สุดยัวะ! หนุ่มโต้กุเรื่องเมียโดดน้ำตายหนีหนี้ ยันมีพยาน ฉะโซเชียลโจมตีไม่คิด (คลิป)

วันที่ 3 ส.ค. 61 นายรังสิกาจ ทองนวคุณ อายุ 37 ปี เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการสูญหายของ จันทร์เจ้า ผู้เป็นภรรยา ซึ่งหายไปตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. 61 โดยกล่าวว่า ปัจจุบันตนเองยังไม่ทราบข่าวความคืบหน้าว่าภรรยาสูญหายไปไหน หรือลงไปในแม่น้ำน่าน บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำน่าน ตามที่มีผู้พบเห็นจำนวน 4 คน จริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือ พยายามงมหาตามใต้ท้องแพ แต่ก็ยังไม่พบร่างแต่อย่างใด

นายรังสิกาจ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำคืนวันที่ 16 ก.ค. ตนเองไปดูการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ กับเพื่อน ๆ และเมื่อกลับไปที่ร้านขายเสื้อผ้าของแฟน ก็มาพบจดหมายลาและยาพาราเซตามอลหายไปจำนวนหนึ่ง จึงได้โทรศัพท์สอบถามญาติและเพื่อน ๆ ว่าจันทร์เจ้าไปอยู่ด้วยหรือไม่ แต่ก็ไม่พบ

จนกระทั่งตนเองมาทราบข่าวว่า ในค่ำวันดังกล่าว มีการแจ้งเหตุว่ามีผู้พบเห็นบุคคลลงไปในแม่น้ำน่าน บริเวณเชิงสะพานเอกาทศรถ ฝั่งตะวันตก ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่พบ ซึ่งตนเองได้มาดู แต่ก็ไม่พบเช่นกัน จนมาทราบภายหลังว่าคนตกปลาได้เก็บรองเท้าของภรรยาตนเองไป จึงแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ในวันที่ 17 ก.ค. เพราะมีผู้พบเห็นผู้หญิงเดินลงไปในแม่น้ำพร้อมกันถึง 4 คน และเวลาต่อมาจึงได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพาและกู้ภัยพิษณุโลก เข้ามาช่วยเหลือค้นหาในแม่น้ำน่าน แต่ก็ไม่พบ โดยเรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก มีการประกาศตามหา แชร์ตามหาคนหายตามสื่อออนไลน์ ควบคู่กับปฏิบัติการค้นหายใต้น้ำ

ต่อมา มีแอดมิจเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return ได้ลงข้อความนำเรื่องราวและภาพส่วนตัวของตนเองและภรรยาไปโพสต์สร้างความเสียหายให้แก่ตนเองและครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการกล่าวหาโดยที่ไม่มีหลักฐาน โดยเฉพาะเรื่องเงิน 2 แสนที่กล่าวหาว่าภรรยาตนยืมเงินไปก่อนหายตัวไปนั้น ยังไม่มีการหลักฐานการโอนเข้าบัญชี และตนเองก็ไม่ทราบว่าภรรยาจะมีหนี้สินนอกระบบ 4-5 ล้านบาทได้อย่างไร ทั้งที่ไม่มีหลักทรัพย์ใด ๆ ปัจจุบันมีเพียงหนี้สินที่นำรถไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อนำมาเป็นเงินทุนเปิดร้านขายเสื้อผ้าเท่านั้น ส่วนน้ำยาล้างห้องน้ำก็ไม่เคยถูกเปิดกินไปครึ่งขวด อย่างที่เพจดังกล่าวอ้างแต่อย่างใด

ที่ผ่านมาตนเองได้ พูดคุยชี้แจงกับทางแอดมินเพจดังกล่าวแล้ว แต่ไม่เป็นผล ตนเองจึงอยากจะบอกกับสังคมว่า เรื่องราวข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นจริงตามที่เพจให้ข้อมูลในโลกออนไลน์แต่อย่างใด ทุกวันนี้จึงได้แต่รอว่าสักวันหนึ่งจะได้พบเจอกับจันทร์เจ้า เพื่อให้ความจริงปรากฏ ส่วนที่หลายคนคิดว่าทำไมตนเองจึงหยุดค้นหาภรรยา ก็เพราะว่าที่ผ่านมาตนเอง และญาติ ๆ ได้ช่วยกันหาอย่างเต็มที่แล้วแต่ก็ยังไม่พบ ตนเองยังคงต้องมีชีวิตอยู่ ยังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ และดูแลพ่อแม่ จึงต้องทำมาหากินต่อไป และจากกระแสดราม่าโลกโซเชียล สร้างความเสียใจให้แก่ตนเองเป็นอย่างมาก ตอนนี้ไม่รู้ว่าภรรยายังอยู่หรือตาย ทำได้แค่รอและยังต้องมาเจอกระแสดราม่าจากสถานีโทรทัศน์ที่เล่นข่าวเป็นเรื่องสนุกอีก ว่าตนเองเป็นคนสมรู้ร่วมคิดกับภรรยาเพื่อหนีหนี้ไปโดยปริยาย