จากเหตุการณ์กระหน่ำยิง เป็นเหตุให้นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอร์ช อายุ 20 ปีและน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย อายุ 20 ปี เสียชีวิตที่ลานจอดรถสถานที่ท่องเที่ยวเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี ซึ่งตำรวจสามารถควบคุมตัว นายสายันต์ ศรีสุข ผู้ต้องหาที่เป็นคนชี้เป้าและแฝงตัวไปกับกลุ่มผู้ตายด้วย
วันที่ 2 ส.ค.61
นายวราเทพ มาสูงเนิน หรือ อั้ม ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดใจผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตนเป็นเพื่อนกับน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย และ นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอร์ช อายุ 20 ปีและน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย ที่จ.กาฬสินธุ์ตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ทราบเรื่องส่วนตัวของสปายว่า นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน ตามจีบ ทราบแค่ว่าสปายกับฟอร์ชไปทำงานที่ จ.ภูเก็ต หลังจากนั้นได้ย้ายไปทำงานที่ จ.นครปฐม
ส่วนนายสายันต์ ผู้ชี้เป้าให้เสี่ยอ้วนได้เข้ามาจีบตน เมื่อวันที่ 24 พ.ค.61 ด้วยวิธีการทักช่องแชทเฟซบุ๊กมาบอกว่า ชอบเพราะถูกชะตา พร้อมเล่าว่า ตัวเองมีอาชีพกรีดยางอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อพูดคุยได้ระยะหนึ่ง ตนเริ่มมีใจจนคบหากับนายสายันต์ แต่ไม่ได้นัดเจอ จนกระทั่งกลางเดือนมิ.ย. นายสายันต์กับครอบครัว 5 คน มาหาที่ จ.กาฬสินธุ์ อ้างว่า อยากเจอหน้าสัก 20 นาที แต่ในวันดังกล่าวเสี่ยอ้วนไม่ได้มาด้วย
ต่อมา นายอั้ม ส่งภาพตนที่ถ่ายกับสปาย คาดว่า คงนำมาจากเฟซบุ๊กตน แล้วมาถามว่า ผู้หญิงคนนี้คือใคร ใช่แฟนหรือไม่ ตนตอบไปว่า เป็นเพื่อนรักชื่อ สปาย หลังจากนั้น นายสายันต์มักจะถามถึงสปายพร้อมกับชมว่าสวยอยู่เป็นประจำ ช่วงนั้นรู้สึกแปลกใจจึงถามนายสายันต์ว่า ชอบสปายหรือไม่ แต่นายสายันต์ปฏิเสธ
หลังจากนั้น ตนก็บอกนายสายันต์ว่า สปายชวนไปเที่ยวไหว้พระที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี ขณะนั้น นายสายันต์ ขอไปด้วยโดยนัดเจอกันที่สวนจตุจักร ระหว่างที่เจอกัน นายสายันต์ แยกตัวไปคุยโทรศัพท์ อ้างว่า คุยกับญาติ และระหว่างทางที่นั่งรถนายสายันต์ จะใส่หูฟังโทรศัพท์ตลอดเวลา พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ มากดถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ข้างทาง แล้วเก็บใส่กระเป๋า ซึ่งตนบอกให้ถอดหูฟัง เพราะไม่ชอบ แต่นายสายันต์ ก็ไม่ยอมถอด
จนกระทั่งมาถึงเขาชีจรรย์จุดเกิดเหตุ สปายกับฟอร์ช แยกกันไปถ่ายรูปไหว้พระ โดยนัดเจอกันที่จอดรถหน้าห้องน้ำ เมื่อตนเองมาถึง นายสายันต์ ได้แยกตัวขอไปเข้าห้องน้ำ ส่วนสปายและฟอร์ช ไปรอที่รถ ตนจึงไปเข้าห้องน้ำกับ นายสายันต์ เมื่อนายสายันต์ เข้าห้องน้ำเสร็จก็ยังไม่ยอมกลับไปที่รถพร้อมกับชวนตนไปซื้อน้ำมะพร้าว เมื่อเดินไปได้สักพักตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น วินาทีนั้นตนไม่เห็นคนยิง และไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เพื่อนจะถูกยิง
หลังเสียงปืนสิ้นสุดลง นายสายันต์ ไม่มีท่าทีพิรุธ หรือมีอาการผิดปกติที่ทำให้ตนรู้สึกสงสัยแต่อย่างใด ยอมรับว่า มารู้ความจริงเมื่อตำรวจ นำตัวไปสอบปากคำ และบอกว่า นายสายันต์ เป็นคนชี้เป้า นายอั้ม เปิดเผยกับทีมข่าว ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและสะอื้นร้องไห้ไปด้วยว่า ตนรู้สึกเสียใจและใจหายที่เสียเพื่อนรัก โดยไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาทำร้ายกันถึงขนาดนี้ และหากคนร้ายจะมาขอโทษ ตนไม่ให้อภัย เนื่องจากทำเกินไป จึงอยากให้เจ้าหน้าที่จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด และอยากจะขอโทษเพื่อน เนื่องจากตนไม่ทราบจริงๆว่า นายสายันต์จะมาหลอก