จากกรณีเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 64 บริเวณหลังสถานีน้ำมันย่านนาเกลือในพื้นที่ สภ.บางละมุง ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีประชาชนร้องเรียนว่ามีกลุ่มหญิงสาวลักลอบค้าประเวณีอย่างโจ่งครึ่ม บริเวณด้านหน้าคาราโอเกะที่เปิดให้บริการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จุดดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นแหล่งค้ากามให้กับกลุ่มนักเที่ยว ที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีการนำเสนอข่าวจนถูกสั่งปิดให้บริการไปแล้ว แต่ภายหลังกลับเปิดให้บริการอีกครั้ง หลายคนไม่มีการสวมแมสก์ป้องกัน ชาวบ้านวิตกในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ล่าสุด วันที่ 23 เม.ย. 64 นายวุฒิศักดิ์ สิงห์เดโช นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า หลังจากมีประกาศจาก ศบค. ให้ปิดสถานบริการ ซึ่งได้มีการกวดขันมาโดยตลอด บริเวณดังกล่าวเคยมีการค้าประเวณี แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้กวดขันและปิดให้บริการไปก่อนหน้านี้แล้ว
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นไปยังซอยดังกล่าว ต.หัวทุ่ง อ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จุดที่มีการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ถนนภายในหมู่บ้าน เป็นบ้านเช่าตึก 2 ชั้น จำนวน 2 ซอยตลอดทั้งซอย จัดทำเป็นร้านคาราโอเกะ 6-7 ร้าน โดยมีทางรถออก 4 ทาง บรรยากาศร้านถูกปิดเงียบทั้งหมด
นางอรุนรัตน์ โสภา เจ้าของร้านคาราโอเกะ กล่าวว่า จากคลิปที่ออกไปเป็นข่าวขอยืนยันว่าเป็นคลิปเก่า ช่วงก่อนสงกรานต์ที่มีการกลับมาเปิดร้าน ช่วงนั้นเป็นช่วงต้นเดือนของเดือนเมษายน การแพร่เชื้อโควิดรอบทที่ 3 ยังไม่ได้เข้ามา มีการเปิดร้านใช้บริการต่อ แต่ยังอยู่ในระยะป้องกันดูแลรักษาการแพร่เชื้อ งช่วงระหว่างนั้นจะเปิดร้าน 1 ทุ่ม - เที่ยงคืนเท่านั้น
ลักษณะในคลิปก็จะเป็นบริเวณหน้าร้านคาราโอเกะของตน ที่เปิดมานานกว่า 10 ปีแล้ว มีเด็กภายในร้าน 5-6 คน ปกติเด็กในร้านจะออกมาเรียกโบกมือหาลูกค้ากันตามปกติ ตนก็เข้าใจว่าเด็กภายในร้านอยากจะได้เงินพิเศษเพิ่มช่วงสถานการณ์โควิด บางครั้งถึงกับมีการวิ่งรุมกันไปหาลูกค้า แต่พอหลังจากที่ร้านของตนปิดในเวลาเที่ยงคืนแล้ว เด็กภายในร้านก็ไปเที่ยวต่อกับลูกค้าตามที่มีการตกลงกัน ร้านก็จะปิด
ซึ่งตอนนี้ทางร้านของตนไม่มีเด็กภายในร้านเหลือสักคน เนื่องจากกลับบ้านต่างจังหวัดตั้งแต่ก่อนช่วงสงกรานต์แล้ว และมีการกักตัวยังไม่ได้กลับมา ตนก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากว่าข่าวที่ออกไปมาจากไหนกัน รู้สึกเสียใจเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก อีกทั้งทุกวันนี้ทางร้านของตนได้รับผลกระทบหนัก ทั้งเรื่องค่าเช่าร้านพร้อมบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค้างจ่ายอยู่จำนวน 17,000 บาท ค่าเทอมของลูกสาววัย 8 ขวบ 30,000 บาท และลูกชายคนโตที่กำลังจะไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย จ่ายอยู่แค่ค่ามัดจำ 8,000 บาท เนื่องจากสถานการณ์โควิดกลับมารอบที่ 3 ลำบากมาก ยิ่งมีข่าวออกมาอีก ยิ่งซ้ำเติมเรื่องอาชีพการทำมาหากินเพิ่มไปอีก
อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่แห่งนี้ทุกวันตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 รอบที่ 3 แทบทุกวัน ทำให้ทางร้านของตนไม่ได้มีการเปิดให้บริการอยู่แล้ว และการป้องกันรักษาความปลอดภัยก็มีรถบรรทุกน้ำของทางเทศบาลเข้ามาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
ด้านเพื่อนบ้านใกล้เคียง กล่าวว่า ร้านคาราโอเกะภายในซอยดังกล่าวได้มีการปิดไปตั้งแต่ช่วงโควิด-19 แล้ว ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยได้ยินเสียงเพลง หรือเสียงตะโกนเรียกหยอกล้อหนุ่มสาวภายในซอย ตั้งแต่ที่มีโควิดรอบที่ 3 เข้ามาทุกอย่างในซอยแห่งนี้ได้เงียบไปหมด