จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิป หนุ่มขับบิ๊กไบค์โดนชาวบ้านเข้าไปทำร้ายร่างกาย โดยมีบทสนทนาว่า
ทำไมต้องยกล้อ ขณะที่หนุ่มขับบิ๊กไบค์ยกมือไหว้พร้อมตอบว่า “
ผมก็มาหัดฝึกเล่นครับ วันหลังผมไม่มาเเล้วครับ ขอโทษครับ” ซึ่งหลังจากที่คลิปดังกล่าวได้หลุดออกไป ได้มีการวิจารณ์ถึงการกระทำที่เกินกว่าเหตุของบุคคลในคลิปอย่างกว้างขวาง (อ่านข่าว :
เปิดใจ! หนุ่มซิ่งบิ๊กไบค์ยกล้อถูกคนดักกระทืบ ลั่นไม่เอาความ – ตร.จี้ ต้องเอาผิดคนรุม)
นอกจากนี้ กระแสสังคมส่วนหนึ่งยังได้โจมตีหนุ่มซิ่งบิ๊กไบค์ว่า
เป็นแก๊งซิ่งป่วนเมือง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้าน กระทั่งชาวบ้านไม่พอใจ จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
ล่าสุด วันที่ 18 พฤษภาคม 2560 เวลา 18.50 น.
นายนพสินธุ์ ทรัพย์ศฤงคาร หนุ่มขับบิ๊กไบค์ที่ถูกทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฎในคลิป ได้ออกมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผ่าน
รายการต่างคนต่างคิด ว่า ตนเองยอมรับว่าเคยขับรถยกล้อบริเวณดังกล่าวรวมเดือนจริง แต่ในวันเกิดเหตุยังไม่ทันจะได้ยกล้อ แต่โดนทำร้ายร่างกายเสียก่อน ซึ่งหลังจากคลิปถูกเผยแพร่ ทางคู่กรณีได้เข้าเจรจา เรียกได้ว่าท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนแตกต่างจากที่ตัวเองเจอเป็นอย่างมาก และขอให้เรื่องนี้จบเพียงเท่านี้ เพราะไม่อยากให้เป็นข่าวที่ใหญ่โต พร้อมกับได้ชดใช้ค่ารักษาพยาบาลไปแล้วจำนวน 12,000 บาท ยอมรับว่าจำนวนเงินที่ได้รับมาน้อย แต่ไม่อยากให้ทางครอบครัวต้องมาเดือดร้อน
ขณะที่นายนพสินธุ์และกลุ่มเพื่อน ยอมรับว่าการขับขี่รถในแต่ละครั้งกระทำในสถานที่ที่ไม่มีรถพลุกพล่าน พร้อมยืนยันแบบลูกผู้ชายว่า
ไม่ขอเลิกขี่รถบิ๊กไบค์ เพราะใจมันรัก พร้อมยืนยันว่าพวกตนไม่ใช่เด็กแว้นแน่นอน
ทนาย รณณรงค์ แก้วเพ็ชร กล่าวว่า หากมีการโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียก่อนลงมือกระทำ ถือว่ามีการเตรียมตัวก่อนลงมือกระทำและมีเจตนา ซึ่งตามกระบวนกฎหมาย คู่กรณีถือมีความผิดในประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามมาตรา 43 พ.ร.บ.จราจรทางบก “ห้ามมิให้ผู้ใดขับขี่รถ โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” และสามารถสั่งยึดรถได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับสำนวนในการส่งฟ้อง กับการกระทำความผิด ส่วนกรณีที่เด็กขับรถยกล้อและสร้างความรำคาญ
ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการทางกฎหมาย แต่ไม่ใช่ประชาชนลงไปดำเนินการเอง
พ.ต.ท.พันธมิตร จ้างประเสริฐ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี บอกว่า ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานสำคัญ ที่เห็นผู้ทำร้ายร่างกาย ทั้งหมด 2 คน รวมทั้งเเจ้งข้อหาคู่กรณี 2 ข้อหา คือกักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกาย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรอเพียงแค่เอกสารตรวจร่างกายผู้เสียหายเท่านั้น จึงจะเรียกตัวคู่กรณีมาสอบปากคำพร้อมแนะนำไปยังประชาชน หากเกิดกรณีมีบุคคลใดก่อให้เกิดความรำคาญ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่อย่าไปใช้กำลังและดำเนินการเอง เนื่องจากผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ในรายการยังได้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ตั้งแต่ก่อนเกิดและหลังเหตุ นอกเหนือจากคลิปที่เคยมีการนำเสนอก่อนหน้านี้
โดยภาพจากกล้องวงจรปิด ได้บันทึกเหตุการณ์ขณะที่รถจักรยานยนต์ได้อ้อมมาเบียดทางด้านขวา ทำให้นายนพสินธุ์ผู้ขี่รถบิ๊กไบค์ต้องชะลอความเร็วก่อนเอารถเข้าชิดขอบทาง โดยด้านหลังมีรถเก๋งขับประกบตามมาด้วย ก่อนที่ผู้ที่อยู่ในรถยนต์จะเดินถือไม้มาฟาดนายนพสินธุ์ ขณะเดียวกันก็ถูกหนุ่มที่ขับรถยนต์ลงมาต่อยจนรถบิ๊กไบค์ล้มลง
ต่อมามีคนเข้ามารุมทำร้ายนายนพสินธุ์อีก กระทั่งมีจำนวนมากถึง 8 คน แม้นายนพสินธุ์จะไหว้ร้องขอชีวิตแล้วก็ตาม
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมายังที่เกิดเหตุ โดยขณะนั้นคู่กรณีบอกเพียงว่ารถนพสินธุ์ล้มลง โดยยังไม่กล้าบอกความจริงกับตำรวจเพราะกลัวจะโดนทำร้าย กล่าวได้ว่าเหตุการณ์ที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพได้นั้น ข้อเท็จจริงได้ต่างไปจากคลิปที่หลุดออกไปก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก
ด้าน นายปุ้ย ผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่ถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าว และโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีมข่าวว่า ตนค่อนข้างสงสัยที่เหตุการณ์นี้ยังเป็นข่าว เนื่องจากได้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วและไม่อยากให้เป็นข่าวอีก พร้อมยอมรับผิดที่ทำร้ายร่างกาย และชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลให้น้องไปทั้งหมด ส่วนในเรื่องของตำรวจที่เรียกเข้าไปพูดคุยนั้นตนพอทราบ แต่ตนยังยังไม่ได้ถูกเรียกแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตนจะเข้าไปให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตัวเองเร็วๆนี้
ขอบคุณภาพ Vorapat Changkanawin