับคนที่ทำผิด และคนผิดต้องได้รับโทษ

ด้าน ทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า ในขณะที่น้องปอได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของอาจารย์ที่ต้องพาไปโรงพยาบาล ตนอยากรู้ว่าอาจารย์ทราบเกี่ยวเรื่องเกิดที่ขึ้นหรือไม่ สำหรับอธิการบดีของมหาวิทยาลัยที่ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่การรับน้อง ตนตั้งข้อสงสัยว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จ ทำไมจึงบอกว่าไม่ใช่การรับน้องโดยไม่รอให้การสอบสวนเสร็จสิ้นก่อน มองว่าเป็นการปัดความรับผิดชอบจนเกินไป ทั้งนี้ สำหรับข้อหาเบื้องต้นคือ ร่วมกันกระทำความผิด ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งแม้ว่าน้องปอจะบอกว่าไม่ได้โดนรุ่นพี่ต่อย แต่ก็สามารถตรวจสอบทางการแพทย์ได้ นอกจากนี้ คนที่ชักชวนกันมาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ก็ต้องถูกดำเนินคดี และมหาวิทยาลัยจะต้องมีคำตอบว่า รู้หรือไม่ว่ามีการซ้อมเกิดขึ้น ถ้าไม่รู้ถือว่าประมาท ถ้ารู้ก็ต้องรับผิดชอบและไม่สามาารถปัดความรับผิดชอบ และความผิดนี้ไม่สามารถยอมความได้ ซึ่งตามหลักมนุษยธรรมของรุ่นพี่ หากรุ่นน้องบาดเจ็บจะต้องไปเยี่ยม ล่าสุดเวลา 22.00 น. รุ่นพี่ 2 คนที่เป็นคนทำร้ายร่างกายน้องปอ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวทั้ง 2 คนส่งดำเนินคดีต่อไป