จับได้แล้ว แม่ลูกติดโควิด หนีจาก รพ.สนามสระแก้ว ลูกเขยพาหนีซุกบ้านคนรู้จัก นครนายก

วุ่นทุกหย่อมหญ้า แม่ลูกติดโควิด หนีการรักษา รพ.สนาม สระแก้ว ลูกเขยพากบดาน นครนายก สุดท้ายไม่รอด เค้นถามสาเหตุหลบหนี ตอบดื้อๆ ไม่มีอะไร หนีเฉยๆ

ตำรวจสภ.เมืองนครนายกรวมกับสาธารณสุขจังหวัดนครนายก นำเจ้าหน้าที่สวมชุด PPE เข้าควบคุมตัว 2 ผู้ป่วยหญิงติดเชื้อโควิด-19 หลบหนีกระบวนการรักษาในโรงพยาบาลสนาม อบจ.สระแก้ว มาหลบตัวในพื้นที่ตำบลสาริกา จังหวัดนครนายก

พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ คำมาตย์. ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้นำชุมชนในพื้นที่ตำบลสาริกา ค้นหา 2 ผู้ป่วยหญิงติดเชื้อโควิด-19 หลังหลบหนีกระบวนการรักษาในโรงพยาบาลสนาม อบจ.สระแก้ว โดยได้เบาะแสล่าสุดว่าอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ได้ออกค้นหาตั้งแต่ช่วงเช้าจนกระทั้ง พบรถต้องสงสัย ที่มีลักษณะคล้ายรถกระบะของผู้ป่วยที่ใช้เป็นพาหนะขับขี่หลบหนี โดยพบอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 10 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก โดยรถกระบะต้องสงสัย เป็นรถกระบะ ISUZU สีบอร์น ตอนครึ่ง จอดอยู่ภายในรั้วบ้านหลังหนึ่ง ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน

จนกระทั้งเวลาผ่านไป รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับออกจากบ้านมายังบนถนนสาย นครนายก- นางรอง ซึ่งตอนนั้นมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครนายก เฝ้ารออยู่บนถนน จึงได้เรียกรถกระบะคันดังกล่าวให้จอดเพื่อทำการตรวจสอบ ว่ารถกระบะตรงกับรถต้องสงสัยหรือไม่ พร้อมตรวจสอบคนขับและผู้โดยสารว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสระแก้วได้เข้าแจ้งความที่สภ.สระแก้วเมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวหมายเลขทะเบียน ส 0507 กรุงเทพมหานคร ในรถมีคนขับเป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน โดยทั้งสองยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ทางการตามหาอยู่ เบื้องต้นทราบชื่อคนขับชื่อนายพรรณุวัฒน์ ขันทะโคตร อายุ 23 ปี และอีกคนที่นั่งมาด้วยชื่อ น.ส.กมลวรรณ ลุ่มมณี อายุ 46 ปี ส่วนหญิงสาวอีกคน น.ส.กมลชนก วิชาฉิม อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจพบอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ควบคุมตัวมาขึ้นรถกระบะ

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้สวมชุด PPE เข้าควบคุมตัวและได้ทำการประสานทางจังหวัดสระแล้ว และจะส่งตัวทั้ง 3 คนไปยังโรงพยาบาลสนามจังหวัดสระแก้ว เพื่อให้ทางการดำเนินการต่อไป

จากการสอบถามนางวรนุช กิ่งแก้ว 51 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ตำบลสาลิกา ได้บอกว่า เมื่อช่วงเช้าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้ออกตามเก็บค่าน้ำและบังเอิญมาเจอรถกระบะ ที่มีลักษณะคล้ายรถกระบะที่ปรากฏในข่าวว่ามีผู้ป่วยติดโควิดหลบหนีมาจากจังหวัดสระแก้ว มาจอดอยู่ในหมู่บ้าน จึงได้มารายงานตน จากนั้นตนได้เข้าไปตรวจสอบพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวมีความผิดปกติคือถอดป้ายทะเบียนออก เบื้องต้นทราบว่าผู้ป่วยและเจ้าของบ้านที่รถเข้าไปจอดอยู่นั้นรู้จักกัน แต่ยังไม่ทราบว่ามีความสัมพันธ์ในลักษณะใด

 
จากข้อมูลผู้ป่วยรายแรกจากประวัติหญิงอายุ 46 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในห้องแถวให้เช่าบริเวณโรงฆ่าสัตว์เก่าชุมชนเมืองย่อยที่ 11 ต.สระแก้ว เป็นผู้ป่วยลำดับที่ 3 ที่ต้องไปรายงานตัวที่โรงพยาบาลสนาม ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา หลังได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ว่าผลการตรวจโควิด-19 เป็นบวก

ส่วนรายที่สองเป็นหญิงอายุ 39 ปี พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าย่านโรงฆ่าสัตว์เก่าเช่นกัน และยังเป็นผู้ป่วยลำดับที่ 4 ที่ต้องเข้ารายงานตัวที่โรงพยาบาลสนาม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 เมษายน และจนถึงปัจจุบัน แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามติดต่อให้เข้าสู่กระบวนการรักษาตัวแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นเดียวกับผู้ป่วยรายแรก ซึ่งปลัดอำเภอเมืองสระแก้วฝ่ายความมั่นคง ได้เข้าแจ้งความที่สภ.สระแก้วเมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจึงดำเนินคดีข้อหา จงใจฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และคำสั่งจังหวัดสระแก้วที่ 982/2564 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับที่ 32