น้ำตาล ชลิตา เปิดใจหลังมีดราม่ากับชาวเน็ต หมดโอกาสที่จะขอโทษ เตรียมแจกมิส สน.!

จากดราม่า น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 แสดงความคิดเห็นต่อรัฐบาลกรณีสถานการณ์โควิด แต่ถูกชาวเน็ตแซะ "ถ้ามีปัญหากับประเทศไทยก็ให้คืนมงกุฎ" และยังมีแชทมาด่ารัวๆ นำภาพไปโพสต์แซะ เจ้าตัวลั่นแคปไว้หมดเตรียมแจกมิส สน.

โดย น้ำตาล ชลิตา เผยกับ อมรินทร์ทีวีว่า

"อย่างที่ปรึกษาพี่ปันปัน ที่เคยโดนคุกคามเรื่อง LGBTQ ว่าในเรื่องที่เขาใช้รูปเราไปโพสต์และมีการท้าทายเราด้วย เป็นการหมิ่นประมาทอย่างหนึ่งแล้ว เพราะเป็นการใช้รูปของเราไปในทางที่ไม่ดี มันก็ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อยู่แล้ว ซึ่งพี่ปันปันก็บอกว่า ตรงนี้เราควรทำให้เป็นเคสที่ต้องจัดการจริงๆ ซึ่งจริงๆแล้วตาลเป็นคนที่ไม่อยากทำอะไรตรงนี้เลย ไม่ชอบที่จะมีปัญหากับใครด้วย ถ้าเราไม่ชอบกัน ไม่ต้องมายุ่งกัน ตาลรู้สึกอย่างนั้นอยู่แล้ว ซึ่งถ้าไม่ชอบแล้วยิ่งเข้ามา เราก็ยิ่งต้องป้องกันตัวเอง โพรเทคท์ตัวเอง"

ภาพที่เรารับรีวิวสินค้าแล้วชาวเน็ตนำไปโพสต์บอกว่าเราอยู่บ้านสุขสบาย ?
"คือจริงๆ ในเรื่องของการถ่ายรูปต่างๆ จริงๆ ตาลก็ช่วยร้านค้าด้วย บางทีเขาไม่มีตังค์มาจ้างเราขนาดนั้น แต่เราช่วยให้เขาขายได้ มีรายได้เข้ามาในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ เวลาตาลทำอะไรไม่ชอบป่าวประกาศว่า วันนี้ฉันไปช่วยเหลือสังคมมาหรืออะไรอย่างนี้"

"มันแล้วแต่คน อย่างพี่มารีญา เขาจัดตั้งองค์กรขึ้นมาเองเลย แต่อย่างตาลมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบทางบ้านในเรื่องของการทำงาน การเรียน และครอบครัว ไม่สามารถลงไปทำเป็นผู้นำ ลีดเดอร์ได้ขนาดนั้น ซึ่งถามว่าตาลเอง ว่าอยากทำไหม ตาลบอกตั้งแต่ตอนประกวดแล้ว ถ้าตาลอยู่ในจุดที่สามารถช่วยคนอื่นได้ ตาลจะช่วย แต่ตอนนี้ตาลเองยังต้องพึ่งตัวเองเพื่อที่จะสู้กับเศรษฐกิจและสถานการณ์ตรงนี้ เราถึงออกมาพูด เพราะไม่ใช่แค่เราลำบาก แต่มีคนข้างหลังเราที่ลำบากด้วย ดังนั้นตาลจึงอยากเป็นกระบอกเสียง คนอื่นที่ไม่ได้พูด คนข้างหลังไม่ได้พูด เพราะเขาไม่ได้มีเสียงมากเหมือนเรา ดังนั้นการที่เรามีพื้นที่ตรงนี้ก็อยากช่วยเป็นกระบอกเสียงแทนคนข้างหลังของเรา"

อยากฝากอะไรถึงเกรียนคีย์บอร์ด ที่ยังมีโอกาสจะหยุด หรือโอกาสที่จะขอโทษ
"ตาลไม่อยากจะห้ามความคิดใคร และเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนความคิดได้ด้วย เพราะถ้าเขามีอุดมคติแบบนั้นแล้วเขาก็จะไม่เปลี่ยน เพราะเขาคิดว่าตรงนี้คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาคิดแล้ว แค่อยากจะเตือนเขาว่า เวลาที่เขาโพสต์อะไร หรือทำอะไร เขาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำตรงนั้น มิเช่นนั้นเวลาที่เกิดเหตุอะไรขึ้นมาจริงๆ ตรงนั้นคือสิ่งที่เป็นหลักฐานทุกๆ อย่างเลย เรียกว่า หาภัยให้กับตัวเอง"