จากกรณี พ.ต.ต.สมบุญ ภัทรวงษ์วิเศษ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุมีคนใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดที่อู่ซ่อมรถยนต์ หมู่ 11 ถ.พัฒนาการ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ราย คือนายอิทธิพงษ์ โป่งสันเทียะ อายุ 36 ปี ผู้ก่อเหตุบุกยิงก่อน บาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับด้านขวา 1 นัด เสียชีวิตอยู่กลางถนน ข้างรถกระบะสีบอรนซ์เงิน มีรอยกระสุนจากประตูซ้ายทะลุกระจกขวา ใกล้กันพบพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38
ส่วนผู้เสียชีวิตอีกราย คือนายวิรัตน์ สืบดา อายุ 55 ปี หัวหน้าช่าง ถูกยิงเข้าที่บริเวณกลางหน้าอก 1 นัด นอนเสียชีวิตหน้าอู่ซ่อมรถ มีผู้บาดเจ็บชาย 2 ราย คือนายธนาธร สืบดา หรือ ตุ้ย ลูกติดเมีย อายุ 20 ปี ถูกยิงเข้าที่ลำตัวประมาณ 2-3 จุด, นายศรศิลษ์ โสภณรวิชย์ หรือ แม็ก อายุ 22 ปี ช่างถูกยิงเข้าสะโพก 1 นัด และพบปืนพกสั้นแบบออโตเมติกขนาด 7.65 ตกอยู่ 1 กระบอก, ปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ 4 ปลอก เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้รีบปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา
ล่าสุด วันที่ 20 พ.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบกองเลือดหน้าอู่คาดว่าเป็นของนายวิรัตน์ และพบรอยจุดตกกระสุนปืน 6 จุด พบวงจรปิดหน้าร้าน 1 ตัว คาดว่าสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด
นายวีรศักดิ์ สีบันตะ อายุ 47 ปี ช่างซ่อมรถหรือผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุคือนายอิทธิพงษ์ เป็นน้องเขยของนายวิรัตน์ ขับรถมาจอดก่อนเรียกนายวิรัตน์ไปพูดคุยเป็นการส่วนตัวที่หน้าอู่ได้สักพัก และเห็นทั้งคู่ต่างคนต่างจะแยกย้าย เป็นการพูดคุยกันด้วยดี ไม่มีปากเสียงใด ๆ
แต่สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นรัว ๆ ตนเองได้แต่หมอบ ไม่กล้าขยับตัว แต่มารู้ภายหลังว่านายพา หลานเจ้าของอู่เป็นผู้ยิงสวน เพราะไม่เช่นนั้น คงเกิดความเสียหายมากกว่านี้แน่นอน เพราะนายอิทธิพงษ์ ไม่มีท่าทีหยุดยิงเลย
สำหรับนายอิทธิพงษ์ ได้เลิกลาก็น้องสาวนายวิรัตน์ไปนานแล้ว ก่อนมีการพยายามมาง้อขอคืนดีอยู่สองครั้งใหญ่ คือเดือนกุมภาพันธ์ แต่ทุกคนก็บอกว่าไม่ยุ่ง ถ้าจะง้อจะดีกันก็แล้วแต่ ต่อมาเดือนมีนาคมก็ขับรถมาตะโกนขู่ ซึ่งใจความเป็นอย่างไร ตนเองไม่ทราบแน่ชัด
ช่วงบ่ายวันนี้ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากคำให้การของนายพายุ สืบบุก อายุ 41 หลานเจ้าของอู่ พร้อมนำคลิปภาพวงจรปิดมายืนยันเหตุการณ์ ข้อมูลตรงกันว่าเมื่อเวลา 19.30 น. นายอิทธิพลขับรถกระบะมาตามเมียที่อู่ หลังเลิกกันหลายเดือน ก่อนจอดรถและเปิดกระจกฝั่งคนนั่งซ้ายลงเรียกมีพี่ชายเมียคือนายวิรัตน์ ให้มาคุยด้วย ก่อนที่นายอิทธิพลจะเปิดประตูรถลงมายืนคุยที่หน้าอู่ โดยมีนายพายุ นายธนาธร นายศรศิลษ์ และช่างอื่น ๆ รวม 4-5 คนมายืนคุยด้วย ซึ่งเวลาผ่านไปแค่ 3-4 นาที เกิดทำนองตกลงกันไม่ได้ นายอิทธิพ ได้ใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด.38 ยิงใส่กลุ่มคนในอู่ประมาณ 3-4 นัด โดนพี่ชายเมียเข้าที่หน้าอก 1 นัดเสียชีวิตคาที่ นายธนาธร ลูกเลี้ยง เข้าที่ลำตัวประมาณ 2-3 นัด เจ็บสาหัส และโดนนายศรศิลษ์ เข้าที่สะโพกขวา 1 นัด แต่ตอนนี้ทั้ง 2 อาการปลอดภัย
เวลา 15.00 น. พ.ต.ต.สมบุญ ภัทรวงษ์วิเศษ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าของคดี นำทีมควบคุมตัวนายพายุ ไปชี้จุดเกิดเหตุ ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ซึ่งทีมข่าวพยายามสอบถามนายพายุว่าทำไมถึงตัดสินใจยิงปืนโต้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่นายพายุ มีสีหน้าเครียด ไม่ตอบคำถามใด ๆ
นางสาวมนทา (นามสมมติ) หนึ่งในครอบครัวฝ่ายนายวิรัตน์ เปิดเผยว่า ครอบครัวไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร กับผู้ก่อเหตุก็ไม่เคยยุ่ง โดยเฉพาะนายพายุ เป็นคนดี ไม่มีเรื่องกับใคร แต่การยิงปืนเป็นการทำเพื่อปกป้องคนในครอบครัว สำหรับครอบครัวตอนนี้ไม่มีใครทำใจได้ เบื้องต้นศพนายวิรัตน์ถูกส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ จึงยังไม่ได้วางแผนกันว่าจะประกอบพิธีการทางศาสนากี่วัน ตอนนี้ทุกคนโศกเศร้า ไม่มีแรงจะทำอะไร อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหลานและช่างในอู่ ก่อนหน้านี้อาการสาหัส แค่ตอนนี้ทั้งคู่ปลอดภัยแล้ว
ล่าสุด ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านหนองกร่าง อ.ห้วยกระเจา พบกับนางนงลักษณ์ (นามสมมติ) พี่สาวนายอิทธิพงษ์ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับทีมข่าวว่า คนตายพูดไม่ได้ คงมีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ดีว่าน้องเป็นคนดี ไม่เคยมีกัญหากับใครเลย และรู้ว่าน้องรักเมียมาก แม้เมียจะเอาแต่ใจ โดยเฉพาะเวลาน้องมาบ้าน เมียน้องก็โทรมาก่ามาตลอด ทำนองว่า ถ้าไม่เดือดร้อนอะไรก็ไม่ต้องโทรไปรบกวน ทั้งที่ทางนี้ก็ไม่ได้อะไร เพราะส่วนตัวน้องเป็นคนรักแม่ ดูแลแม่ ทั้งตอนป่วย เทศกาลต่าง ๆ น้องไม่เคยขาด
ขณะที่วันเกิดเหตุเมียน้องยังโทรมาขู่แม่ว่าจะฆ่าฝ่ายตน ตนเองและแม่ก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าถ้าฝั่งโน้นอยากจะทำอะไรก็เชิญ เพราะตนเองกับแม่ก็อยู่กันแบบนี้ และไม่กังวล อย่างไรก็ตามครอบครัวเตรียมจัดพิธีการทางศาสนา 2 คืนที่วัดหนองกร่างในหมู่บ้าน ทุกคนก็จะทำให้น้องเต็มที่ จากนี้ก็จะผลัดกับน้อง ๆ แวะเวียนกันมาดูแลแม่