วันที่ 22 เม.ย. 64 บรรยากาศสำนักสงฆ์ภูหินกอง จังหวัดหนองบัวลำภู แม่ชีและลูกศิษย์สำนักสงฆ์ฯ ติดป้ายห้ามเข้าศาลา นักท่องเที่ยวและชาวบ้านเดินทางมากราบพระธาตุ แต่ยุ่งเกี่ยวกับรูปปั้นไม่ได้ เพราะมีตำรวจเฝ้า ชุดสืบจังหวัดลงพื้นที่สอบปากคำแม่ชีและลูกศิษย์คนสนิทรู้เห็นสร้าง-เก็บเครื่องกิโยตีนหรือไม่ หลังพระธรรมกรสร้างรูปปั้นเทพกัวกุดขึ้น และบั่นคอตัวเองถวายให้กับพระพุทธเจ้า เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 64 นั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจอหนังสือลับ! "ธรรมกร" สอนกุดหัวสู่อรหันต์ อึ้งจัดสวดบังสุกุลก่อนปลิดชีพ
- ทุบแน่! รูปปั้นเทพตัดหัวห่วงคนเลียนแบบ ศิษย์ร่วมเผา "ธรรมกร" ส่อผิดย้ายศพ
- ศิษย์พระบั่นคอรื้อกิโยตีนใน 41 นาที หอบซ่อนข้ามจังหวัด เผาไม้เปื้อนเลือดพร้อมศพ
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรหนองบัวลำภู ประมาณ 8 นาย มีการสวมใส่เสื้อเกราะ และอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง ติดป้ายสัญลักษณ์โพลิส เดินทางลงพื้นที่เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมแม่ชีและลูกศิษย์ภายในพื้นที่สำนักสงฆ์ภูหินกอง
โดยเจ้าหน้าที่ชุดตำรวจดังกล่าวได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ให้ดำเนินการสอบปากคำและค้นหาพยานรวมถึงผู้ที่ร่วมกันในการสร้างเครื่องกิโยตีน หรือเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายนำไปอำพรางหลังจากที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดตำรวจดังกล่าวได้มุ่งไปที่แม่ชี พร้อมทั้งลูกศิษย์คนสนิทภายในสำนักสงฆ์ ซึ่งมีการสอบปากคำอย่างละเอียด ทั้งนี้ ชุดสืบสวนได้มีการบันทึกภาพรถกระบะสีน้ำเงินไปทำการตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าอาจเป็นรถกระบะคันที่ขับขนเหล็กและไม้ประกอบเครื่องกิโยตีนไปซ่อนอำพรางที่สำนักสงฆ์ในจังหวัดอุดรธานี
และในระหว่างนั้นทีมข่าวได้เข้าไปติดตามระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สอบปากคำ ซึ่งใช้สถานที่โรงครัวใกล้กับศาลาปฏิบัติธรรม โดยระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัว ซึ่งมีผู้สื่อข่าวหลายสำนักยืนอยู่ด้วย ลูกศิษย์ภายในห้องครัวตะโกนว่า "ให้ข้อมูลไปเยอะแล้ว เมื่อไหร่จะพอ ออกไปได้แล้ว ไปไหนก็ไป" ซึ่งบริเวณนี้คือพื้นที่ของหน่วยราชการทหาร
ด้านบนศาลาปฏิบัติธรรม แม่ชีและลูกศิษย์ได้นำป้ายกระดาษสีขาวขนาดเท่า A3 เขียนด้วยลายมือตัวว่า "บริเวณศาลา ห้ามเข้าถ้าไม่ได้รับอนุญาต" ซึ่งมีการติดตั้งจำนวน 4 ป้าย บริเวณทางเข้า 2 ป้าย ฝั่งซ้ายซึ่งเป็นกุฎิของพระธรรมกร 1 ป้าย และฝั่งขวาบริเวณรูปของหลวงปู่เหรียญ เป็นทางเข้าขอเก็บหนังสืออีก 1 ป้าย ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสักการะขอพรไม่สามารถขึ้นไปกราบพระบนศาลาได้
ขณะที่รายงานข่าวของเจ้าหน้าที่ เตรียมที่จะมีการรื้อถอนและทุบทำลายรูปปั้นเทพกุดหัวในช่วงบ่ายวันนี้ กลุ่มแม่ชีและลูกศิษย์ยังคงใช้ชีวิตตามปกติอยู่ภายในสำนักสงฆ์ และบริเวณโรงครัวที่อยู่ใกล้กับศาลา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจากโรงพักเมืองหนองบัวลำภู เดินทางมาตรวจพื้นที่สำนักสงฆ์ โดยเฉพาะบริเวณรูปปั้นที่มีการคลุมผ้าเอาไว้
จ่าสิบเอกกฤษฎา ก้านกิ่งกุล หรือ ตุ๋ย อายุ 66 ปี ลูกศิษย์คนสนิทของพระธรรมกร ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เช้ามืดวันที่ 15 เม.ย. 64 และเป็นคนที่ช่วยเช็ดเลือดล้างเลือดบนพื้นลานกิโยตีน พาทีมข่าวไปที่จุดตั้งเครื่องสังหาร บอกว่าจุดดังกล่าวตนเองมาถึงสำนักสงฆ์ฯ 06.28 น. ซึ่งห่างจากช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง
เมื่อมาถึงพบว่ากำลังเห็นเหล่าลูกศิษย์และแม่ชีใส่ชุดขาวกว่า 20 คน ช่วยกันใช้อุปกรณ์ขัดและกวาดพื้น จุดที่มีกองเลือดติดเต็มพื้น ตนเองได้ไปเอาผ้ามาช่วยเช็คฐานของเทพกุดหัว เพราะจุดดังกล่าวได้มีการตั้งวางโลงศพไม้ ด้านในมีการบรรจุร่างของพระธรรมกร และช่วงที่มีการยกร่างขึ้นไปบรรจุในโลงเลือดได้หยดไหลไปตามพื้นเป็นทาง และหยดติดที่ฐานรูปปั้น ตนเองจึงช่วยเช็ดเลือดออก
ช่วงเวลาที่ตัวเองเดินทางขึ้นมาสำนักสงฆ์ที่เกิดเหตุ แม้ว่าจะผ่านไปเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ไม่มีโครงเหล็กโครงไม้หรือเครื่องกิโยตีนตั้งหรือกองเอาไว้อยู่ ซึ่งคาดว่าก่อนหน้านั้นได้มีการรื้อถอนออกไปหมดแล้ว ยังไม่พบว่านำโครงเหล็กหรือไม้มาวางอยู่ใกล้กองเลือด ไม่รู้ว่าใครเป็นคนยกหรือย้ายออกไปจากพื้นที่ แม้ว่าตนเองจะเป็นลูกศิษย์คนสนิท พยายามสอบถามแต่ก็ไม่มีใครพูด และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนขนย้ายเอาไปซุกซ่อนที่สำนักสงฆ์ในจังหวัดอุดรธานี อีกทั้งตนไม่ได้อยู่ร่วมในพิธีเผาศพ
ทั้งนี้ ตนอยู่กับสำนักสงฆ์มาตั้งแต่สร้างเจดีย์และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ รวมถึงช่วยขนหินดินทรายมาสร้างสำนักสงฆ์ เห็นการก่อสร้างทุกอย่างและเห็นตั้งแต่รูปปั้นเริ่มสร้างขึ้น แต่การสร้างเครื่องกิโยตีนเป็นช่วงที่ตนเองไม่ได้ขึ้นมาสำนักสงฆ์ ทราบแต่เพียงว่าท่านจะละสังขาร แต่ไม่รู้ว่าจะทำด้วยเครื่องดังกล่าวดังนั้นจึงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าใครสร้างหรือช่วยรื้อถอน
สำหรับในวันที่ตนเองมาช่วยเช็ดคราบเลือด ได้เปิดดูภายในโลงบรรจุร่างของพระธรรมกร แต่ไม่ได้เปิดผ้าขาวดู เพราะเป็นการเคารพต่อร่างท่าน ดูเพียงผ้าขาวที่คลุมร่างเอาไว้ ไม่มีเลือดไหลซึมออกมา คาดว่ามีการคลุมผ้าหลายชั้น แต่บริเวณฝั่งขวาของโลงศพ ไม่ทราบว่าจุดดังกล่าวเป็นส่วนหัวหรือเท้า มีการนำพานสีทองใส่กระดาษทิชชู และผ้าขาวที่เปื้อนเลือดวางไว้ในพาน สังเกตว่าในพานมีแต่เลือด คาดว่าเป็นพานที่รองศีรษะของท่าน แต่ไม่มีศีรษะวางอยู่ เพราะมีการบรรจุลงในโลงไม้แยกต่างหากไว้แล้ว