สาวท้องติดโควิด-19 แท้งลูก หมอเผยเชื้ออาจแพร่ผ่านรกสู่สมองจนตาย (คลิป)

19 พ.ค. 64

กรณีศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ พบการระบาดในคลัสเตอร์บริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง มีพนักงานขับรถขนส่งสินค้าติดเชื้อและแพร่เชื้อต่อ จึงทำให้ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด-19 ไปด้วย และส่งผลให้เด็กในครรภ์เสียชีวิต

639625

ล่าสุดวันที่ 19 พ.ค.64 รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่าบรรยากาศที่บริษัทขนส่งดังกล่าวในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงเปิดบริการตามปกติ พร้อมทั้งมีมาตการป้องกันเฝ้าระวังและคัดกรองผู้เข้าใช้บริการรวมทั้งพนักงานอย่างเคร่งครัด

463600

นอกจากนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ตั้งจุดตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 ให้กับพนักงานของบริษัทขนส่งดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ตรวจครั้งแรกในวันที่ 13 พ.ค.64 ที่ผ่านมา

959081

ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มพนักงานของบริษัทขนส่งดังกล่าว ซึ่งเป็นการตรวจซ้ำครั้งที่ 2 จำนวน 150 คน ซึ่งจะทราบผลอย่างช้าในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.64) จึงจะทราบว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในคลัสเตอร์นี้ได้หรือไม่

ส่วนกรณีภรรยาของพนักงานขับรถบริษัทขนส่งที่ติดเชื้อจากสามี และทำให้เด็กในครรภ์เสียชีวิตนั้น ตนไม่สามารถให้รายละเอียดใด ๆ ได้ ทราบเพียงว่าขณะนี้หญิงคนดังกล่าวได้รับการรักษาอย่างดีอยู่ที่ รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ 

238495

นายวิชัย แสงทอง เจ้าของร้านขายของชำใกล้กับบริษัทขนส่งดังกล่าว เปิดเผยว่า โดยปกติตนก็จะติดตามสถานการณ์และข่าวสารเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะสถานการณ์ในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่าเพิ่งทราบวันนี้ว่ามีการระบาดเป็นคัตเตอร์ในบริษัทขน ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ตั้งของร้านและบ้านพักมาก ๆ

556191

ทั้งนี้เมื่อทราบแล้วทำให้ตนรู้สึกกังวลใจมาก เพราะรู้สึกว่าใกล้ตัวเข้ามาทุกที แต่ขณะเดียวกันก็มองว่าในที่สุดแล้วต้องมีสติ สิ่งที่ควรทำมากที่สุด คือ ระมัดระวังและป้องกันตัวเองอย่างดีที่สุด ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัดเหมือนที่เคยทำมาตลอด พร้อมกันนี้ตนก็รู้สึกเสียใจที่ทราบว่าเด็กในครรภ์ต้องมาเสียชีวิตไปด้วย

767044

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ระบุว่า การให้ยาพิจารณาฝั่งแม่ว่าอาการในแม่จำเป็นหรือไม่ ถ้าแม่ไม่จำเป็นประเมินไวร้สเข้าลูกได้หรือไม่ ไปถึงระดับใดน้ำคร่ำ เลือดสายสะดือในท้องแม่สามารถเจาะได้ แต่การเจอไวรัสในเลือดสายสะดือหรือในน้ำคร่ำจะไม่สามารถบอกว่าเด็กจำเป็นต้องเกิดโรครุนแรงเสมอไปหรือไม่ และถ้าไม่เจอก็ไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน 100% ต้องติดตามเด็กในท้องต่อ ถ้ามีหลักฐานว่าไวรัสเริ่มลุกลามเข้าไปถึงฝั่งลูก แม้ว่าแม่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัสก็ตาม ทำความเข้าใจกับแม่ถึงความเสี่ยงยังลูก และการให้ยาอาจช่วยลูก
 
 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม