จากกรณี นายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี หายตัวปริศนาออกจากบ้านนาน 10 วัน หลังออกไปทวงหนี้กับเพื่อนสนิท กระทั่งเจ้าหน้าที่พบเป็นศพถูกยิง ราดน้ำกรดฆ่ายางฝังดินในสวนยางพารา ม.1 บ้านหนองแบก ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ และพบรถยนต์ถูกฝังดินในสวนปาล์มห่างกันประมาณ 650 เมตร เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 64 ญาติเชื่อว่าคนที่ลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยมคือลูกหนี้ และออกหมายจับแล้ว 4 ผู้ต้องหา จับได้ 1 ราย
วันที่ 17 พ.ค. 64 พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ ได้คุมตัวนายสุวิทย์ เริงสมุทร อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าเสี่ยสุชาติ ไปส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดกระบี่ ซึ่งขณะคุมตัวนายสุวิทย์ออกจากโรงพักนั้น นายสุวิทย์กล่าวว่า ที่ตนเคยพูดกับสื่อว่าตนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขู่ทำร้ายร่างกาย และบังคับให้ตนรับสารภาพนั้น
ตนขอชี้แจงว่าแท้ที่จริงแล้ว ตนไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกาย ที่ตนพูดออกไปอย่างนั้นเพราะตนกลัว กดดัน และมีความเครียด ตนอยากจะขอโทษในสิ่งที่ตนได้พูดออกไปก่อนหน้านี้ด้วย สำหรับเรื่องที่ตนนั้นจะร่วมก่อเหตุกับบังฟิตและกิบหลีหรือไม่นั้น กรณีนี้ตนเองไม่ขอให้ข้อมูล เพราะตนได้ให้การณ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว
ด้านพ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ เปิดเผยว่า กรณีที่นายสุวิทย์พูดกับสื่อว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกาย เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนนายสุวิทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมีภรรยา และทนายความของนายสุวิทย์มาร่วมฟังการสอบปากคำผู้ต้องหาด้วย จากการสอบปากคำเมื่อวานนี้ นายสุวิทย์บอกว่าไม่มีตำรวจทำร้าย วันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายสุวิทย์ไปชี้จุดเกิดเหตุ 15 พ.ค. นายสุวิทย์เจอคนค่อนข้างมาก เกิดความเครียดและกดดัน จึงได้พูดกับสื่อว่าถูกตำรวจทำร้าย
หลังสอบปากคำเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสุวิทย์ไปให้แพทย์ รพ.กระบี่ ตรวจร่างกาย ก็ไม่พบบาดแผลตามร่างกายนายสุวิทย์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจขอยืนยันว่าที่ศาลได้อนุมัติออกหมายจับนายสุวิทย์ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐาน และเจ้าหน้าที่ก็ไม่กังวลเกี่ยวกับคดีนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ไว้เยอะมาก รวมถึงการตรวจหาดีเอ็นเอในหลักฐานบางอย่างส่วนจะมีการออกหมายจับใครเพิ่มอีกหรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ อยู่ที่พยานหลักฐานว่าจะไปเกี่ยวเนื่องกับใคร
ในช่วงบ่ายวันนี้ กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบรถเก๋งของเสี่ยสุชาติ คันที่ถูกฝังดิน พร้อมกับนำตัวอย่างดินที่ล้อรถทั้ง 4 ล้อ บันไดข้างรถยนต์ด้านซ้าย บังโคนหลังขวา ดินที่พรมวางเท้าด้านหลังฝั่งซ้ายขวา พร้อมกับนำขวดน้ำ 2 ขวดที่อยู่ประตูหลังฝั่งขวา เก็บรวบรวมหลักฐานไปตรวจที่พิสูจน์หลักฐานกลาง ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9
จากข้อมูลที่นายนสุวิทย์อ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ เพราะช่วงเกิดเหตุทำงานอยู่ มีหลักฐานคือการสแกนนิ้วเข้าบริษัททำงาน ทีมข่าวลงพื้นที่มายังบริษัทยากำจัดแมลง ตึกแถวสูงประมาณ 3 ชั้น ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่
พนักงานบริษัท ให้ข้อมูลว่าสำหรับนายสุวิทย์ ผู้ต้องหา เป็นพนักงานที่บริษัทแห่งนี้ได้ประมาณ 1 ปี ทำงานในตำแหน่งพนักงานกำจัดปลวก
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา นายสุวิทย์ได้มาทำงานที่บริษัท และมีได้สแกนนิ้วเข้างานเวลา 08.23 น. และสแกนนิ้วออกงานในเวลา 17.42 น. ซึ่งระหว่างวัน เขาก็ได้ออกไปทำงานกำจัดปลวกนอกพื้นที่กับเพื่อน ๆ ตั้งแต่นายสุวิทย์ถูกจับกุม ตนยอมรับว่าตนตกใจมาก เพราะจากนิสัยนายสุวิทย์เขาเป็นคนดี นอบน้อม ใช้งานง่าย ไม่เคยมีนิสัยอันธพาน กรณีที่นายสุวิทย์ได้ร่วมก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่นั้น ตนก็ขอไม่ออกความคิดเห็น
ทั้งนี้ พนักงานบริษัท นำเอกสารการสแกนนิ้วเข้างานของนายสุวิทย์ให้ทีมข่าวดู เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 64 นายสุวิทย์ได้สแกนนิ้วเข้างานเมื่อเวลา 08.23 น. และสแกนนิ้วออกจากงานเวลา 17.42 น. และมีลากิจในวันที่ 11 พ.ค.
เวลา 14.00 น. นางอามี แม่ของนายสุวิทย์ พร้อมครอบครัวได้เดินทางมาเยี่ยมลูกชายที่ สภ.อ่าวนาง พร้อมนำข้าวเปล่าใส่กล่องโฟม และกระเพราะไก่ น้ำชาไทยมาเยี่ยมลูกชาย แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสุวิทย์ไปฝากขังตั้งแต่ช่วงเวลา 11.00 น. ทำให้แม่นายสุวิทย์ไม่เจอหน้าลูกชายและเดินทางไปที่ศาล จ.กระบี่
นางอามี แม่ของสุวิทย์ ผู้ต้องหา กล่าวว่า ถึงลูกชายจะกลับคำว่าไม่ได้ถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย ตนก็ยังมีความรู้สึก คิดว่าลูกถูกเจ้าหน้าที่ทำร้าย และตนก็ไม่รู้สาเหตุที่วันนี้ลูกชายกลับคำ ตนก็ยังเชื่อมั่นว่าลูกชายไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่วมฆ่าเสี่ยสุชาติ และยืนยันว่าคืนวันที่ 3 พ.ค. ลูกชายอยู่บ้านกับครอบครัว ไม่ได้หายออกจากบ้านไปไหน ตนยังเห็นลูกชายนอนอยู่กับลูกในบ้าน วันนี้ตนได้ซื้อข้าวกล่องมาเยี่ยมลูกชาย แต่ก็ไม่ทันได้เจอหน้า เพราะเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวลูกชายไปส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดกระบี่แล้ว ถ้าตนเจอหน้าลูกชาย ตนอยากบอกให้ลูกชายทำตัวดี ๆ ถ้าเขาอยู่ในเรือนจำ ตนยังเชื่อว่าลูกชายบริสุทธิ์เสมอ
นายเขียด คนขับรถแบ็กโฮ เปิดใจว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ตนเองได้ไปทำงานขับรถขุดดินในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ จากนั้นเวลา 16.00 น. ของวันที่ 3 พ.ค. มีผู้ชายเก็บไม้ยางเดินมาขอให้ช่วยขุดดิน ให้ค่าเสียเวลา 2,000 บาท อ้างว่าจะนำวัวชนมาที่ตายมาฝัง 3 ตัว ตนจึงตอบตกลง
เมื่อไปถึงจุดที่เกิดเหตุ ตนไม่รู้ว่าอยู่ใกล้บ้านใคร รู้แต่ว่าเป็นสวนปาล์ม และมีผู้ชายยืนอยู่จุดดังกล่าวประมาณ 4-5 คน จากนั้นตนพูดว่าขอนำวัวที่ตายกลับมาทำกินที่บ้านได้ไหม แต่ทางกลุ่มชายดังกล่าวปฏิเสธ อ้างว่าให้ไม่ได้ เนื่องจากยังวัวที่ตาย 3 ตัวไม่ได้ทำพิธี และวัวที่ตายเป็นลูกของวัวชนที่เขาเลี้ยงไว้ จึงอยากจะทำการฝัง จากนั้นตนได้ขุดดินขนาด 3x4 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที พอขุดเสร็จผู้ชายทั้ง 5 คนได้รีบให้ตนกลับ และมีชายวัยรุ่น 1 คน เอาเงินค่าจ้างมาให้ตน 2,000 บาท ตนไม่ได้ขุดดินฝังกลบแต่อย่างใด และขุดเพียง 1 บ่อเท่านั้น ส่วนชาย 4-5 คนที่ตนเจอในที่เกิดเกตุนั้น ตนจำไม่ได้ว่าใครเป็นใคร หรือคนไหนคือบังฟิตและกิบหลี ตอนที่ตนเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ ตนก็ไม่ได้สังเกตเห็นรถเก๋งสีขาวของเสี่ยสุขาติหรือศพของเสี่ยสุชาติแต่อย่างใด
กระทั่งวันที่ 13 พ.ค. ตนมาทราบข่าวก็รู้สึกตกใจมาก ถึงตอนนี้สภาพจิตใจตนยังย่ำแย่ ตนขอยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ และกับกลุ่มบังฟิตแต่อย่างใด ตนทำไปเพราะเห็นว่าเป็นการฝังวัวตามที่จ้างงานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้คดีนี้คลี่คลายโดยเร็ว อยากให้เจ้าที่ตำรวจจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ตนทำงานขับรถมา 9 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
นายสุจิน เริงสมุทร พ่อของบังฟิต เผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นตนยืนยันคำเดิมว่าไม่รู้ว่าลูกชายของตนทั้ง 3 คนจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ในความรู้สึกของตน ตั้งแต่เลี้ยงลูกตั้งแต่เด็กทั้ง 3 คน นิสัยดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร ยอมรับว่า ลูกชายเคยมีคดีติดคุกจริง แต่เป็นเรื่องอดีตตามประสาวัยรุ่นที่เกิดจากความคึกคะนอง ตอนนี้ตนยอมรับว่าครอบครัวรู้สึกแย่มากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากลูกยังไม่ได้ติดต่อกลับมา อีกทั้งครอบครัวก็ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะหากติดต่อได้ ตนก็อยากจะให้ลูกรีบกลับมามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว เนื่องจากมีความกังวลว่า ถ้าลูกยังหลบหนีการจับกุมอาจจะได้รับอันตราย หรือถูกวิสามัญฆาตกรรมในที่สุด
นายสุจิน กล่าวต่อว่า ส่วนนายสุชาติ ผู้เสียชีวิต ตนยืนยันว่าไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัวมาก่อน นายสุชาติก็อาจจะเคยเข้ามาหาลูกของตนที่บ้านจริงต่ตนยืนยันว่าไม่รู้ว่าหน้าตานายสุชาติเป็นแบบไหน เพราะไม่ได้ใส่ใจ เนื่องจากปกติก็มีเพื่อนของลูกเข้ามาหาที่บ้านอยู่บ่อย ๆ ถึงแม้ว่าคนในครอบครัวของนายสุชาติจะไม่เชื่อก็ตาม อีกทั้งนายสุชาติก็ไม่เคยเข้ามาข่มขู่ตนเพื่อทวงเงินที่บังฟิตติดไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะพ่อของบังฟิตอยากพูดกับคนในสังคมว่า "คนผิดก็ต้องว่าไปตามผิด หากไม่ผิดก็กลับมาสู้คดีกันในชั้นศาล" แต่หากลูกชายของตนเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ก็อยากจะขอโทษทางครอบครัวผู้เสียชีวิตแทนการ
กระทำของลูกด้วย
ลักษณะเขาลูกไฟ ท้ายหมู่บ้านหนองแบก ม.1 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ จากการที่ทีมข่าวเดินสำรวจ และรวบรวมข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่พบว่าเป็นภูเขาหินปูนกลม ตั้งแต่บริเวณตีนเข้าไปจนถึงด้านบนยอดเขา พิ้นที่ประมาณ 20 ไร่ มีต้นไม้ปกคุมรอบบริเวณหนาแน่น ป่าดิบชื้น พื้นดินเปียกแฉะ เนื่องจากในพื้นที่จะมีฝนตกชุกเกือบตลอดปี
ข้อมูลจากชาวบ้าน ทราบว่ามีลักษณะคล้ายถ้ำแต่ไม่มีใครขึ้นไปสำรวจ เนื่องจากเขาดังกล่าวมีลักษณะค่อนข้างสูงชัน หากฝนตกดินจะสไลด์ตัวได้ง่าย จึงไม่ทราบว่าเขาดังกล่าวจะมีช่องถ้ำที่สามารถเข้าไปพักอาศัย หรือหลบซ่อนตามช่องหินได้หรือไม่ อีกทั้งจากที่ได้รับรายงานจากชาวบ้านทราบว่า บริเวณดังเขาดังกล่าว เป็นสถานที่ที่บังฟิตชอบเดินทางเข้ามาหาของป่าต่อนกอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งต้องเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความชำนาญทาง จึงจะสามารถขึ้นไปหลบซ้อนได้ เป็นจุดที่ทางเจ้าหน้าที่สงสัย