วันที่ 23 เม.ย. 64 บรรยากาศสำนักสงฆ์ภูหินกอง จ.หนองบัวลำภู แม่ชีและลูกศิษย์สำนักสงฆ์ให้ปากคำเพิ่ม ตร.เรียกสอบแล้ว16 ปาก เตรียมเรียกเพิ่มเอี่ยวรู้เห็นการตัดหัวของพระธรรมกร เพื่อถวายให้กับพระพุทธเจ้าตามความเชื่อในหนังสือ แต่ไม่มีในคำสอนตามหลักศาสนาพุทธ ซึ่งล่าสุด วันที่ 22 เม.ย. เจ้าหน้าที่ทุบทำลายรูปปั้นเทพหัวกุดแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการลอกเลียนแบบนั้น
ที่สำนักสงฆ์ภูหินกองตลอดทั้งวัน ยังคงมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบสักการะพระธาตุ ขณะที่ด้านบนศาลาปฏิบัติธรรม ตำรวจชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรหนองบัวลำภู เดินทางมาสอบปากคำแม่ชีเพิ่มเติม สำรวจพื้นที่ภายในสำนักสงฆ์ ตามคำให้การของแม่ชี เพื่อถ่ายภาพไปประกอบสำนวน อาทิ จุดเผาศพ ลานสวดมนต์ ลานตั้งเครื่องกิโยตีน
ชุดสืบสวนตำรวจภูธรหนองบัวลำภู และชุดสืบสวนสภ.เมืองหนองบัวลำภู เรียกสอบปากคำพยานในเหตุการณ์ และบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 16 คน แบ่งเป็นแม่ชี 4 คน ลูกศิษย์ภายในสำนักสงฆ์ 8 คน ชาวบ้านในพื้นที่ 4 คน การสอบปากคำเป็นการยืนยันสถานที่ และตำแหน่งที่อยู่ในสำนักสงฆ์ในวันที่เกิดเหตุ ความเกี่ยวข้องก่อน-หลังก่อเหตุ ซึ่งจะแยกออกเป็นกลุ่ม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา หากมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ได้เรียกให้ จ่าสิบเอกกฤษฎา ก้านกิ่งกุล หรือ ตุ๋ย อายุ 66 ปี ลูกศิษย์พระธรรมกร เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นคนช่วยในการเช็ดคราบเลือด
จ่าสิบเอกกฤษฎา เผยว่า ตนเองเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมเนื่องจากพนักงานสอบสวนเรียกให้มาให้ข้อมูล ตนเองรู้เห็นส่วนไหนหรือเกี่ยวข้องส่วนใดก็เข้ามาให้ปากคำ ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นและแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม และในวันนั้นตนเองเดินทางมาก็เพียงแค่ช่วยเช็ดคราบเลือด แต่ไม่ได้รู้เห็นเกี่ยวกับการย้ายอุปกรณ์ประกอบเครื่องกิโยตีน และไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายร่างของพระธรรมกร ตนเองพร้อมที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจและให้ข้อมูลตามที่ตัวเองรู้เห็น
ส่วนกรณีทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับภาพนิ่งกลุ่มคนที่ร่วมกันประกอบเครื่องกิโยตีน ในช่วงวันที่ 21-29 มี.ค. 64 โดยพบเห็นกลุ่มลูกศิษย์ และแม่ชี ต่างช่วยกันทำอุปกรณ์ดังกล่าวนั้น
นายพี (นายสมมติ) อายุ 64 ปี ผู้ที่ช่วยประกอบเครื่องกิโยตีน เล่าว่า ตนเองเป็นลูกศิษย์ที่มักจะเดินทางไปช่วยงานที่สำนักสงฆ์บ่อยครั้ง แล้วในช่วงของวันพระใหญ่หรือวันโกนก็มักจะไปปฏิบัติธรรมทุกครั้ง ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ที่ปราฏอยู่ในภาพที่มีการก่อสร้างเครื่องกิโยตีน
ตนเองกำลังเดินผ่านจุดสร้างเครื่องกิโยตีน มีลูกศิษย์กำลังช่วยกันทำ แล้วพระธรรมกรบอกว่า "มาช่วยกันทำ สร้างบุญหน่อยเร็ว" ตนเองด้วยมีรูปร่างสัดส่วนที่สูงจึงปีนขึ้นไปด้านบนของเครื่อง ตอนนั้นขึ้นไปติดตั้งไม้ช่วงกลาง แล้วช่วยส่งต่อไม้ส่วนอื่น ๆ ขึ้นไปส่วนยอดของเครื่อง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเครื่องประหาร และจะเป็นอุปกรณ์ที่พระธรรมกรใช้ก่อเหตุ หลังจากที่มีภาพของตนเองไปปรากฏเป็นกลุ่มลูกศิษย์ที่ช่วยกันทำเครื่องกิโยตีน ตนเองก็ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือกลัวการถูกดำเนินคดี เพราะเป็นเพียงชาวบ้านคนหนึ่งที่ไปช่วยทำงานที่สำนักสงฆ์ วันดังกล่าวก็ตั้งใจไปทำบุญ ช่วงที่เดินผ่านแล้วมีการเรียกให้ไปช่วย ตนเองก็ขึ้นไปช่วยตามปกติ หากจะถูกดำเนินคดี ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย เพราะตนเองช่วยงานสำนักสงฆ์แบบบริสุทธิ์
นายพี เล่าย้อนอีกว่า วันที่ 14 เม.ย. ตนเองเดินทางมาที่สำนักสงฆ์ และมานั่งทำวัด สวดมนต์กับกลุ่มลูกศิษย์ที่ลานเจดีย์ตามปกติ และนั่งสวดกันตั้งแต่เย็นวันที่ 14 เม.ย. จนกระทั่งถึงรุ่งเช้า 15 เม.ย. ทุกคนก็ได้ยินเสียงพร้อมกัน ตอนถังปูนล่วงลงพื้น มีลูกศิษย์บางคนขึ้นไปดูหลังเจดีย์ บางคนก็นั่งสวดมนต์ต่อ และหลังจากรู้ว่าพระธรรมกรก่อเหตุแล้ว ทุกคนก็จึงจะไปช่วยเตรียมงานศพ แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าใครทำอะไรบ้าง