2 แม่ลูกป่วยโควิด-19 กลัวเสียสิทธิ์เตียงรักษา โบกแท็กซี่ไปเอง โชเฟอร์ช็อกฆ่าเชื้อ - กักตัว (คลิป)

26 เม.ย. 64

กรณีนายคริส โปตระนันทน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว เปิดเผยถึงเหตุการณ์ของผู้ป่วยโควิด-19 รายหนึ่งที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และได้นั่งรถแท็กซี่ไปรักษาที่โรงพยาบาล เพราะกลัวว่าจะถูกตัดสิทธิ์เตียง ทำให้ต้องประกาศตามหาแท็กซี่คันดังกล่าว เพราะเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง

130800

ล่าสุดวันที่ 26 เม.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายคริส โปตระนันทน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าทีมของพวกตน ลงพื้นที่ไปพ่นฆ่าเชื้อในซอยอินทามระ 11 เมื่อไปถึงแมนชั่นแห่งหนึ่ง ผู้ดูแลแจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในห้องพัก เป็นแม่ลูก แม่อายุ 42 ปี ลูกสาวอายุ 20 ปี ผู้ป่วยได้โรงพยาบาลแล้ว แต่ไม่มีรถที่จะเดินทางไปรักษา จึงให้ตนช่วยประสานหารถให้ ในระหว่างที่ตนกำลังช่วยจัดการเรื่องรถ เวลา 11.40 น. ผู้ป่วยรอไม่ไหว เพราะโรงพยาบาลจะตัดสิทธิ์เตียง หากไม่รีบไปภายในเวลา 12.30 น. จึงรีบขึ้นแท็กซี่ออกไป

964806384827

ทั้งนี้ตนจึงต้องประกาศหารถแท็กซี่คันดังกล่าว เพราะเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด เพื่อบอกให้รู้ตัวและกักตัวเองต่อไป ซึ่งตอนนี้ตนติดต่อแท็กซี่ได้แล้ว และได้แนะนำให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดเสื้อผ้า รวมถึงภายในรถ รวมถึงแนะนำให้กักตัว 14 วัน ซึ่งปัญหาคือเรื่องเงินเพราะอีกฝ่ายต้องหาเช้ากินค่ำ หากต้องหยุดงานถึง 14 วัน ก็อาจจะไม่มีเงินมาซื้อข้าวกิน ตนกับเพื่อน ๆ จึงมีความคิดว่าจะช่วยเหลือเบื้องต้นประมาณ 5,000 บาท ให้คนขับแท็กซี่รายนี้ จะได้ไม่ลำบากในช่วงที่ต้องกักตัว

385033

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากถามไปทางโรงพยาบาลว่า เหตุใดจึงไม่ส่งรถมารับผู้ป่วย เพราะเข้าใจว่าผู้ป่วยก็ไม่ได้ผิด เนื่องจากคงกลัวว่าจะไม่มีเตียงจึงต้องรีบไป โดยอยากให้ภาครัฐบริหารจัดการ เรื่องการรับ-ส่งผู้ป่วยไม่ให้ปัญหาแบบนี้เกิดซ้ำอีก

311414

จากนั้นทีมข่าววิดีโอคอลพูดคุยกับนายเอ (นามสมมติ) อายุ 43 ปี โชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าว กล่าวว่า วันนี้เวลาประมาณ 11.40 น. มีผู้หญิง 2 แม่ลูกเรียกแท็กซี่ ตนก็จอดรับ โดยผู้เป็นแม่ขึ้นมานั่งหลังคนขับ ส่วนลูกสาวนั่งเบาะข้าง ๆ ก่อนที่แม่จะบอกว่าให้ไปส่งที่ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น โดยบอกว่าให้รีบไป ระหว่างทางทั้งตนและผู้ป่วยใส่แมสก์ตลอด ซึ่งตนใส่ 2 ชั้น ตนขับไปถึงโรงพยาบาลใช้เวลาประมาณ 20 นาที อีกฝ่ายบอกให้ไปจอดด้านหลังตึก

856411

ขณะที่ตนกำลังลงจากรถเพื่อจะไปยกกระเป๋าท้ายรถ อีกฝ่ายบอกตนว่าไม่ต้องช่วย ก่อนหยิบกระเป๋า จ่ายเงินแล้วรีบเดินเข้าอาคารไป ตนก็เริ่มเอะใจว่าทั้ง 2 คนน่าจะติดโควิด-19 เพราะไม่ลงที่จุดรับส่งผู้ป่วย และมิเตอร์ขึ้น 81 บาท อีกฝ่ายจ่ายมา 120 บาท โดยไม่รับเงินทอน จากนั้นตนไปแวะเติมแก๊สที่ปั๊มน้ำมันแยกพงษ์เพชร โดยจอดรถทิ้งไว้และเดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วนำเงินมาจ่ายให้พนักงาน จำนวน 225 บาท ก่อนขับรถออกจากปั๊มแก๊สดังกล่าว

gr0lvc,j]^d

ในระหว่างนั้น ญาติโทรศัพท์มาบอกว่ามีการตามหารถแท็กซี่ เพราะมีผู้ป่วยโควิด-19 ขึ้นรถมา ตนจึงรีบขับรถกลับห้องพักย่านบางบัวทองทันที พร้อมทำความสะอาดเช็ดแอลกอฮอล์ในรถ และอาบน้ำ นำชุดที่ใส่แช่แอลกอฮอล์เอาไว้ ส่วนเงินที่ได้มายังอยู่ที่ตน และไม่มั่นใจว่าจ่ายค่าแก๊สไปด้วยหรือไม่

924229

ทั้งนี้ตนอยู่ระหว่างกักตัว 14 วัน โดยขณะนี้อยู่คนเดียว เพราะภรรยากลับไปต่างจังหวัด เพิ่งเดินทางกลับมาวันนี้และทราบเรื่องพอดี หลังจากนี้จะให้ภรรยาไปอยู่กับพี่สาวก่อน และเป็นคนส่งข้าวส่งน้ำให้ตน โดยช่วง 14 วัน ตนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะขาดรายได้ แต่ก็ต้องอยู่เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งตนขอตำหนิผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่า ควรมีมาตรการที่ดีกว่านี้ รวมถึงขอตำหนิผู้ป่วยที่ขึ้นรถแท็กซี่ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อ ตนขับแท็กซี่ก็อยากรับผู้โดยสารไปส่งจุดหมาย

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปยังแมนชั่นที่ผู้ป่วยโควิด-19 พักอาศัยภายในซอยอินทามระ 11 สอบถามวินรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ 1-2 วัน ทราบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในแมนชั่นดังกล่าว แต่ไม่รู้ว่าใคร จนเวลาประมาณ 11.30 น. ตนเห็น 2 แม่ลูกเดินลากกระเป๋าขึ้นแท็กซี่ ตนยังไม่เอะใจ กระทั่งมาทราบจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า 2 แม่ลูกดังกล่าวติดโควิด-19 ซึ่งตนตกใจมาก เพราะเป็นการโดยสารด้วยรถสาธารณะที่อาจจะแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม