4 ชีวิตรันทด บ้านถูกบังคับคดียึดขาย เหตุมาจากถูก ปลอมเอกสาร ค้ำซื้อรถยนต์
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 เม.ย.64 ที่ทำการ ผู้ใหญ่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายสามารถ รอดวิจิตร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่า มีครอบครัวที่กำลังลำบากยากจนมาก อีกทั้งกำลังโดนมรสุมลูกใหญ่ถาโถมเข้าสู่ครอบครัวดังกล่าว ถึงขั้นชวนกันจับชีวิตทั้งบ้าน เพื่อหนีปัญหาดังกล่าว จึงไปพบเพื่อขอทราบรายละเอียด
สุดรันทด 2 พี่น้องถูกนายจ้าง โกงค่าแรง ต้องปั่นจักรยานจากสุพรรณกลับบ้านเกิดที่อุบล
นายสามารถ รอดวิจิตร ผญบ.หมู่ที่ 9 ได้นำไปพบกับ นางนวลศรี ทวิชศรี อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเป็นร้านค้าภายในหมู่บ้าน สอบถามรายละเอียด เบื้องต้น นายสามารถ และ นางนวลศรี ได้เล่า เรื่องครอบครัวนี้ ว่า เมื่อช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ได้มีนายสุชล ฤทธิรุตม์ อายุ 48 ปี อาชีพ รับจ้างทำสวน บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 9 ต.บางมะพร้าว ได้มาปรึกษาว่า ภรรยาของนายสุชลได้ป่วยและเสียชีวิต ที่ รพ.หลังสวน นำศพกลับมาที่บ้าน แต่ไม่มีเงินในการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ จึงขออนุญาตผู้ใหญ่บ้านเพื่อฝังศพภรรยาโดยไม่ต้องทำพิธีทางศาสนาได้หรือไม่ นายสามารถ ผญบ.บอกว่า ไม่อนุญาต ถ้าฝังศพภรรยาโดยพลการจะจับกุมดำเนินคดี
นางนวลศรีทราบเรื่องจึงได้รวบรวมเงิน ทำพิธีศพให้ ชาวบ้านในตำบลทราบข่าวจึงมาช่วยกันบำเพ็ญกุศลศพ หลังจากเผาศพมีเงินเหลือจำนวนหนึ่ง ครอบครัวนายสุชล ซึ่งมีลูก 3 คน เป็น ชาย 1 คน และหญิง 2 คน หญิงคนโต อายุ 16 ปีเรียนหนังสือระดับ ปวช.ที่วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน ชายคนกลาง อายุ 15 ปี เสียสละให้พี่สาวและน้องได้เรียนหนังสือ ส่วนตัวออกมาทำสวน และ หญิงคนสุดท้อง อายุ 9 ปี เรียนชั้นประถมปีที่ 3 รร.บ้านน้ำตก ทั้งครอบครัวไม่มีที่ดินหรือบ้านเป็นของตนเอง มีฐานะยากจนมาก อดมื้อกินมื้อ ทั้ง 4 คนพ่อลูก ในขณะที่มีชายชราใจบุญในหมู่บ้าน ทราบเรื่องได้บริจาคที่ดินบนภูเขาสูง ให้ครอบครัวนี้ 2ไร่ 40 ตรว.เพื่อ ปลูกทุเรียน และ นายสันต์ ฉิมหาด นายก อบต.บางมะพร้าว ได้ประสานอำเภอหลังสวน ได้งบประมาณ 20,000 บาท สร้างบ้านหลังเล็กๆ มีห้องเดียว ให้ พ่อลูก 4 คน อาศัยอยู่ โดยเจ้าของที่ดินได้ทำเรื่องโอนที่ดินให้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
แต่เมื่อ10 เดือน ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือ จาก สำนักงานบังคับคดี หลังสวน จ.ชุมพร ว่าได้ทำการยึดที่ดินของนายสุชล ที่รับบริจาคมาสร้างบ้าน และ ยึดบ้านที่ปลูกบนที่ดินดังกล่าวด้วย เพื่อนำไปขายทอดตลาด ในหนังสือ บอกว่านายสุชลเป็นหนี้ บริษัทโตโยต้าลิชซิ่ง จำนวน 4 แสนกว่าบาท และเจ้าหนี้ได้อาศัยคำพิพากษาของศาล ให้ยึดบ้านและที่ดิน ที่เป็นชื่อนายสุชล เพื่อขายทอดตลาด โดยกำหนดขายในวันที่ 13 พ.ค.64 นายสุชลได้เอาหนังสือให้ลูกอ่านให้ฟัง ถึงกับเป็นลม เนื่องจากไม่เคยไปขอกู้เงิน หรือ ค้ำประกันอะไรให้ใครเลย
จึงได้ออกสอบถามจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนได้การว่า เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ได้มีคนสนิทในครอบครัวของนายสุชล ได้ไปขอเช่าซื้อรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า และกู้เงินจาก บ.โตโยต้าลิซซิ่ง สาขาหนึ่ง ใน จ.ชุมพร โดยมีหลักฐานบัตรประชาชนและลายมือชื่อของนายสุชล เป็นผู้ค้ำประกัน ต่อมาทราบเพียงแต่ คนสนิทได้ออกรถยนต์กระบะคันใหม่และ ไปเกิดอุบัติเหตุจนรถพังเสียหาย
จนกระทั่งมาทราบว่า คนสนิทที่ไปซื้อรถไม่เคยผ่อนชำระเลย จนกระทั่งเวลาผ่านไป บริษัทโตโยต้าลิซวิ่งได้ยื่นฟ้องศาลให้ผู้ซื้อและผู้ค้ำชำระหนี้ โดยที่นายสุชลไม่เคยได้รับหมายศาล เพราะที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเป็นบ้านของคนสนิท ต่อมาศาลจึงตัดสินให้ นายสุชลชดใช้หนี้ จำนวน 4 แสนกว่าบาท แทนผู้ซื้อ และนำมาสู่การยึดบ้านที่ดินเพื่อขายทอดตลาด
นายสุชลเมื่อทราบเรื่องได้พยายามวิ่งขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ แต่ทุกหน่วยงานบอกว่า เรื่องหมดอายุความที่จะอุทธรณ์หรือแก้ไขทางกฎหมายแล้ว เหลือแต่เพียงต้องไปประมูลซื้อบ้านที่ดินคืนจาก สนง.บังคับคดีหลังสวน ในวันที่ 13 พค.64 เท่านั้น แต่นายสุชลก็จนปัญญาเพราะมียอดหนี้สูง ถึง 4 แสนกว่าบาท และ ไม่รู้ว่าจะต้องประมูลเท่าไหร่ ในเวลานี้มีเงินในชีวิตเพียงไม่ถึง 100 บาท
ผู้สื่อข่าวได้ประสานงานไปยัง สภาทนายความจังหวัดหลังสวน พบนายสุวิทย์ พลานชุน ประธานสภาทนายความจังหวัดหลังสวน พร้อมทั้งนำตัวนายสุชลไปพบ เมื่อได้ดูรายละเอียด นายสุวิทย์ บอกว่า ในทางกฎหมายในคดีค้ำประกันไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพราะ เลยกำหนดที่จะขอแก้ไขคดี ที่สามารถยกข้อต่อสู้ได้ว่าไม่ใช่บุคคลที่ค้ำประกันตามสัญญา คงต้องไปต่อสู้ในการประมูลซื้อบ้านที่ดินคืนเท่านั้น นายสุชล ถึงกับคอตก น้ำตาคลอเบ้า
นายสุชล ยังเล่าให้ฟังต่อไปว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ลูกสาวคนสุดท้องอายุ 9 ขวบ ซึ่งรับทราบปัญหาของครอบครัวมาตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้ เป็นเด็กที่ไม่เคยมีความสนุกสนาน หน้าตาเศร้าหมองตลอดเวลา ได้เข้ามาพูดกับนายสุชลผู้เป็นพ่อในทำนองจบชีวิตพร้อมกันจะได้พ้นจากความลำบาก และได้ไปเกิดใหม่ อาจจะดีกว่าวันนี้ก็ได้ ทำเอานายสุชล ถึงกับตกใจ บอกกับลูกว่า อย่ายอมแพ้ อย่าท้อถอย ยังมีหนทางที่จะต่อสู้ได้
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ ด.ญ.เล็ก (นามสมมุติ) ว่าทำไม ถึงคิดเช่นนั้น ก็ ได้รับคำตอบว่าไม่อยากเห็นบ้านที่ดินถูกยึด ถ้าตายไปอาจจะเกิดมาสบายกว่านี้ และได้ถามต่อว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ด.ญ.เล็กบอกว่า อยากเป็นตำรวจ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้บ้านถูกยึดจะได้มีที่อยู่ไว้เรียนหนังสือ
นางนวลศรี บอกว่า”เด็กหญิงคนนี้เป็นเด็กที่เรียนเก่งขยันและ รักพ่อและพี่น้องมาก ส่วนท่านผู้ใจบุญอยากช่วยเหลือ เด็กหญิง 9 ขวบและ ครอบครัวนี้สามารถช่วยได้ที่ บัญชี ธ.ออมสิน เลขที่ 020090458918 ชื่อบัญชี ด.ช.อภิเชษฐ์ ฤทธิรุตม์ อายุ 15 ปี ลูกชายคนกลาง ซึ่ง ผู้เป็นพ่อไม่สามารถใช้บัญชีตนเองได้เนื่องจากจะถูกอายัด แต่จะได้เอาเงินไปประมูลซื้อบ้านที่ดินกลับคืนมา ซึ่งคาดว่าใช้เงินไม่น่าเกิน 2 แสน บาท เนื่องจากมูลค่าบ้านและที่ดิน ราคาเพียง สองแสนบาท เท่านั้น
กยศ. แจงกรณีคุณตาคุณยายกำแพงเพชรถูกไล่ที่ ตามหาลูกชายผู้กู้ยืม
สองตายายร่ำไห้ถูกยึดบ้านเพราะลูกติดหนี้ กยศ. เผยหนีหาย 5 เดือน 18 ชีวิตส่อไร้ที่อยู่ (คลิป)