เด่นภูมิชะตาขาด ขาใหญ่ระดมพลลากคอ สุดช็อก "พริตตี้" โผล่แฉถูกขืนใจข้ามคืน (คลิป)

จากกรณีนายเด่นภูมิ วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี โมเดลลิ่งเก๊ที่ปลอมตัวเป็นสาวประเภทสอง หลอกทำอนาจารและข่มขืนสาวสวย เน็ตไอดอล และพริตตี้หลายราย ด้วยการใช้อาวุธข่มขู่และบังคับให้เสพยาเสพติดด้วยนั้น ล่าสุด เฟซบุ๊กของกองปราบปรามฯ ระบุว่ากำลังตัวนายเด่นภูมิแล้ว

ล่าสุด วันที่ 10 พ.ค. 64 น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาใน จ.ชลบุรี ที่ถูกนายเด่นภูมิขืนใจที่โรงแรมแห่ง ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 40/1 เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 เม.ย. 64 ข้ามไปถึงวันที่ 8 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา

โดยวันนี้เวลา 13.30 น. เจ้าตัวได้เดินทางเข้ามาแจ้งความที่ สน.บวรมงคล โดย มีน.ส.ฝน (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ผู้เสียหายมาให้กำลังใจ อีกทั้งทั้งคู่ยังได้เข้าไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกัน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุการต่อเนื่อง น.ส.ฝน เป็นเหนื่อนต่อจาก น.ส.น้อย

 จากนั้นในเวลา 15.30 น. นางสาวน้อย (นามสมมติ) ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนานกว่า 2 ชั่วโมง พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่าที่ตนจะให้ได้ ซึ่งตนยังคงจำได้ทุกรายละเอียดที่นายเด่นภูมิกระทำกับตนไว้ หลังจากที่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ยังไม่ 100 % เนื่องจากตนยังไม่ได้เล่าเรื่องราวให้ครอบครัวและเพื่อนสนิทฟัง เพราะไม่อยากให้ครอบครัวเป็นห่วง แต่ที่ตนยินดีให้สัมภาษณ์และเข้าแจ้งความ เพราะตนไม่อยากให้นายเด่นภูมิไปทำไม่ดีกับผู้หญิงคนอื่นอีก หากตนเลือกที่จะเงียบ จะต้องมีเหยื่อที่เคราะห์ร้ายอีก วันนี้ตนโชคดีที่ไม่ตาย แต่วันหน้าเหยื่อไม่ได้โชคดีแล้วตาย ตนคงจะรู้สึกผิด

ตนยังคงกลัวถูกนายเด่นภูมินำคลิปหรือรูปมาประจาน แต่ตนก็ได้ตัดสินใจมาแจ้งความ หลังจากที่ตนหนีออกมาจากโรงแรมพร้อมกับนางสาวฝน (นามสมมติ) ในวันที่ 9 เม.ย. ต่อมาในวันที่ 10 เม.ย. นายเด่นภูมิก็ได้โทรศัพท์ทาหาตนขู่ฆ่า ตนจึงตัดสินใจที่จะอยู่เงียบ ๆ เพียงลำพัง ส่วนการนำคลิปกับรูปมาประจาน ตนไม่สนใจแล้ว เพราะตนอยากให้นายเด่นภูมิได้รับผลกรรมที่ก่อไว้

ทั้งนี้ ตนเพิ่งเคยรับงานเอ็นเตอร์เทนครั้งแรก แต่กลับถูกทำร้าย ทำให้ตนไม่กล้าที่จะรับงานถ่ายแบบหรืองานอื่น ๆ อีก ซึ่งตนขอพักที่จะทำงานไปก่อน เพราะตนกลัวว่าจะถูกหลอกซ้ำ หรือถูกนายเด่นภูมิตามมาทำร้าย สาเหตุที่ตนยอมรับงานของนายเด่นภูมิ เพราะ นายเด่นภูมิพูดจาหว่านล้อมให้ตายใจ จำนวนเงินที่สูง 20,000 บาท ไม่รวมค่ารถ และตอนนั้นตนกำลังต้องการใช้เงิน โดยการหว่านล้อมของนายเด่นภูมิอ้างว่าตัวเองเป็นลูกค้าประจำของเมืองพัทยาเมืองชลบุรี อ้างว่ารู้จักคนเยอะ และอ้างชื่นนางแบบพริตตี้หลายคนใน จ.ชลบุรี ตนจึงหลงเชื่อ

ทั้งนี้ ตนรู้สึกผิดต่อเรียกให้นางสาวฝน (นามสมมติ) ต้องมารับกรรมเช่นเดียวกับตน แต่ตนก็ไม่อยากตาย ตนได้พูดคุยกับนางสาวฝน (นามสมมติ) ขอโทษและอธิบายว่าตนไม่ได้ตั้งใจ ตนไม่ได้อยากให้ใครมาถูกกระทำแบบตน ขณะนี้ตนยังพอจะนอนหลับได้บ้าง แต่ต้องพึ่งยานอนหลับ ตนยังไม่ได้ไปพบจิตแพทย์ เพราะตนอยากอยู่กับตัวเอง หวังว่าเรื่องราวนี้จะผ่านพ้นไปเอง ตนวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยากให้ติดตามตัวมาให้ได้โดยเร็ว ตนกลัวว่าจะมีเหยื่อรายอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีก "คนมันโรคจิต มันไม่หยุดแค่นี้แน่นอน"

โดยก่อนหน้านี้ สน.บวรมงคล ได้ขออนุมัติศาลในการออกหมายจับนายเด่นภูมิในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา, บังคับข่มขืนใจผู้อื่น และกักขังหน่วงเหนี่ยว อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องขออมุมัติหมายจับจากศาลแล้ว เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่อง เพียงต่างกรรมต่างวาระ

นางสาวเมย์ (นามสมมติ) แม่ของน.ส.ฝน ผู้เสียหาย ซึ่งได้เดินทางมาให้กำลังใจที่ สน.บวรมงคล เล่าว่า เวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 9 เม.ย. หลังจากที่ลูกสาวของตนได้หนีออกมาจากโรงแรม ก็ได้ทักแชตมาหาตน แต่ตนไม่ได้ตอบ ลูกสาวจึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนบ้าน ตนได้พูดคุยกับลูกสาวซึ่งกำลังร้องไห้ จึงได้ถามว่าเป็นอะไร ลูกสาวบอกว่า “แม่รู้ไหม หนูเจออะไร หนูจะตายแล้วแม่ หนูเกือบตาย” ตนได้บอกให้ลูกใจเย็น ๆ ค่อย ๆ เล่า โดยลูกสาวของตนบอกว่ามีลูกค้าหลอกหนูมาปล้นหนู ข่มขืนหนู เอามีดจี้หนู ไอ้คนที่เคยเป็นข่าว ตนและลูกสาวต่างร้องไห้ ลูกสาวตนพูดถึงเหยื่อรายแรกว่าถูกทำร้ายยิ่งกว่า ถูกด้ามมีดยัดเข้าอวัยวะเพศ จนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ร้องไห้ พูดไม่รู้เรื่อง

ซึ่งที่ลูกสาวตนหลงเชื่อแล้วรับงานของนายเด่นภูมิ เพราะลูกสาวตนได้ยินเสียงผู้หญิงที่รับงานก่อนหน้าตนจึงคิดว่างานปลอดภัย แต่เมื่อไปถึงโรงแรม นายเด่นภูมิกลับนำโซฟามันกั้นประตูแล้วใช้มีดจี้ บังคับให้ลูกสาวตนถอดเสื้อผ้า ข่มขืน ชิงเงินสดไป พร้อมบังคับให้โอนเงินให้ ซึ่งนายเด่นภูมิยังบังคับให้ลูกสาวตนหลอกเหยื่อผู้หญิงมาเพิ่ม ตนได้บอกให้ลูกสาวใจเย็น ๆ เดี๋ยวจะพาไปแจ้งความ แต่ลูกสาวของตนกลับบอกว่า “หนูไม่อยากอยู่แล้วแม่” ซึ่งทำให้ตนรู้สึกเป็นห่วง ตนแนะนำให้ลูกสาวโทรแจ้ง 191 แต่ลูกสาวไม่ยอม เพราะลูกสาวกลัวบอกว่า “ถ้าหนูตาย แม่รับได้ไหม” ตนถึงกลับแน่นหน้าอก พูดอะไรไม่ถูก ตนจึงบอกกับลูกสาวว่ารุ่งขึ้นตนจะเดินทางมารับลูกสาวกลับต่างจังหวัดแล้วค่อยคุยปรึกษากัน

จากนั้น เมื่อตนได้วางสายโทรศัพท์ของลูกสาว ตนทำอะไรไม่ถูก ตนกังวลไปหมด ตนจึงต้องคอยทักหาและโทรศัพท์หาลูกสาวอยู่เรื่อย ๆ และได้ติดต่อเพื่อนของลูกสาวให้มาอยู่เป็นเพื่อน ตนโมโหและโกธรแค้นนายเด่นภูมิเป็นอย่างมาก คำว่า “ถูกกระทำทั้งคืน” ตนคิดภาพตามได้ทั้งหมดว่าลูกสาวตนถูกกระทำอะไรไว้บ้าง ในวันที่ 10 เม.ย. ตนเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อรับลูกสาวกลับบ้าน ต่างคนต่างร้องไห้ ตนได้แนะนำให้ลูดสาวรีบซื้อยาคุมฉุกเฉิน จากนั้นเมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้านที่ต่างจังหวัด ก็ได้พาลูกสาวไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว พร้อมนัดวันพาลูกสาวไปตรวจร่างกาย

ตนทราบมาตลอดว่าลูกสาวของตนทำงานเป็นนางแบบพริตตี้ ซึ่งทำมาได้ประมาณ 2 ปี ลูกสาวปรึกษากับตนตลอดว่างานไหนรับได้งานไหนห้ามรับ อีกทั้งเวลาลูกสาวตนไปถึงสถานที่รับงาน ลูกสาวตนจะส่งโลเกชั่นมาให้ตลอด พูดคุยกับตนอยู่ตลอดวเลา เพื่อความปลอดภัย แต่ในวันที่ 8 เม.ย. ที่ลูกสาวตนถูกกระทำ ตนโทรศัพท์หาลูกสาวไม่ติด เพราะตนคิดว่าลูกนอนหลับ

จากนั้น ก็ได้มีเหยื่อรายหนึ่งคือ นางสาวฟ้า (นามสมมติ) ได้ทักขอความช่วยเหลือในกลุ่มนางแบบพริตตี้ หลังจากถูกนายเด่นภูมิหลอก ลูกสาวของตนจึงเริ่มคิดว่าไม่สามารถปล่อยให้นายเด่นภูมิลอยนวลได้ ขณะนี้เหยื่อของนายเด่นภูมิเริ่มรวมตัวกัน ตั้งกลุ่มไลน์ ซึ่งรวบรวมเหยื่อในช่วงปลายปี 63 ถึงปัจจุบัน มีมากถึง 36 คน แต่ตนคาดว่าน่าจะมีเหยื่อมากกว่านั้น ตนคาดว่านายเด่นภูมิวัน ๆ คงไม่ทำงานอะไร คงจะหลอกคนไปเรื่อย ๆ หลอกข่มขืนชิงทรัพย์ ตนอยากจะบอกเหยื่อรายอื่น ๆ ของนายเด่นภูมิว่าขอให้ออกมารวมตัวกัน เพื่อเอาผิดนายเด่นภูมิ

ตนได้บอกลูกสาวว่า “ถ้าไม่แจ้งความ แล้วนายเด่นภูมิไปหลอกคนอื่น ๆ อีก จะทำยังไง ถ้าผู้หญิงเหล่านั้นต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับหนู เขาจะรู้สึกยังไง” หลายคนอาจจะบอกว่าทำอาชีพแบบนี้สมควรโดน ตนเข้าใจว่างานมี 2 แง่ บางคนอาจจะเห็นดี บางคนอาจจะไม่เห็นด้วย ตนคิดว่าทำอาชีพแบบนี้ไม่ผิด และไม่ควรที่จะต้องเจอเหตุร้ายแรงแบบนี้ ลูกของตนทำงานหาเงินส่งให้ครอบครัว เพราะไม่อยากให้ตนลำบาก แต่ตนยืนยันว่างานแบบนี้ไม่มีอะไรไม่ดีหรือเสียหาย ซึ่งทุกวันนี้ ตนยังคงต้องพาลูกสาวไปพบกับจิตแพทย์ทุกสัปดาห์ เพราะลูกสาวยังคงผวา นอนไม่หลับ และมีความเครียด ต้องพึ่งยาคลายเครียดและยานอนหลับ

น.ส.ปาล์ม (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเอกชน เหยื่อของนายเด่นภูมิ เหตุเกิดในวันที่ 13 เม.ย. 64 เล่าว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย. เวลาประมาณ 09.03 น. นายเด่นภูมิได้ใช้ไลน์ ชื่อไลน์ “M” โพรไฟล์หน้าตัวการ์ตูนผู้หญิงร้องไห้ ทักมาหาตน บอกกับตนว่ามีงานเอ็นเตอร์เทนชงเหล้าให้ลูกค้านักธุรกิจกลุ่มใหญ่ 12.00-20.00 น. รวม 8 ชั่วโมง ย่านจรัญสนิทวงศ์ ค่าจ้างอยู่ที่ 10,000 บาท แต่ตนติดธุรช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ต่างจังหวัด ตนจึงเลือกรับงานราคา 5,000 บาท อีกทั้งตนยังคิดว่างานราคา 10,000 บาท น่าจะมีอะไรแอบแฝง เพราะราคาสูงเกินไปจึงเลือกที่จะไม่รับ

ระหว่างทางที่ตนกำลังนั่งรถเพื่อเดินทางไปยังโรงแรม นายเด่นภูมิก็ได้ทักมาสอบถามตนว่า "รับงานบ่อยไหม มีกลุ่มงานสมุทรปราการไหม แคปส่งมาให้ดูหน่อย" แต่ตนไม่ได้ส่งให้ดู จากนั้นนายเด่นภูมิก็คอลไลน์มาหาตน ดัดเสียงเป็นสาวประเภทสอง ถามว่า "อยู่ไหนแล้วลูก ลูกค้าติดงาน" ซึ่งนายเด่นภูมิก็ได้บอกให้ตนเปลี่ยนโรงแรม จากโรงแรมในซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 เป็นโรงแรมในซอยจรัญสนิทวงศ์ 40/1 ซึ่งเป็นโรงแรมที่ผู้เสียหายรายอื่น ๆ ถูกกระทำชำเรา นายเด่นภูมิได้บอกให้ตนจ่ายค่าห้องแบบค้างคืน 680 บาทไปก่อน แล้วจะคืนเงินให้ตน 1,000 บาท โดยตนไม่ได้เอะใจ

ทั้งนี้ ตนเพิ่งมาทำงานเอ็นเตอร์เทนได้ 3 เดือน ไม่คิดว่าจะถูกหลอกมากระทำชำเรา ที่ตนหลงเชื่อนายเด่นภูมิ เป็นเพราะตนเห็นว่างานไม่น่าเป็นอันตราย อีกทั้งนายเด่นเด่นภูมิยังเคยใช้ไลน์ “‘M” ดังกล่าว ทักมาเสนองานให้ตนหลายครั้ง แต่ตนไม่เคยตอบกลับรับงาน ตนจึงคิดว่านายเด่นภูมิน่าจะเป็นโมเดลลิ่งจริง ตนเดินทางไปถึงที่นัดหมายกก่อนเวลา เวลาประมาณ 10.30 น. ตนจึงได้เปิดห้องหมายเลข 430 ชั้น 1 ไว้รอ ซึ่งนายเด่นภูมิก็ได้ทำทีถามว่าสภาพห้องดีไหม ตนได้รอเป็นเวลาประมาณ 30 นาที คาดว่าน่าจะเป็นเวลาประมาณ 11.00 น. นายเด่นภูมิก็ได้มาเคาะห้อง ตนเริ่มเอะใจ เนื่องจากมีเพียงนายเด่นภูมิเข้ามาแค่คนเดียว แต่งตัวตามปกติ เสื้อยืด กางเกงยีนต์ พูดด้วยเสียงผู้ชาย แกล้งทำเป็นลูกค้า พูดว่า "ทำไมเจ๊เลือกห้องแบบนี้ ทำไมไม่เลือกห้องดี ๆ หน่อย" แล้วยังบอกตนอีกว่า "เดี๋ยวคนอื่นตามมา สั่งน้ำสั่งอะไรก่อนได้เลย"

ตนนั่งรอลูกค้าอีกประมาณ 30 นาที แต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าลูกค้ารายอื่นจะมา นายเด่นภูมิก็ได้ชวนตนพูดคุย บอกว่าเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมา อีกทั้งยังถามตนว่า "เราเสพไหม มีไอซ์หรือเปล่า เอามาแบ่งบ้างดิ" อีกทั้งนายเด่นภูมิได้เปิดคลิปโป๊ของตัวเองกับผู้หญิงอีกหลายคนให้ดู มีมากกว่า 100 คลิป 100 รูป พร้อมบอกตนว่า "กูให้มันแก้ผ้า มันไม่ทำนะ แต่พอกูโอนเงิน 30,000 บาท มันยอมเลย กูของจริงปะ" โดยตนคาดว่านายเด่นภูมิคงอยากจะโชว์ว่าเป็นเสือผู้หญิง และหลอกล่อตน หวังจะให้ตนยอมมีอะไรด้วย ตนที่เริ่มกลัว จึงได้ตอบไปว่าไม่เสพยา และขอตัวเข้าห้องน้ำ เพื่อตั้งหลักวางแผนจะหลบหนีออกจากโรงแรม

เมื่อตนออกจากห้องน้ำ กำลังจะหาข้ออ้างว่ามีธุระด่วนขอตัวกลับก่อน บอกว่าหนูมีธุระ ไม่เอาค่าจ้างงานก็ได้ แต่นายเด่นภูมิก็ใช้กำลังจับแขนตนแล้วกดตนลงบนที่นอน จับตนแก้ผ้า แล้วลงมือข่มขืน โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ขณะถูกกระทำ ตนคิดอยู่ตลอดว่า หากขัดขืน ตนคงจะถูกฆ่า เมื่อนายเด่นภูมิสำเร็จความใคร่ไปแล้ว หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาพูดว่า “มีมึงอยู่ในนี้ด้วยนะ” หมายถึงได้ถ่ายรูปเปลือยไว้แล้ว ห้ามปางโป้ง จากนั้น นายเด่นภูมิก็ได้ยึดโทรศัพท์ของตนไปบังคับให้ตนเข้าแอปฯ ธนาคาร บังคับให้ตนโอนเงินให้ โชคดีที่ตนไม่มีเงินติดอยู่ในบัญชี อีกทั้งเงินสดที่พกติดตัวมาก็นำไปจ่ายค่าห้องโรงแรมแล้ว

ตนพยายามแย่งโทรศัพท์คืนจากนายเด่นภูมิ จึงทำให้นายเด่นภูมิเริ่มหงุดหงิด บอกให้ตนอยู่เฉย ๆ และบังคับให้ตนดึงไลน์ส่วนตัวของนายเด่นภูมิเข้าไปแฝงตัวในกลุ่มพริตตี้อีก 6-7 กลุ่ม อีกทั้งยังคับให้ตนคอลไลน์ไปชักชวนพริตตี้รายอื่นให้เดินทางมาหานายเด่นภูมิ บอกว่า "ให้มันมาให้ได้ ไม่อย่างนั้น กูจะไม่ปล่อยมึงไป" ตนถูกบังคับให้พูดโน้มน้ามเพื่อนพริตตี้ ให้ตนอ้างว่ามีงานเอ็นเตอร์เทนชงเหล้าไม่กี่ชั่วโมง ให้ค่าแรง 10,000 บาท เมื่อเพื่อนของตนรับงาน นายเด่นภูมิจึงยอมปล่อยตนออกจากห้องพัก โดยระหว่างทางกลับบ้าน ตนได้พยายามทักไลน์และคอลหาพริตตี้ที่กำลังถูกหลอก แต่ปรากฏว่าเหยื่อกลับไม่ยอมอ่านไลน์และไม่รับสาย ตนก็ไม่ทราบว่าเพื่อนของตนได้เดินทางไปหานายเด่นภูมิหรือไม่

ตนมีความเครียด นอนไม่ค่อยหลับ แต่ขณะนี้เริ่มรู้สึกดีขึ้น หลังจากเกิดเหตุนายเด่นภูมิก็ได้ใช้ไลน์อื่นทักมาเสนองานให้ตน ตนซึ่งรู้ว่าคือนายเด่นภูมิ เนื่องจากภาษาที่คุยนั้นคล้ายกับไลน์ที่ใช้หลอกตน ตนจึงไม่ตอบกลับ ตนรู้สึกโชคดีที่ตนรอดมาได้ และรู้สึกสงสารเหยื่อรายอื่น ๆ ที่โดนกระทำหนักกว่าตนมาก ก่อนหน้านี้ตนเลือกที่จะไม่แจ้งความเพราะกลัวว่าคดีจะไม่คืบหน้า แต่ขณะนี้ตนเปลี่ยนใจ เนื่องจากเห็นเหยื่อหลายคนรวมตัวกันจะเอาผิดนายเด่นภูมิ

ด้านนายเสาวภาคย์ นิสัยชล หรือ เล็ก ผู้กว้างขวางในพื้นที่ฝั่งธนบุรี เล่าว่า เมื่อวานนี้นายเด่นภูมิเข้ามาในชุมชนวัดเทพากร ซอย 3 ซึ่งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 68 แยก 5 โดยมีการข่มขู่ขอเงินจากร้านค้า จากนั้นได้หลบหนีออกจากซอยแล้วข้ามสะพานลอยไปยังฝั่งตรงข้าม หลังจากทราบเรื่องจากคนในพื้นที่ ตนก็ได้พาลูกน้องมายังจุดดังกล่าวเพื่อเฝ้าตามจับนายเด่นภูมิ เผื่อว่ายังหลบอยู่ในชุมชน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกกว่า 50 นาย โดยเฝ้ากันอยู่นานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบตัว

ต่อมาถึงได้มาทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่กล้องวงจรปิดดูแล้ว เห็นภาพนายเด่นภูมิกำลังเดินข้ามสะพานลอยอย่างชัดเจน ซึ่งตรงนี้เป็นเบาะแสที่ดี เพราะหากตำรวจไล่กล้องวงจรปิดไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้ตามตัวนายเด่นภูมิเจอโดยง่าย ตนคาดว่าอีกไม่นานคงจะได้ตัว ทั้งนี้ ตนและพรรคพวกก็คอยจับตาดูอยู่ เพราะนายเด่นภูมิเป็นภัยสังคมมาก อีกทั้งตอนนี้นายเด่นภูมิก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมเดิม ยังคงพยายามติดต่อหาน้องผู้หญิงอยู่ เพราะเมื่อไรที่นายเด่นภูมิโทรหาน้องผู้หญิง น้องผู้หญิงก็จะมาบอกตน

โดยตนเคยจับนายเด่นภูมิได้ 2 ครั้งแล้ว แต่น้องผู้หญิงไม่เอาความ ยอมรับว่าตนก็ผิดหวังพอสมควร แต่ก็เป็นสิทธิ์ของน้องผู้หญิง เพราะพวกเขาก็กลัวจะเสียหาย โดยน้องผู้หญิงเลือกที่จะทำโทษ นายเด่นภูมิ ด้วยการตบหน้าคนละ 1 ครั้ง ซึ่งมีน้องทั้งหมด 10 คน แต่ละคนก็ตบแรงมากเหมือนสะสมความแค้นเอาไว้เยอะ ทำให้นายเด่นภูมิถึงกับเลือดกลบปาก

อย่างไรก็ตาม ตนอยากบอกถึงคนที่ให้ที่พักพิงกับนายเด่นภูมิว่าไม่เหมาะสม คุณอาจจะมีความผิดด้วย คุณไม่ควรให้ที่หลบซ่อนอาชญากรที่ทำร้ายเด็ก ทำร้ายผู้หญิง ถ้ามีเบาะแสแจ้งตนมาดีกว่า ไปปิดบังซ่อนเร้นไว้ก็เพิ่มภาระให้สังคม แถมไม่รู้ว่าตอนนี้เขาติดเชื้อโควิด-19 หรือเปล่า สุดท้ายฝากบอกนายเด่นภูมิว่า “มอบตัวนะ มันไม่สายหรอก หนีไปก็ไม่พ้น เข้าไปข้างในก็รู้อยู่ว่าต้องเจออะไรบ้าง เพราะทำตัวแบบนี้ แต่ถ้ามอบตัวภายในวันนี้พรุ่งนี้ พี่การันตีให้ว่าเข้าข้างในไปจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเลยพรุ่งนี้ขึ้นมา พี่จะไม่การันตีให้เลยนะว่าเข้าไปข้างในจะเจออะไรบ้าง รู้อยู่ใช่ไหม ถึงจะเคยอยู่คุกมาแล้ว แต่ในเมื่อทำผิดกติกา ก็ต้องอยู่ยากขึ้น”

ยายติ๋ม-เหมือนมาศ อังสะอาด เจ้าของร้านชำ เล่าว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 20.00 น. นายเด่นภูมิได้เข้ามาหาตนด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนเหมือนคนเดือดร้อนเงิน ตนรู้จักนายเด่นภูมิอยู่แล้ว เพราะเป็นเด็กที่อยู่ในพื้นที่นี้มานาน หลังจากนายเด่นภูมิเข้ามาในร้านก็ได้นั่งลงอย่างเรียบร้อย อยู่ค่อนข้างไกลกับตนพอสมควร จากนั้นเขาได้พูดกับตนว่า ขอเงิน 1,000 บาท แล้วเดี๋ยวเขาจะโทรศัพท์หาพ่อให้พ่อเอาเงินมาคืนตน ตนก็บอกเขาไปว่าไม่มี ขายของยังไม่ค่อยได้ เขาเลยบอกว่า งั้นขอ 500 บาทก็ได้ ตนก็บอกว่าไม่มี ถ้ามีก็ให้แล้ว เขาตื๊ออีกว่าขอค่ารถให้เขาเถอะ เขาจะได้รีบไป พอตนไม่ให้อีก เขาก็ไม่พอใจแล้วก็บอกกับตนว่า "ยาย อย่าให้ผมต้องทำอะไรนะ ยายก็รู้อยู่แล้ว"

นาทีนั้นตนกลัวมากตัวสั่นไปหมด เพราะดูในข่าวเห็นเขาโหดมาก แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือ พูดคุยกับนายเด่นภูมิดี ๆ แต่ก็แอบเรียกหลานชายวัย 12 ปีให้เอากรรไกรมาให้หน่อย เพื่อจะได้มีอาวุธป้องกันตัว แล้วก็บอกให้หลานไปซ่อนตัว ตอนนั้นตนเห็นว่าเขาเหลือบมองลิ้นชักเก็บเงินตนด้วย แล้วทำท่าจะดึง แต่ก็โชคดีที่มีลูกค้าอีกคนมาซื้อของ ตนเลยพูดดัง ๆ ว่า “ใครมานะ จะซื้ออะไร” นายเด่นภูมิ ก็รีบมุดตัวออกจากร้านแล้วเดินหนีไป จากนั้นตนก็รีบโทรแจ้ง 191 ด้วยเสียงที่สั่นเครือ เพราะยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ตนก็ยังคงหวาดระแวง จึงอยากวอนเจ้าหน้าที่ให้ตามตัวให้ได้โดยเร็ว