รักษาโควิด ฟรีจริงหรือ!? สาวเผยเจอบิล รพ.เรียกเก็บเงิน 7 แสนกว่า

17 พ.ค. 64
รักษาโควิด ไหนว่าฟรี? สาวโพสต์พ่อติดโควิด เช็ก รพ.แรกเตียงเต็ม อาการหนักรอไม่ไหวย้ายไปอีก รพ.เจอเรียกเก็บเงิน 7 แสนกว่า อ้างเพราะเปลี่ยน รพ.เอง
เมื่อวันที่ 16 พ.ค.64 ทนพ. ภาคภูมิ เดชหัสดิน เจ้าของเพจ "หมอแล็บแพนด้า" ได้แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งออกมาเผยบิลค่ารักษาพยาบาล อ้างว่าเป็นบิลค่ารักษาของคุณพ่อหลังเข้าโรงพยาบาลเพราะติดโควิด-19 เป็นจำนวนกว่า 7 แสนบาท
โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กต้นเรื่องเล่าว่า ที่ประกาศกันว่า รักษาฟรี สิทธิ Ucep มันไม่มีจริง ใช่มั้ย? โดน รพ.เรียกเงินทั้งหมด 7 แสนกว่า... คุณภาพชีวิตของเราทำไมเป็นแบบนี้ได้
พ่อมีอาการเหนื่อยเพลีย มาเป็นอาทิตย์ พยายามติดต่อขอตรวจโควิด ที่ไหนไม่ได้เลย ไม่มีรพ. ไหนรับตรวจ จนรอคิวตรวจพบเชื้อโควิดที่ รพ. แรกได้ในวันที่ 23 เมษาแต่เตียงเต็ม และวันที่ 24 เมษา พ่อมีอาการหายใจไม่ออก อ่อนเพลีย จึงขอแอดมิตที่ รพ. แรกอีกครั้งแต่ก็ได้รับแจ้งว่าเตียงเต็มเช่นเดิม ทางเราต้องรีบวิ่งหา รพ.เพื่อขอเข้ารับการรักษาโดยเร่งด่วน สุดท้ายได้ขอแอดมิดที่ รพ.ที่ 2 แต่ถูกปฎิเสธในตอนแรกว่าเตียงเต็มและให้ติดต่อ รพ. ที่ผู้ป่วยตรวจพบเชื้อ
แต่หลังจากคุยกับ พนักงานรพ. สักพักได้แจ้งว่า มีเตียงแล้ว หากต้องการแอดมิด ต้องวางมัดจำเงินสดไว้ 1 แสนบาท คุณแม่จึงจำเป็นต้องวางเงินเพื่อให้คุณพ่อได้รับการรักษาด่วน แล้วคุณพ่อก็แอดมินในวันที่ 24 เมษา โดยเข้าห้อง icu ทันที (หลังจากนั้นมีการเรียกเก็บ เพิ่มเติมยอดรวมทั้งหมด ตามใบเสร็จ)
185077748_948949142626721_410
โดย รพ.จะเรียกเก็บผ่านทางคุณแม่ ซึ่งไม่มีข้อมูลด้าน ค่ารักษาโควิด และห่วงกลัวถ้าไม่ชำระเงินตาม รพ.เรียกเก็บ คุณพ่อจะไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง การชำระเงินรอบบิลที่เกิดขึ้นวันที่ 7 พ.ค. จำนวน 300,000 บาท
185251112_948949072626728_267
ตอนแรกคุณแม่ขอเลื่อนการชำระเงิน เป็นวันจันทร์ ที่ 10 พ.ค. แต่เกิดเหตุ เครื่องอ็อกซิเจนเตียงพ่อบังเอิญมีปัญหาขึ้นมากระทันหันคืนวันที่ 6 คุณแม่จึงวิตกกังวลว่าสาเหตุบังเอิญ หรือเพราะขอเลื่อนการชำระเงินหรือไม่ (เป็นความคิดมากวิตกกังวลของคุณแม่ )
จึงมีความจำเป็นต้องรีบหาเงินมาชำระก่อนวันนัด (รวมยอดที่ชำระแล้ว 5 แสนบาท)
ต่อมาช่วงตี 3 ของเช้าวันที่ 9 ทางพยาบาลแจ้งว่าคุณพ่อกำลังหยุดหายใจ แล้วคุณพ่อก็เสียคืนนั้น
จากนั้นในวันที่ 9 ทาง รพ.พยายามเรียกเก็บเงินเพิ่ม อีก 190,000 บาท ทำนองว่าถ้าไม่ชำระก็จะไม่ออกใบมรณะบัตร และไม่สามารถนำศพออกไปทำพิธีได้ คุณแม่จึงได้สอบถามญาติและทราบว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่จำเป็นต้องจ่ายตั้งแต่ต้น ทางเราจึงโทรปรึกษา 1330 ให้ช่วยประสานงานไกล่เกลี่ย แล้วให้แจ้งใช้สิทธิ ucep จึงสามารถ ออกใบมรณะให้
ตอนนี้ทาง 1330 ช่วยไกล่เกลี่ยให้ทาง รพ.คืนเงินที่เรียกเก็บจากคุณแม่ให้ด้วย แต่ทาง รพ.ปฎิเสธ โดยให้เหตุผลว่าทางเราปฎิเสธการรักษาจาก รพ.แรกเอง ซึ่งไม่เป็นความจริง
ทางเราจึงติดต่อขอให้เจ้าหน้าที่ รพ.ที่ 1 ให้ติดต่อเข้าไปยืนยันว่าทางเราได้ ติดต่อขอเตียงไปแล้ว แต่เตียงที่ รพที่ 1เต็มจริงๆ
สรุปคือเงินที่ต้องชำระไปทั้งหมด(จำนวน 500,000 บาท) คุณแม่มีความจำเป็นต้องจ่ายอย่างขัดขืนไม่ได้ เนื่องจากคนไข้อยู่ภาวะวิกฤติ กลัวว่าจะไม่ได้แอดมิด ไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่อง รวมทั้งเหตุการณ์ เครื่องอ็อกซิเจนที่มีปัญหา จึงกดดันให้แม่ต้องรีบหาเงินมาชำระให้ได้โดยเร็ว
186378456_948949032626732_847
ทั้งหมดนี้อยากรู้จริงๆ ว่า ถ้าเราตรวจที่ไหน รพ.แรก ไม่มีเตียงเราจำเป็นต้องรอ ความตายอยู่ที่บ้านกันใช่มั้ย การจะขอรับการตรวจ ทำไมช่างยากเย็น ทั้งที่ไม่ได้ขอตรวจฟรี การจะแอดมิดรับการรักษาทำไมถึงยากเย็นขนาดนี้ นี่คือสิ่งที่ประชาชนคนไทยอย่างเราต้องยอมรับสภาพใช่มั้ย วินาทีนั้นที่คุณพ่อต้องเข้ารับการรักษา ต่อให้ รพ.เรียก 1 ล้าน เพื่อให้ได้เตียง เราก็ต้องหามาจ่ายก่อนกันจริงมั้ย ??  แล้วนึกถึงคนที่ไม่มีเงินจะวางมัดจำล่ะ เค้าต้องกลับบ้านนอนรอการเริ่มรับรักษา ? จนจะสายไปมั้ย?
ตอนนี้ไม่มีคุณพ่อแล้ว ไม่อยากให้คุณแม่ต้องเสียเงินจำนวนนี้ไป ทั้งที่ไม่ควรจะต้องเสียขนาดนี้ ทั้งที่ ควรจะได้รับสิทธิ์ ที่พึงจะได้รับ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ