กรณีเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 4 พ.ค.64 พ.ต.ท.ธนิศร เอกรัตนณัฐ สารวัตร (สอบสวน) สภ.สามควายเผือก จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิต 2 ราย ที่ห้องแถวแห่งหนึ่งพื้นที่หมู่ 5 ต.ธรรมศาลา อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจชุดสืบสวน สภ.สามควายเผือก แพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถว 10 ห้อง พบศพนายธนนรักษ์ อายุ 62 ปี และนางสรินทร์ดา อายุ 64 ปี สามีภรรยา สภาพทั้งคู่ผูกคอตัวเองกับขื่อประตูห้องน้ำ ตามร่างกายของทั้ง 2 คน ไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ทั้งคู่ได้การเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ระบุข้อความว่า "4 พ.ค. 64 วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่บนโลกใบนี้ อยู่ต่อไปก็ทรมานเหลือเกิน เราขออโหสิกรรมทุกๆคนด้วย ลาก่อนจากต้อยผู้อาภัพ" และยังพบกระดาษที่มีการเขียนไว้อีกแผ่น มีข้อควา ม"ผมขอลาก่อนขอให้ทุกคนโชคดีธนนรักษ์ ทิพย์สีห์นาค" นอกจากนี้ ยังมีการเขียนเลขปริศนาไว้ให้แก่ญาติพี่น้องด้วย
วันที่ 5 พ.ค. 64 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดเกาะวังไทร จ.นครปฐม สถานที่บำเพ็ญกุศลศพ พระพงศ์พิเชษฐ์ ลูกชายคนเล็กของผู้เสียชีวิต เผยว่า วานนี้ ช่วงเวลา 16.00 น. ทางโยมพ่อกับโยมแม่ได้นำลิ้นชักมาวางไว้ที่หน้าห้อง แต่ตัวหลวงพี่ไม่ได้เจอท่าน
กระทั่งเวลา 17.55 น. โยมพ่อและโยมแม่ได้โทรศัพท์มาหา คาดว่าน่าจะเป็นการสั่งเสีย ระบุว่า แบตสำรองพร้อมกับเงินจำนวน 200 บาท และบิลเอกสารจำนำโทรศัพท์มือถือทุกอย่างอยู่ในลิ้นชัก นอกจากนี้ ยังบอกให้ดูแลตัวเองดี ๆ ขณะเดียวกันไม่ได้เอะใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้งคู่ชอบตัดพ้อว่าจะฆ่าตัวตาย ต่อมาหลวงพี่รู้สึกกระวนกระวาย พยายามติดต่อหาโยมพ่อและโยมแม่ ซึ่งไม่สามารถติดต่อได้ และในเวลา 20.00 น. จึงให้ลูกศิษย์นำอาหารไปให้โยมพ่อกับโยมแม่ กระทั่งพบว่าท่านทั้งสองได้ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต คาดว่าน่าจะวางแผนตั้งแต่ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้แล้ว
สำหรับสาเหตุที่โยมพ่อโยมแม่ได้ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต คาดว่าน่าจะมีปัญหาเครียดเกี่ยวกับเรื่องหนี้นอกระบบรายวัน แต่เดิมทั้งสองประกอบขายชีพเร่ขายผลไม้ แต่พอเจอโควิด-19 ทำให้ขายของไม่ได้ และหมุนเงินไม่ทัน รถกระบะที่ใช้งานก็ถูกยึดไป และได้ออกรถจักรยานยนต์มาขี่แทน
นอกจากนี้ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา โยมพ่อและโยมแม่มีปัญหาด้านการเงิน มีหนี้สินยอดทะลุถึง 1.9 ล้านบาท แต่ได้จ่ายไปหมดแล้ว และภายหลังได้ไปกู้หนี้มาเพิ่ม เพื่อนำมาลุงทุนขายของ แต่เท่าที่ทราบมีเจ้าหนี้ 1 คน ยอดหนี้ 50,000 กว่าบาท ส่วนเจ้าหนี้คนอื่น ๆ ยังไม่ทราบรายละเอียด คาดว่าตอนนี้ยอดหนี้หลักแสนบาท
โดยโยมพ่อและโยมแม่มีลูกชาย 2 คน หลวงพี่เป็นลูกชายคนที่สอง ส่วนพี่ชายได้ห่างหายจากครอบครัวมานานแล้ว เนื่องจากโยมพ่อและโยมแม่ชอบให้ไปกู้เงินให้ อย่างไรก็ตาม หลวงพี่เสียใจในการกระทำของโยมพ่อและโยมแม่ ขณะนี้ยังไม่ได้วางแผนชีวิต แต่อยากให้ทั้งสองไปสู่ภพภูมิที่ดี
นายสมศักดิ์ บุญเรือง อายุ 32 ปี ผู้พบศพ เผยว่า วานนี้หลวงพี่ได้วานให้ตนไปดูโยมพ่อโยมแม่ พร้อมนำอาหารไปให้ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อโยมพ่อโยมแม่ได้ เมื่อไปถึงห้องของผู้เสียชีวิต เพื่อนรุ่นน้องของตนได้เข้าไปดู พบว่าประตูหน้าห้องไม่ได้ล็อกกุญแจ ไม่เปิดไฟ และไม่มีคนอยู่ จึงเรียกให้เข้าไปดูภายในห้อง เมื่อตนเข้าไปในห้อง เดินสำรวจพบว่าผู้เสียชีวิตได้ผูกคอตายที่หน้าประตูห้องน้ำ สภาพศพคุณน้าผู้หญิงได้กอดคอคุณน้าผู้ชาย นอกจากนี้ บริเวณโต๊ะใกล้ที่นอนมีจดหมายทิ้งไว้
ตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าพวกท่านจะคิดสั้น คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะมีการวางแผนกันมาแล้ว ที่ผ่านมาตนนั้นคิดว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองเป็นเหมือนพ่อแม่ เพราะค่อนข้างสนิทกัน ชอบพากันไปทำบุญ ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตไม่เคยมาปรึกษาหรือมาเล่าให้ตัวฟังว่ามีปัญหาทางด้านการเงิน แต่ตนก็จะทราบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากหลวงพี่ได้เล่าให้ฟัง นอกจากนี้แล้วทำผู้เสียชีวิตชอบตัดพ้อว่าจะฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำจริง อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากจะให้ผู้เสียชีวิตนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหลวงพี่ ตนก็จะดูแลให้
