นอกจากจะเป็นนักแสดงอารมณ์ดีที่คอยส่งรอยยิ้มให้กับทุกคนแล้ว คิง ก่อนบ่าย ที่มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้เล่าว่าเมื่อช่วงโควิดที่ผ่านมาตัวเองยังได้ยกเตาถ่านออกไปทำอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ส่วนใครที่มองว่าตัวเองตกอับไม่มีงานนั้นตัวเองไม่เคยสนใจเสียงเหล่านั้นเลย แถมยังทำให้เห็นอีกด้วยว่าแต่สิ่งที่ตัวเองทำไปมีประโยชน์ พร้อมกับเปิดใจเรื่องครอบครัวที่มีลูกๆ น่ารักถึงสามคนแล้ว
ถาม จริงหรือเปล่าที่ความฝันตั้งแต่เด็กๆอยากเป็นตลก
คิง ก่อนบ่าย : อยากเป็นตลกเลยครับ เพราะว่าตอนเด็กๆ ชอบตามย่าไปดูลิเกตามงานวัดก็จะมีตัวตลกออกมาตามฉาก เราก็เริ่มชอบตั้งแต่นั้นแล้วเราก็เริ่มฟังเทปตลกมาเรื่อยๆ จนตอนป.1 ครูให้ไปแข่งทักษะภาษาไทยเราก็ไปเล่านิทานให้เพื่อนฟังแล้วปรากฏว่าเพื่อนๆ หัวเราะเราเลยฝังใจว่าเราทำได้ ชอบตลก เราเลยมุ่งมั่นศึกษามาเรื่อยๆ แล้วตอนที่เราเรียนตัวของเราเล็ก ก็โดนเพื่อนแกล้งบ่อยๆ โดนตบหัวบ้าง อะไรบ้าง เราก็เลยคิดว่าเราเป็นตัวที่ทำให้เขายิ้มเขาหัวเราะเรารู้สึกดี ก็จำมุขมาเรื่อยๆ เน้นฟังเทปมาเรื่อยๆ จดมุขจากสิ่งที่เราได้เห็นได้ยินมาด้วย
ถาม แต่คาแรคเตอร์ที่ทำให้คนจำคิง ก่อนบ่าย ได้คือเพราะว่าเล่นมุขเป็นพี่เสก
คิง ก่อนบ่าย : คือตอนนั้นเราชอบพี่เสกมากอยู่แล้ว ตั้งแต่มัธยมเพราะเพลงแรกที่ทำให้เราเล่นกีตาร์ได้คือเพลง ซมซาน เพราะคอร์ดมันจับง่าย แล้วเราได้เจอกับพี่เสกงานหนึ่งแล้วไม่มีใครกล้าเล่นกับพี่เสก ผมไม่รู้อะไรก็เล่นเลียนเสียงทำท่าต่อหน้าเขา แล้วพี่เสก เขาหัวเราะเขาชอบ เขาเลือกให้เราเป็นเสกโลโซ จากนั้นก็ทำให้เราเปลี่ยนชีวิตเลย
ถาม นอกจากสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้างแล้ว ยังสร้างความสุขด้วยการยกเตาถ่านไปทำกับข้าวให้คนยากจนด้วย
คิง ก่อนบ่าย : คือ ผมเป็นคนชอบทำอาหารด้วยเตาถ่านอยู่แล้ว ซึ่งเราทำอาหารภรรยาไม่เคยมากินของเราเลย เพราะว่าก่อเตาก็ประมาณครึ่งชั่วโมง ทำกับข้าวตั้งแต่สิบโมงกว่าจะเสร็จเที่ยง เราชอบทำเลยลองหิ้วเตาไปทำให้ชาวบ้านกินดูว่าอาหารที่เราทำอร่อยไหมด้วย ทำช่วงที่เราทำยูทูปด้วย เริ่มทำช่วงโควิดรอบแรก ดูตามข่าวแล้วเราก็ดูตามเคสๆ ไป มีอยู่เคสหนึ่งเขานอนอยู่ที่ใส่สะพานที่สมุทรสาคร อีกเคสคือที่ชุมชนเชื้อเพลิง อันนั้นเป็นเคสที่น่าสงสารยายเลี้ยงหลาน 7 คน ที่เกิดมาจากแม่คนเดียว ซึ่งเราก็ถามเขาว่าอยากกินอะไร เด็กๆ ก็บอกว่าอยากกินกุ้งเผาเราก็ไปตลาดแล้วก็ไปซื้อกุ้งแล้วก็เอามาทำให้เด็กๆ กิน ซึ่งสำหรับการไปทำอาหารแบบนี้เราก็จะไม่หยุดทำนะครับ เพราะจะมีเคสจากพื้นที่ต่างๆ ส่งมา หรือ ผู้นำชุมชนส่งมาให้เราเขาไปช่วยเหลือประชาสัมพันธ์ให้ เวลาที่ไปทำสิ่งที่ผมได้คือได้เห็นทั้งรอยยิ้ม น้ำตา เรื่องราวต่างๆ
ถาม ซึ่งจริงๆคุณคิง ก่อนบ่าย ก็เป็นคุณพ่อลูกสามแล้ว
คิง ก่อนบ่าย : คนแรกมาจากความเมาของเราครับ ตอนนั้นเรายังอยู่ในวัยเรียนอยู่เลยไม่มีการป้องกันไม่มีการวางแผนอนาคตตัวเองแล้วก็พออยู่ๆ ไปก็ทิ้งแม่ของเขามา อันนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่พอไปเจอเคสเด็กๆ เรารู้สึกละลายใจที่เคยทำแบบนั้น ส่วนอีกสองคนคือครอบครัวปัจจุบันนี้ครับ ซึ่งลูกสาวคนโตตอนนี้อายุ 20 แล้วครับแต่เขาอยู่กับทางแม่ของเขา เราส่งเสียค่าเล่าเรียนให้หมด ส่วนคนเล็ก 7 คนกลาง 9 ขวบครับ
ถาม ซึ่งในช่วงโควิดที่ทุกคนได้รับผลกระทบ คิง ก็ได้รับเช่นกันเพราะว่าส่วนมากงานที่ออกคือ อีเว้นท์ โชว์ตัวก็เลยเป็นช่วงที่ได้กลับไปบ้านเกิดที่ประจวบฯทุกอาทิตย์ แต่ก็มีเสียงนกเสียงกาว่าเราตกอับเลยกลับบ้าน
คิง ก่อนบ่าย : เขาไม่ได้พูดกับเราตรงๆครับ แต่เขาไปพูดกับพ่อว่า เราไม่มีงานแล้วเหรอทำไมต้องกลับมาขายของ ซึ่งผมจะเท้าความให้ฟังว่าเพราะโควิดมันสอนในอาชีพของงานที่เราทำ โควิดรอบแรกเราหยุดงาน 8 เดือน เงินมันก็หมดไปเรื่อยๆ ตอนนั้นก็รับปลามาขายจนมีเงินจ่ายค่าเทอมลูกตอนนี้เราก็ยังทำอยู่นะครับ แล้วทีนี้พอมารอบสองเราก็คิดว่าจะทำอะไรแล้วลูกเราเป็นคนที่ชอบกินกุ้งมากแล้วช่วงนั้นคนก็กลัวที่จะกินกุ้งกัน เราก็เลยบอกว่ามันกินได้ไม่ได้ติดกันที่กุ้งนะ ก็ได้ไปรู้จักกับบริษัทส่งกุ้งแม่น้ำเราก็เอากุ้งแม่น้ำไปขายที่บ้าน ซึ่งพื้นที่ผมเอาไปขายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน ก็คิดว่าถ้าเราไปโปรโมทคนอาจจะขึ้นมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นก็ได้ ซึ่งคิดว่าเราก็ใช้เวลาว่างที่เราได้กลับบ้านด้วย แล้วก็ใช้เวลาว่างในการทำมาหากินด้วย จะได้ไม่ปล่อยเวลาว่างให้คิดโทษโน้นนี่ เพราะตัวของเรายังไม่พยายามเลย ร้านตั้งอยู่ที่เขื่อนคลองบึงย่านซื่อ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์