"เจ๊หนึ่ง" ปัดทวงหนี้โหดจ่าย 500 จ้างตบหน้าจัดฉาก เหยื่อยันขู่จริงไล่ถอนเสาบ้านหนี (คลิป)

กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Kim Signature" โพสต์คลิปวิดีโอเผยแพร่พฤติกรรมเจ้าหนี้ทวงเงินโหด บางรายถูกใช้ปืนจ่อศีรษะ บังคับให้ตบหน้าตัวเอง หรือบุกไปเคาะประตูบ้านเพื่อทวงเงิน พร้อมกับข่มขู่ว่าหากไม่มีเงินใช้คืนก็จะให้ถอนเสาบ้าน 

สำหรับแก๊งเงินกู้ดังกล่าว จะใช้ชื่อว่าแก๊งเงินกู้ “บ้านมะพร้าวอบเนย” เจ้าหนี้อยู่ใน จ.ลพบุรี ซึ่งจะปล่อยกู้แบบรายวัน เริ่มต้น 500 บาท คิดดอก 100 บาท หากไม่มีต้นสามารถต่อดอกได้ 3 วัน รับเฉพาะคน จ.ลพบุรี อายุ 18 ปีขึ้นไป ยกเว้นผู้ชาย และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง โดยจะใช้ช่องทางการหาลูกค้าและการพูดคุยตกลงเรื่องเงินกันในกลุ่มไลน์ ซึ่งมีสมาชิกประมาณ 400-500 คน โดยจะมีผังเงินกู้ ทั้งเงินต้นและดอกของแต่ละยอดเงิน คนที่จะสามารถกู้เงินได้ ต้องเข้าร่วมในกลุ่มไลน์เท่านั้น

ล่าสุดวันที่ 17 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เกาะติดเรื่องนี้ที่ จ.ลพบุรี พบผู้เสียหายตามคลิปที่ปรากฏ แต่มีรายหนึ่งชื่อน.ส.กระแต (สงวนชื่อ-สกุลจริง) เป็นหนึ่งในผู้ถูกเจ้าหนี้ข่มขู่ใช้ปืนจ่อศีรษะ ก่อนสั่งให้ตบหน้าขณะทวงหนี้ ซึ่งวันนี้เดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน สภ.โคกตูม

เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ น.ส.กระแต เป็นเวลาเกือบ 5 ชั่วโมง ก่อนพาตัวออกจากห้องสอบสวน ซึ่งน.ส.กระแต ไม่ปริปากตอบคำถามสื่อมวลชนแม้แต่คำเดียวว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และมีสีหน้าเรียบเฉยรีบเดินขึ้นรถตำรวจไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ข้อมูลว่าจะพา น.ส.กระแต ไปยังบ้านพัก เพื่อหาของบางอย่างมาประกอบคำให้การ รวมถึงจะพาไปชี้จุดเกิดเหตุ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายธงชัย กำนันตำบลโคกตูม เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องจากทางตำรวจให้ช่วยหาตัวน.ส.กระแต ตนก็ได้เดินทางไปพบน.ส.กระแตทันทีที่บ้าน จึงทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเป็นการจ้างถ่ายคลิปไว้ขมขู่ลูกหนี้รายอื่น ๆ ซึ่งน.ส.กระแต เหลือหนี้ก้อนสุดท้ายจึงรับจ้างถ่ายคลิปแลกเงิน 500 บาท ซึ่งตนยังไม่ได้ปักใจเชื่อ แต่ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง

ทั้งนี้แม้ตนจะพยายามป้องปรามไม่ให้มีเหตุแบบนี้เกิดขึ้น แต่ก็ทำได้เพียงประชาสัมพันธ์ เพราะหากลูกบ้านไม่มาร้องเรียน ตนก็ไม่ทราบและแม้ว่าจะมีกลุ่มทวงหนี้นอกระบบแวะมาในตำบลอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่อาจทราบว่าชาวบ้านไปกู้หนี้ยืมเงินใครบ้าง และเรื่องหนี้นอกระบบก็มีอยู่ทุกตำบล และตนมองว่าเป็นเรื่องของความสมัครใจกัน

ทีมข่าวได้เดินไปยังบ้านของลูกหนี้อีกราย ที่ถูกนางหนึ่ง เจ้าหนี้ ตามถวงถึงหน้าบ้าน แต่ไม่พบตัวลูกหนี้ทราบชื่อว่า มิ้ง ทำให้คนในบ้านที่เป็นผู้สูงวัยบอกว่า "คนชื้อมิ้งไม่อยู่" ก่อนที่นางหนึ่งจะตะโกนฝากบอกว่า "ให้ถอนเสาบ้านหนีได้เลย"

ทีมข่าวได้เจอกับนางนก (นามสมมติ) แม่ของน.ส.มิ้ง เปิดเผยว่า คลิปดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณเดือนเม.ย.64 เวลาประมาณ 21.00 น. มีคนมาตะโกนเรียกตามคลิป ซึ่งตนก็ตกใจมาก ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะทิ้งท้ายว่า “เตรียมตัวทำใจ เตรียมถอนเสาบ้าน”

ทั้งนี้จากการสอบถามลูกสาวจึงทราบว่า ไปกู้ยืมเงินหญิงคนนี้ประมาณ 5,000 บาท เจ้าหนี้ยืนยันว่าหากไม่ใช้หนี้จะมาพังข้าวของในบ้าน และขู่ว่าให้ตนรีบเก็บข้าวของเข้าบ้านให้เร็ว หลังจากนั้นตนก็รีบหาเงินไปคืน รวมต้นและดอกประมาณ 10,000 บาท และได้ฝากขอโทษตนและยายที่พูดจารุนแรงใส่ ตนก็คิดว่าแบบนี้ก็ได้เหรอ ขอโทษช้าไปหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าการที่นางหนึ่ง ทำกันแบบนี้มันมากเกินไป ตนเกิดมาไม่เคยเจอเงินแค่นี้จะฆ่ากันเลยเหรอ ซึ่งตอนนี้ก็มีคลิปเผยแพร่ออกไปวงกว้าง ตนก็กลัวความไม่ปลอดภัยด้วย แต่ได้บอกลูกสาวแล้วว่า จะไม่เอาเรื่อง เพราะจบกันไปแล้ว

พ.ต.อ.วรยุทธ พงษ์ตัน ผกก.สภ.โคกสำโรง เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังคงสอบปากคำ น.ส.มิ้ง เบื้องต้นแจ้งว่าจะไม่เอาเรื่องเจ้าหนี้ แต่ตำรวจจำเป็นต้องสอบปากเพื่อเป็นพยานว่าเป็นความจริงหรือไม่ หรือมีการข่มขู่อย่างไร 

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่คุยกับ "เจ๊เอ๋ - รัฐฐารินทร์ เกษมศาลพิพัฒน์" เจ้าหนี้สายโหดที่เคยตกเป้นข่าวมาก่อนหน้านี้ โดยเจ๊เอ๋ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนมองว่าเป็นเรื่องที่กระทำรุนแรงเกินไป แม้จะยังไม่ได้ฟังข้อเท็จจริงว่า ลูกหนี้มีพฤติกรรมอย่างไร แต่ในมุมมองของตนเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปทำไมไม่คุยกันก่อน ส่วนเรื่องที่บุกเข้าไปทวงหนี้ถึงบ้านนั้น ตนมองว่าทำไม่ได้ เพราะกฎหมายห้ามไว้ เจ้าหนี้ต้องทำตามกฎหมาย โดยเฉพาะการยืมเงินเพียง 500 บาท แต่กลับคิดดอกวันละ 100 ทุกวัน ๆ ตนถือว่ากินดอกโหดเกินไป อย่างไรก็ตาม ตนขอเตือนเจ้าหนี้และลูกหนี้ทุกคน ควรคิดถึงคำว่า "น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า" อะไรช่วยได้ก็ช่วยกันไป ส่วนลูกหนี้ก็อย่าปากดี อย่าปากเก่ง ถ้าเจ้าหนี้ใจร้ายจริงก็คงจะไม่ช่วยเหลือให้ยืมเงินตั้งแต่แรก

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ข้อมูลว่า ความผิดเจ้าหนี้ 1.ทวงถามหนี้โดยการข่มขู่ ใช้ความรุนแรง จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.ชิงทรัพย์ลูกหนี้โดยใช้กำลัง นำไปสู่การบาดเจ็บ จำคุก 10-20 ปี ปรับ 20,000-40,000 บาท 3.ป่าวประกาศให้ลูกหนี้เกิดความอับอาย จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และ 4.ถ่ายคลิปวิดีโอข่มขู่ลูกหนี้ และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิเตอร์ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ