สืบเนื่องจากการสูญเสียศิลปินตลกของวงการบันเทิงไทย การจากไปของ "น้าค่อม ชวนชื่น" หรือ นายอาคม ปรีดากุล หลังติดเชื้อโควิด-19 กระทั่งเสียชีวิตอย่างสงบในช่วงเช้าเวลา 07.30 น. วันที่ 30 เม.ย.64 ซึ่งสร้างความเสียใจอย่างมากต่อครอบครัวและญาติสนิทมิตรสหาย ทั้งในและนอกวงการ รวมไปถึงเหล่าบรรดาแฟนคลับที่ติดตามผลงานด้วย
ล่าสุดวันที่ 30 เม.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี มีโอกาสพูดคุยกับทาง "คุณไทด์ เอกพัน บรรลือฤทธิ์" หนึ่งในนักแสดงที่เคยร่วมงานกับ "น้าค่อม ชวนชื่น" โดยทาง "คุณไทด์" ยอมรับว่าส่วนตัวติดตามข่าวสารและอัปเดตข้อมูลอาการป่วยของ "น้าค่อม" หรือที่ตนเรียก "พี่ค่อม" มาตลอดระยะเวลาที่เขาพักรักษาตัว พอทราบช่วงเช้าว่าเสียชีวิตถึงขั้นกับเข่าอ่อน และคิดว่าเร็วเกินไปกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็เข้าใจว่ามีโรคประจำตัวและอายุที่มาก ทำให้มีปัจจัยเสี่ยงในหลาย ๆ ด้าน
"คุณไทด์" กล่าวว่า หนึ่งสิ่งที่ตนประทับใจในตัว "น้าค่อม" จากที่เคยทำงานร่วมกันคือเรื่องของนิสัย เพราะแกมักจะใส่ใจคนรอบข้าง ตลอดจนเป็นคนที่ทำงานตรงต่อเวลามาก ๆ ตนยกให้เป็นตลกที่คนรักมากที่สุด แม้ว่าจะพูดจาหยาบคาย แต่นัยจริง ๆ กลับไม่มีอะไร แถมคนที่ฟังกลับตลก ที่ผ่านมาส่วนตัวเคยร่วมงานละครมามากกว่า 3-4 เรื่อง ไม่นับรายการต่าง ๆ ที่ถ่ายทำด้วยกัน ก็ถือว่าค่อนข้างมาก
"การสูญเสียครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในวงการตลก เห็นได้จากละครที่เล่นด้วยกัน เรียกว่าบรรยากาศในการถ่ายทำนั้นค่อนข้างสนุกสนานเเละเฮฮา มีแต่ความอารมณ์ดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแกเป็นคนอารมณ์ดีและมีเอกลักษณ์ที่พูดคำหยาบ แต่ดูไม่หยาบ" คุณไทด์ กล่าว
ท้ายสุดนี้ตนก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนในครอบครัวของ "น้าค่อม" หลังทราบข่าวว่ามีบางคนในครอบครัวยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพบาบาล ก็อยากให้ทุกท่านกลับมาหายจากอาการป่วยเร็ววัน ตนก็ขอเป็นกำลังใจให้
นอกจากนี้ยังมีคนในวงการบันเทิงมากมาย ที่ได้ออกมาโพสต์ภาพอาลัย พร้อมเล่าถึงความประทับใจที่มีต่อน้าค่อม "หนุ่มแจ็ค แฟนฉัน" ได้โพสต์คลิปความทรงจำ พร้อมข้อความระบุว่า “คำที่พ่อค่อมเคยสอน และยังจำได้อยู่เสมอ เองต้องขยัน และตรงต่อเวลา เองต้องน่ารักกับผู้ใหญ่ทุกท่านอยู่เสมอ คำเหล่านี้ผมจะจำไว้เสมอและนำกลับมาใช้ในการทำงานจนถึงทุกวันนี้ รักและเคารพพ่อค่อมเสมอ หลับพักผ่อนให้สบายนะครับพ่อ”
สำหรับการจากไปของนักแสดงตลกชื่อดัง "น้าค่อม ชวนชื่น" จากโรคโควิด-19 ด้วยวัย 63 ปี เมื่อช่วงเวลา 07.30 น. วันที่ 30 เม.ย.64 ทำให้คนบันเทิงต่างร่วมไว้อาลัยอย่างมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ นักแสดงตลกร่วมคณะเดียวกันอย่าง "จิ้ม ชวนชื่น"
โดยทีมข่าวได้วิดีโอคอลไปพูดคุย บางช่วงพี่จิ้ม ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พี่จิ้ม เปิดเผยว่า ตอนที่รู้ว่าน้าค่อมติดเชื้อโควิด-19 แล้วอาการทรุด ก็มีทำใจไว้บ้างแล้ว แต่อีกใจก็รอลุ้นให้มีปาฏิหาริย์ ซึ่งพอมาทราบข่าวว่าเสียชีวิตก็ทำเอาช็อก แล้วก็ใจหายมาก เพราะถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของคณะชวนชื่น อย่างตอนที่พ่อดม ชวนชื่น เสียชีวิต ตนยังรู้สึกว่า พ่อเขามาไกลแล้ว ใกล้หมดอายุขัยแล้วจริง ๆ เพราะเขาก็ 80 กว่าแล้ว แถมมีโรคประจำตัวอีก แต่น้าค่อม เพิ่งจะอายุเท่านี้เอง
พี่จิ้ม ยังได้เล่าย้อน ตั้งแต่น้าค่อมเข้ามาในคณะชวนชื่น ตนเป็นคนชักชวนเข้ามาร่วมคณะ ตอนนั้นจำได้ว่าประมาณปี 2529 จวบจนวันนี้ก็รู้จักกันมานานกว่า 35 ปี ตอนแรกน้าค่อมเล่นลิเกตนบังเอิญได้ไปดูแล้วก็รู้สึกว่าอยากได้น้าค่อมมาอยู่ในคณะ จึงไปทาบทามเขาบอกขอคิดดูก่อน ผ่านไป 2 วัน เขายังไม่ให้คำตอบ ตนจึงไปขโมยเขามาจากคณะลิเก ด้วยการไปตามหาแล้วล็อกตัวขึ้นรถมาเลย ในคณะตนและน้าค่อมมักจะเล่นเป็นคู่ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าคู่กัด ทำให้มีความสนิทกันมาก และตนก็รู้สึกว่าเล่นกับน้าค่อม สนุกที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม พี่จิ้ม ยังบอกอีกว่า น้าค่อมได้เงินก้อนแรกจากการเล่นตลกเป็นเงิน 7,000 บาท ในสมัยนั้นถือว่าเยอะมาก และน้าค่อมก็ยังตกใจถามว่าให้เงินผิดหรือเปล่า การที่น้าค่อมเสียชีวิตจากโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจัดพิธีรดน้ำศพ หรือสวดอภิธรรมได้เหมือนกรณีทั่วไป ตนก็รู้สึกว่าบีบหัวใจ แล้วก็สลดใจมาก เท่ากับไม่ได้สั่งลาอะไรกันเลย หากเกิดชาติหน้าฉันใดก็ขอให้ได้มาผูกพันกันอีก ได้มาเป็นพี่น้องกัน สำหรับที่ผ่านมาก็ขออโหสิกรรมด้วย และขอให้น้าค่อมไปสู่ภพภูมิที่ดี
ขณะที่ “โน้ต เชิญยิ้ม” หรือ นายบำเรอ ผ่องอินทรกุล ก็ได้โพสต์ข้อความและเผยทุกความรู้สึกต่อการจากไปของเพื่อนที่ชื่อว่า "ค่อม ชวนชื่น" เพราะนับว่าทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตลอดระยะเวลา 50 ปี
“มึงกับกูเป็นเพื่อนกันมา 50 กว่าปี (ตั้งแต่เด็ก ๆ อายุสิบกว่า ๆ) ตั้งแต่ลำบากมาด้วยกัน เช่าห้องอยู่ด้วยกัน นอนตัวเบียดกัน นุ่งกางเกงตัวเดียวกัน (ผลัดกันนุ่งเช้าเย็น) เช้ามึงนุ่ง กูอยู่ห้องใส่ผ้าขาวม้ารอนุ่งตอนบ่าย กินราดหน้าห่อเดียวกัน เอาข้าวก้นหม้อในโรงลิเกผสมคลุกกับก๋วยเตี๋ยวเพื่อกินให้อิ่ม มีเงินยี่สิบบาทยังแบ่งคนละสิบบาท นอนตามรถบัสลิเก เพราะไม่มีที่ไป มึงตีกลอง กูเป็นตัวตลกลิเก มึงนั่งดูกู จำมุกกู กูลืมมุก มึงก็จะตะโกนบอกมุกกู
เราเคยคุยกันว่าสักวันเราจะมีเมีย เราจะไม่ให้ลูกเมียลำบากเหมือนเรา และเราก็ทำได้ และใช้เวลานานมาก (หลายสิบปี) และยังมีอีกมากมายคงบรรยายได้ไม่หมด เพราะตอนนี้พิมพ์ไปร้องไห้ไป (กูไม่เคยร้องไห้มานานมากแล้วนะไอ้ค่อม) คบกันตั้งแต่ลำบาก พอสบายก็มาตายจาก กูจะคิดถึงมึง และนึกถึงมึงตลอดไป พักผ่อนนะเพื่อนรัก โลกนี้คือละคร”
สำหรับประวัติหน้าค่อม ชวนชื่น หรือนายอาคม ปรีดากุล อายุ 63 ปี เกิดวันที่ 5 ม.ค.2501 เสียชีวิตวันที่ 30 เม.ย.64 มีภูมิลำเนาเป็นชาว จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนประวัติครอบครัว สมรสกับนางประภาศรี ปรีดากุล (ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล) และมีบุตรด้วยกัน 3 คน ซึ่งน้าค่อม เคยเป็นสมาชิกตลกคณะชวนชื่น จากนั้นก็ประกอบอาชีพนักแสดงตลกเรื่อยมาเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
นอกจากนี้ผลงานของน้าค่อม ชวนชื่น ที่ฝากไว้บนก่อเงิน หรือ ภาพยนตร์ และเรียกเสียงหัวเราะให้คนไทยได้มีทั้งหมด 92 ผลงาน อาทิ ในปี 2545 เรื่อง 7 ประจัญบาน, ในปี 2548 เรื่อง พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า, ในปี 2549 เรื่อง แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า, ในปี 2553 เรื่อง สุดเขตสเลดเป็ด, ในปี 2555 เรื่อง คุณนายโฮ และในปี 2563 เรื่อง อีเรียมซิ่ง