กรณีนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี หายตัวปริศนาออกจากบ้านนาน 10 วัน หลังออกไปทวงหนี้ จำนวน 300,000 บาท กระทั่งเจ้าหน้าที่พบเป็นศพถูกยิง ราดน้ำกรดยางพารา และฝังดินในสวนยางพารา ม.1 บ้านหนองแบก ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์ถูกฝังดินในสวนปาล์ม ห่างกันประมาณ 650 เมตร ในวันที่ 13 พ.ค.64 ที่ผ่านมา เบื้องต้นญาติเชื่อว่าลูกหนี้เป็นคนที่ลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
ล่าสุดวันที่ 16 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาติดตามความคืบหน้าที่ สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ โดยช่วงเช้าของ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนายสุวิทย์ เริงสมุทร เนื่องจากวานนี้ (15 พ.ค.64) ตอนไปชี้จุดเกิดเหตุ นายสุวิทย์ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ได้ร่วมก่อเหตุ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับขู่เข็ญ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนายสุวิทย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. จนถึงเวลา 18.00 น. โดยมีภรรยาของนายสุวิทย์ร่วมให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ด้วย เนื่องจากภรรยาของนายสุวิทย์ ยืนยันว่าวันที่ 3 พ.ค.64 สามีได้ไปทำงาน และหลังจากกลับจากทำงานก็เลี้ยงลูกอยู่บ้าน
น.ส.หญิง ภรรยานายสุวิทย์ ภายหลังจากให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ตนมีความเชื่อมั่นว่านายสุวิทย์ สามีของตนไม่ได้เป็นคนก่อเหตุฆ่าเสี่ยสุชาติ ซึ่งตนยืนยันว่าวันที่ 3 พ.ค.64 เวลาประมาณ 08.00 น. สามีได้ไปทำงานในบริษัทกำจัดปลวก พื้นที่อ.เมือง จ.กระบี่ โดยมีการสแกนลายนิ้วมือเข้างาน และเลิกงาน ซึ่งสามีเลิกงานกลับมาถึงบ้านเวลาประมาณ 18.00 น. จากนั้นสามีก็อยู่บ้านกับตนและลูก ๆ ตลอดทั้งคืน
ทั้งนี้ตนก็ได้สอบถามสามีแล้ววันนี้ เขาบอกกับตนว่า เขาไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเสี่ยสุชาติ และตนก็กลัวว่าสามีจะไม่ไดรับความเป็นธรรม สำหรับบังฟิต เป็นลูกพี่ลูกน้องกับสามีตน แต่เขาก็ไม่ได้สนิทสนมกับสามีตน และสามีตนก็ไม่ได้ไปคลุกคลีกับเขาอีกด้วย
ในช่วงวันที่ 1 พ.ค.64 แม่ของนายสุวิทย์ จะย้ายบ้าน จึงได้โทรศัพท์ไปหาบังฟิต ให้เขามาขนของที่บ้านคลองจิหลาด ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อนำสิ่งของต่าง ๆ ไปไว้ที่บ้านใน อ.อ่าวลึก ซึ่งบังฟิตก็ได้รับสาย แล้วบอกกับแม่ยายตนว่า "ไม่ว่าง แค่นี้ก่อนนะ" จากนั้นครอบครัวตนและบังฟิต ก็ไม่ได้ติดต่อหากันอีกเลย
ส่วนตัวแล้วตนก็ตอบไม่ได้ว่าบังฟิต และสามีของตนจะไปก่อเหตุฆ่าเสี่ยสุชาติหรือไม่ เพราะตนไม่ค่อยได้สนิทสนมกับทั้ง 2 คน ส่วนกรณีที่บังฟิตไปยืมเงินเสี่ยสุชาติ หรือมีปัญหากับเสี่ยสุชาตินั้น ตนก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
ทั้งนี้น.ส.หญิง ยังบอกกับทีมข่าวว่า ตนไม่รู้ว่าว่าบุคคลที่ชื่อว่า "ทวน" เป็นน้องชายบังฟิต หรือเกี่ยวข้องกับบังฟิตอย่างไร เพราะตนไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน และคาดว่านายสุวิทย์ สามีตนก็น่าจะไม่รู้จักคนที่ชื่อทวนอีกด้วย ตอนนี้ตนได้ปรึกษาทนายเพื่อยื่นเรื่องขอประกันตัวสามีในวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.64) แต่ไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่จะให้ประกันตัวหรือไม่ อย่างไรก็ตาม น.ส.หญิง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมข่าวว่า หลังจากสามีถูกดำเนินคดี สามีก็มีค่อนข้างเครียด แต่สามียังไม่พบบาดแผลหรือรอยช้ำตามร่างกายแต่อย่างใด
เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบปากคำนายสุวิทย์ เป็นรอบที่ 2 ของวันนี้ โดยมีภรรยาของนายสุวิทย์นั่งข้าง ๆ กัน เวลา 17.00 น. นางอามี แม่ของนายสุวิทย์ ได้เดินทางมาที่ สภ.อ่าวนาง เพื่อเยี่ยมลูกชาย
นางอามี แม่ของนายสุวิทย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเชื่อว่าลูกชายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเสี่ยสุชาติ เพราะลูกชายตนเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีคดีติดตัว หรือมีเหตุทำร้ายร่างกายมาก่อน ในวันเกิดเหตุ (3 พ.ค.64) เวลาประมาณ 08.00 น ลูกชายได้ออกไปทำงานและแวะหาตนในที่ทำงาน ซึ่งเป็นทางผ่าน จากนั้นลูกชายได้เลิกงานเวลาประมาณ 17.00 น. และกลับเข้าบ้าน และก็อยู่กับครอบครัวตลอดทั้งคืน
ขณะเดียวกันในช่วงวันที่ 3 พ.ค.64 บังฟิตและกิบหลีก็ไม่ได้ติดต่อมาหาลูกชายตนแต่อย่างใด ตนยอมรับว่าตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณีที่ลูกชายบอกว่าถูกเจ้าหน้าที่บังคับให้รับสารภาพ และทำร้ายร่างกาย ตนก็เชื่อในสิ่งที่ลูกชายพูด แต่ตนก็ยังไม่ได้เยี่ยมลูกชาย และยังไม่ได้เห็นหน้าลูกชายว่ามีบาดแผลตามร่างกายหรือไม่
ทั้งนี้ตนอยากให้บังฟิต และกิบหลี มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ข้อมูลเรื่องราวที่เกิดขึ้น และตนอยากรู้ว่าลูกชายตนได้ก่อเหตุด้วยหรือไม่ ถ้าลูกชายตนถูกดำเนินคดีจริง ๆ ตนก็จะไม่ประกันตัวแต่จะให้ลูกชายไปยืนยันความบริสุทธิ์ในชั้นศาล และถ้าลูกชายทำผิดจริง ก็อยากให้ยอมรับความผิด แต่ถ้าเขาบริสุทธิ์ก็ให้พูดความจริง
อามี กล่าวต่อว่า สำหรับบังหนี ตนรู้จัก เป็นน้องชายแท้ ๆ ของบังฟิต และอยู่บ้านหลังเดียวกันกับบังฟิต ตนคิดว่าถ้าบังฟิตก่อเหตุ บังหนีก็น่าร่วมก่อเหตุด้วย เพราะเขาเป็นพี่น้องกัน แต่เท่าที่ตนสัมผัสกิบหลี บังฟิต และบังหนี เขาก็เป็นคนนิสัยดี ส่วนปมที่บังฟิตมีเรื่องกับเสี่ยสุชาตินั้น ตนก็ไม่รู้ข้อมูลว่ามาจากเรื่องอะไร
หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางอารยา นวนศรี หรือ นะ อายุ 36 ปี น้าสาวนายสุวิทย์ เปิดเผยว่า พ่อกับแม่ของนายสุวิทย์ จริง ๆ แยกทางกันตั้งแต่เด็ก ๆ ทำให้นายสุจิน พ่อของบังฟิต ไปแจ้งเขตนำชื่อนายสุวิทย์ เข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้าน ซึ่งตนยืนยันได้ว่า นายสุวิทย์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีที่เกิดขึ้น แต่ที่เดินทางไปมอบตัว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดที่บ้าน
หลังจากนายสุวิทย์ที่มีชื่อในทะเบียนบ้านทราบเรื่อง จึงรีบเดินทางเข้าพบเจ้าที่ตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไว้เป็นผู้ต้องหา ซึ่งหลังจากที่วานนี้ตนได้ดูข่าวอมรินทร์ ทีวี และเห็นภาพนายสุวิทย์ อยากบอกว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด คนในครอบครัวก็รู้สึกเสียใจ และได้แต่นั่งร้องไห้ดูข่าว ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรนายสุวิทย์ได้ เนื่องจากไม่มีทรัพย์สินมากพอที่จะประกันตัว "นี่คือเรื่องจริงทั้งหมด"
ส่วนกรณีที่นายสุวิทย์ พูดกับนักข่าวว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อม ตนก็รู้สึกเสียใจ เนื่องจากนายสุวิทย์ ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด แต่กลับถูกซ้อม คนในครอบครัวที่เห็นข่าวก็ต่างพากันเป็นลม เพราะรับไม่ได้หลังทราบเรื่อง หากมีโอกาสได้พูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนอยากบอกว่า "การสอบสวนเข้าใจว่าอาจจะมีการข่มขู่บ้าง แต่ขอร้องได้โปรดช่วยสงสารนายสุวิทย์ อย่าทำร้ายร่างกายกันถึงขั้นรุนแรง" เพราะเขาไม่รู้เรื่องอะไรจริง ๆ อีกทั้งตอนนี้ทางญาติ ๆ ก็ไม่มีใครกล้าไปเยี่ยมนายสุวิทย์ เพราะตอนนี้ไม่มีใครกล้าทำอะไรทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนก็อยากจะให้คดีความดังกล่าวจบลงโดยเร็ว แต่คนในครอบครัวก็พูดได้แค่ว่า ไม่รู้จริง ๆ ว่า บังฟิตจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีที่เกิดขึ้นหรือไม่ สำหรับในสายตาพี่น้อง บังฟิตเป็นคนที่ดีมาก ๆ ทั้งนี้ตนก็อยากจะให้บังฟิตรีบเดินทางกลับมามอบตัวกับทางเจ้าที่ตำรวจ หากผิดจริงก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย จะได้เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ด้วยว่า ทางญาติไม่ได้มีการช่วยเหลือหรือช่วยหลบหนี
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังบริษัทยากำจัดแมลง ที่นายสุวิทย์ให้ข้อมูลว่าวันเกิดเหตุทำงานที่บริษัทดังกล่าวในช่วงเช้าถึงค่ำ เมื่อทีมข่าวมาถึงบริษัทดังกล่าว พบว่าเป็นตึกแถวสูงประมาณ 3 ชั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งวันนี้พบว่าบริษัทดังกล่าวปิดให้บริการ เนื่องจากเป็นวันหยุดประตำสัปดาห์ ทีมข่าวพยายามเรียกสอบถามไปด้านในตัวอาคาร แต่ก็ไม่มีการตอบรับ