ชุมชนเคหะเมืองใหม่บางพลีผวา! พบกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่พักอาศัยตามหอพักในชุมชนติดเชื้อถึง 37 ราย รอผลอีกกว่า 200 ราย
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 18 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะทางโควิดจากมูลนิธิร่วมกตัญญูเกือบ 20 นาย นำกำลังสวมชุดป้องกัน PPE และน้ำยาฆ่าเชื้อพร้อมด้วยรถพยาบาลรถสองแถวปฏิบัติการพิเศษ เดินทางมายังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนเมืองใหม่บางพลี ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าตรวจรับตัวกลุ่มแรงงานข้ามชาติทั้งชายหญิงรวม 37 ราย ที่ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ยืนยันผลว่าติดเชื้อโควิดทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเรียกตัวส่งเข้าโรงพยาบาลสนามในมหาลัยราชภัทรธนบุรีสมุทรปราการทั้งหมด
ขณะที่ก่อนหน้านี้มีรายงานงานว่า นายอำนาท แซ่ลี้ นายกเทศมนตรีเทศบาลบางเสาธง ออกมายอมรับกับทีมข่าวว่า ตนเองติดเชื้อพร้อมกับบุตรชาย สาเหตุคาดมาจากผู้ที่มาติดต่องานในเทศบาล โดยทางด้านนายกเทศมนตรีเทศบาลบางเสาธงได้สั่งปิดให้บริการชั่วคราวระหว่างวันที่ 18-21 พ.ค.นี้ พร้อมทั้งสั่งระดมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั่วสำนักงาน
นอกจากนี้ ยังสั่งการให้สมาชิกสภาพเทศบาลหัวหน้าส่วนและเจ้าหน้าที่เทศบาลกว่า 30 นายไปตรวจหาเชื้อและกักตัวทั้งหมดแล้ว โดยมีรายงานว่าทางด้านที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลบางเสาธงติดเชื้อโควิดด้วยเช่นกัน และอาการน่าเป็นห่วงเนื่องจากเชื้อลุกลามลงปอดแล้ว ขณะนี้อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อย่างใกล้ชิด ขณะที่ผู้นำชุมชนบางชุมชนในเขตเทศบาลออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าตนเองยืนยันติดเชื้อด้วยเช่นกัน
ด้านนางสุกัญญา แป้นเหมือน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมืองใหม่บางพลีออกมาระบุว่า สำหรับกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่พบติดเชื้อนี้ เป็นกลุ่มแรงงานที่พักอาศัยในชุมชนเคหะเมืองใหม่บางพลี จากการสอบสวนโรคในพนักงานตามโรงงานที่มีพนักงานติดเชื้อก่อนหน้านี้แล้ว และทราบว่ามีพนักงานจำนวนมากพักอาศัยในชุมชนเคหะเมืองใหม่บางพลี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงลงพื้นที่เชิงรุกค้นหาผู้ติดเชื้อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา จาก 342 คน พบเชื้อ 44 คน ขณะนี้ส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบลตามสิทธิและโรงพยาบาบาลสนามโดยยังคงรออีก 298 ราย คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะรู้ผล นอกจากนั้นในวันที่ 21 พ.ค.นี้เตรียมสุ่มตรวจเชิงรุกอีก 600 ราย
ทั้งนี้ตนเองฝากเตือนประชาชนที่พักอาศัยในชุมชนเคหะเมืองใหม่บางพลีแห่งนี้ซึ่งถือได้ว่าเป็นชุมชนแออัดต้องให้ความร่วมมือกับทางราชการและต้องสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกัน