กรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปลูกค้าหนุ่มรายหนึ่ง ถูกกลุ่มพนักงานส่งสินค้าของบริษัทชื่อดัง บุกมาที่หน้าบ้านพัก และมีการแสดงท่าทีไม่พอใจ หลังจากมีปัญหาเรื่องผู้ถ่ายคลิปไม่ยอมรับพัสดุแทนบุคคลตามชื่อหน้ากล่อง จนเกิดปากเสียงกัน ตามที่ปรากฏเป็นกระแสวิจารณ์นั้น
ล่าสุดวันที่ 16 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาบ้านหลังที่เกิดเหตุ ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายภูริพรรธ์ พัชรโชคอิทธิกุล ผู้เสียหาย ส่งคลิปให้ทีมข่าวดู ซึ่งมี 2 คลิปเป็นคลิปเหตุการณ์ก่อนตำรวจมา และตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ
คลิปที่ 1 เป็นคลิปที่ผู้เสียหายถ่ายไว้ ขณะกลุ่มพนักงานขนส่งตามพวกกว่า 10 คนเข้ามาที่บ้านเกิดเหตุ และโวยวายอยู่หน้าบ้าน โดยไม่มีใครรุกล้ำเข้าเขตบ้านผู้เสียหาย มีการยืนพูดท้ายทายกันไปมา บางช่วงชายที่ใส่เสื้อเทา ได้พูดจาด่าผู้เสียหายพร้อมทั้งขู่ว่าจะเอาให้ตาย พร้อมสั่งคนจดทะเบียนรถเอาไว้ หากไปเจอข้างนอกบ้านอาจจะทำร้าย
คลิปที่ 2 เป็นช่วงตำรวจมาระงับเหตุแล้ว ซึ่งมีการพยายามเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้ฟัง และในคลิปผู้เสียหายมีการด่าถึงบุพการี "มองหน้าหาพ่อเหรอ" ซึ่งไม่มีการเข้ามาแตะเนื้อต้องตัวกัน
นายภูริพรรธ์ เปิดเผยว่า เหตุตามคลิปเกิดขึ้นวานนี้ (15 พ.ค.64) ช่วงเวลา 11.00-12.00 น. บ้านตนเปิดเป็นบริษัท ซึ่งช่วงนั้นมีพัสดุมาส่งที่บ้าน พนักงานมาถึงที่บ้าน มากดกริ่ง ลูกตนก็ออกมารับพัสดุ ปรากฏไม่ใช่ชื่อคนในบ้าน ตนจึงออกมาดู พบว่าเป็นชื่อของน้องคนหนึ่งที่มาทำงานบ้านตน แต่ขณะนั้นน้องคนดังกล่าวออกไปซื้อข้าวหน้าหมู่บ้าน ตนจึงบอกว่าให้รอสักครู่ เนื่องจากเจ้าของพัสดุไม่ได้สั่งตนไว้ว่าให้รับแทน อีกอย่างพัสดุเป็นแบบเก็บเงินปลายทาง ตนจึงบอกให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าของพัสดุ
เมื่อตนบอกแบบนั้น พนักงานขนส่งไม่ได้พูดอะไร เดินวนไปมาครู่หนึ่ง ก่อนหันกลับมาถามตนว่า “รับของแทนได้ไหม” น้ำเสียงเหมือนคนรีบเร่งและไม่พอใจ ตนจึงขอให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าของพัสดุ ไม่นานเจ้าของพัสดุก็มา ตอนนั้นพนักงานขนส่งจอดรถจักรยานยนต์ขวางหน้าบ้าน ตนจึงบอกให้ขยับรถออก เพื่อให้รถเจ้าของพัสดุขับเข้ามาจอดได้
หลังรับพัสดุ พนักงานหันมามองหน้าตนทำนองไม่พอใจ ตนจึงพูดสวนไปว่า “มองหน้าหาพ่อเหรอ” โดยน้ำเสียงที่ตนพูดคุยนั้นเป็นเสียงธรรมดา ไม่ได้โกรธ พูดเหมือนวัยรุ่นคุยกัน พนักงานคนดังกล่าวก็ตอบกลับมาว่า “นักเลงเหรอ” และขับรถออกไป เมื่อผ่านไปประมาณ 5-10 นาที พนักงานคนดังกล่าวได้กลับมาและพาพวกอีกจำนวนหนึ่งมาปิดหน้าบ้านของตน ซึ่งตอนนั้นในบ้านของตนมีลูกวัย 8 ขวบ และทารก 2 เดือนอยู่ด้วย จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
หลังจากนั้นคู่กรณีก็ยืนด่าตนตามในคลิปที่ 1 ซึ่งตนไม่ได้ด่าอะไรฝ่ายคู่กรณีเลย ตนบอกว่ามองหน้าหาพ่อเหรอ ก็แค่พูดเปรียบเปรย แต่ชายเสื้อเทาที่เป็นเพื่อนคู่กรณีก็ยังจะพูดขู่ตนว่า “มึงเจอกูแน่” มีการขู่ฆ่า และในระหว่างนั้นตนก็ได้โทรแจ้งความ และเมื่อตำรวจ สภ.บางพลี มาถึงเป็นจังหวะที่ ชายเสื้อเทาปรี่เข้ามาชกหน้าตน 1 ครั้ง เป็นการชกต่อหน้าตำรวจ ตนก็ยังรู้สึกเจ็บกามข้างขวาอยู่ แต่ช่วงนี้ต่อยตนไม่ได้ถ่ายคลิปไว้
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะด่าทอคู่กรณี แต่สิ่งที่พนักงานทำเป็นการบริการที่ไม่ดี ส่วนตัวพร้อมจะขอโทษที่อาจจะไปพูดไม่ดี พนักงานที่มา 90% เป็นของบริษัทเคอรี่ เรื่องนี้ตนไม่ขอเจรจาจะดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะมีการขู่ฆ่า ทำร้ายร่างกาย
ทั้งนี้หลังจากคลิปว่อนโซเชียลฯ ทางบริษัทต้นสังกัดได้ส่งคำชี้แจงมายังเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Kim Signature ซึ่งทางเพจได้โพสต์ภาพคำชี้แจงพร้อมข้อความว่า "บ.ขนส่ง kerry express สั่งให้พ้นสภาพแล้ว" โดยบริษัทขนส่งให้เหตุผลว่า เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และอาจมีการดำเนินการตามกฎหมายบุคคลที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทำให้บริษัทเสียหาย
ทีมข่าวเดินทางมาที่โกงดังบริษัทขนส่ง พบกับนายแจ็ค พนักงานเสื้อเทาที่ยืนด่ากับผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเป็นคนที่ไปยืนเถียงกับผู้เสียหายจริง แต่ที่ตนทำไปเพราะน้องของตน ซึ่งเป็นคนไปส่งพัสดุโทรศัพท์มาบอกว่าถูกลูกค้าด่าว่า “มองหน้าหาพ่อเหรอ” ทำให้ตนต้องตามเพื่อน ๆ เพื่อไปช่วย ตนก็ตกใจเพราะปกติน้องคนนี้ไม่เคยมีเรื่องกับใคร
ส่วนตัวแค่ต้องการไปเรียก เพื่อให้ลูกค้าออกมาขอโทษ เพราะปกติการทำงานแบบนี้ ก็มีเจอถูกลูกค้าด่าแบบนี้บ้าง หลายครั้งตนไม่ใส่ใจอะไร พวกตนทำใจได้ แต่ครั้งนี้ด่าถึงบุพการี และตนไม่ได้ชกหน้าผู้เสียหาย แต่ตนแค่ตบหน้าไปเบา ๆ และยอมรับว่าตบต่อหน้าตำรวจจริง เพราะตนถูกท้าทาย