จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "เจ๊ม้อยv plus" โพสต์คลิปวิดีโอครอบครัวหนึ่งที่กำลังร้องไห้เสียใจ หลังท้องคลองเด็กแฝดชาย-หญิง แต่เด็กผู้ชายเสียชีวิต ก่อนนำศพไปบำเพ็ญกุศล เมื่อพระเปิดผ้าขนหนูออกมากลับไม่พบเด็ก โดยล่าสุด ผลการตรวจพบว่ามดลูกยังเล็ก ไม่ได้โตเหมือนคนตั้งท้อง ขนาดมดลูกของคนที่คลอดลูกปกติจะต้องมีขนาดเท่าลูกส้มโอ สูงระดับสะดือลงไป แต่เท่าที่ตรวจพบมีขนาดเท่าไข่ไก่ อีกทั้งหากเพิ่งจะผ่านการคลอดลูกจริง จะยังคงมีเศษน้ำคล่ำตกค้างอยู่ แต่ตอนที่ตรวจไม่พบร่องรอยดังกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เผยเบื้องหลังสาวท้องทิพย์ ทำคนพิศวงเพราะชุดกับท่าเดิน ห่วงผัวจูบพุงป่องแค่ไขมัน
- กรรชัยจับสาวท้องทิพย์ตรวจภายใน หมออึ้งไม่มีการคลอด โป๊ะรูปลูกก๊อบปี้มา
- ผัวเชื่อเมียท้องทิพย์ มีลูกแฝดคลึงพุงเด็กดิ้น - รพ.แฉแอดมิตแต่ไม่ท้อง ห่อศพลวงตา
วันที่ 22 พ.ค. 64 นายเกรียงไกร พ่อเด็ก พร้อมน้องเตย แม่เด็ก ออกมาไหว้ขอโทษสังคม ปมกรณีที่โกหกว่าโรงพยาบาลไม่ยอมให้ศพลูกชายที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา
พระไสว ธัมมสโร อายุ 80 ปี พระลูกวัด วัดสวนแตง ที่ได้รับการนิมนต์ไปเชิญศพของลูกสาวนางสาวกรกนก ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ก่อนที่จะเดินทางมาทำพิธีทางศาสนาที่วัดสวนแตง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่มีการมาเชิญอาตมาไปเชิญศพเด็กนั้น เวลาประมาณ 16.00 น. อาตมาอยู่ที่วัดสวนแตง มีรถกระบะมารับ มีนายนัทและนางสาวเตยและหญิงอีกคนนั่งบริเวณเบาะด้านหลัง ส่วนอาตมานั่งที่เบาะด้านหน้า และก็มีการเดินทางไปที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช
จากนั้น แม่เด็กมีการลงจากรถบริเวณประตูด้านหน้า ส่วนอาตมาและสามีของแม่เด็กขับรถไปจอดบริเวณลานจอดรถ ด้านหลังของโรงพยาบาล รออยู่ค่อนข้างนาน และบอกให้อาตมารออยู่บนรถเท่านั้น บอกว่าด้านล่างค่อนข้างร้อน นายเกรียงไกรมีการพูดโทรศัพท์พูดคุยกับนางสาวกรกนกอยู่ 2 ครั้ง แต่ก็ดูท่าทีว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
จนกระทั่งขับรถออกไปบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล เพื่อที่จะรับนางสาวกรกนกขึ้นรถ โดยขณะนั้น เมื่อนางสาวกรกนกขึ้นมาบนรถ นายเกรียงไกรก็มีการบอกว่าขอดูหน้าลูกหน่อย แต่นางสาวกรกนกบอกว่าแพทย์ไม่ให้เปิด เพราะกลัวจะติดเชื้อ และได้มีการส่งสายสิญจน์ให้กับนางสาวกรกนก เพื่อที่จะผูกกับศพของเด็กในการทำพิธีนำศพไปที่วัด โดยผูกบริเวณผ้าที่ห่อศพ ลักษณะเป็นผ้าขนหนู
หลังจากนั้น ก็ขับรถกระบะไปที่วัด เมื่อไปถึงอาตมาได้รีบไปเข้าห้องน้ำ จึงไม่เห็นช่วงที่มีการนำศพของเด็กใส่ในโลงศพ เมื่อสอบถามอีกครั้งก็พบว่าสายสิญจน์ที่ผูกอยู่บริเวณตัวเด็ก ยังไม่ถูกกับข้อมือที่ถูกต้องตามประเพณี จึงมีการบอกให้ญาติเปิดโลงศพ เพื่อที่จะผูกสายสิญจน์กับข้อมือของเด็กอีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อเปิดออกมากลับไม่พบเด็กตามที่ปรากฏในคลิป จากนั้นทางครอบครัวก็โวยวายเสียงดัง และค่อนข้างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าศพของลูกหาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาที่วัด ก่อนที่ครอบครัวของนางสาวกรกนกจะเดินทางออกไป คาดว่ามีการไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำโลงศพไปด้วย และเพิ่งจะนำมาฝากให้กับอาตมาเมื่อวานนี้
ที่ผ่านมา เมื่อมีการนำศพออกจากโรงพยาบาล ผ้าที่ห่อจะเป็นผ้าสีขาว อาตมามองว่าถ้าหากไม่มีการบอกให้เปิดโลง ก็อาจจะเป็นการเผาผ้าอย่างเดียว ก่อนหน้านี้เมื่อรับศพเด็ก จะมีการอุ้มมาในลักษณะแบบนี้ อาตมาไม่สามารถพูดอะไรได้มาก คงเป็นไปตามเวรตามกรรม ทำแบบใดย่อมได้แบบนั้น
ทีมข่าวเดินทางไปยังโรงงานที่นายเกรียงไกรทำงาน ต.สวนแตง อ.สวนแตง จ.สุพรรณบุรี พบนางสมร (นามสมมติ) อายุ 45 ปี พนักงานโรงงาน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตัวเองก็เห็นว่านายเกรียงไกรทำงานที่นี่มานานแล้ว และมักจะเห็นนางสาวกรกนกมาด้วยเป็นบางครั้ง โดยระยะหลังที่ผ่านมานั้นตนเองก็สังเกตเห็นว่านางสาวกรกนกมีการตั้งครรภ์ และมีการใส่ชุดคลุมท้อง
รวมถึงมีการติดเข็มกลัดบริเวณเสื้อด้วย แต่ตนเองก็ไม่ทราบว่าท้องหรือไม่ท้อง เพราะเท่าที่พูดคุยกับนายเกรียงไกรก็บอกว่าภรรยานั้นท้อง นายเกรียงไกรจะทำงานขับรถส่งของที่โรงงานแห่งนี้ แต่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่นี่ เมื่อนางสาวกรกนกมาถึงนางสาวกรกนกก็จะมานั่งอยู่บริเวณในโรงงาน นอนอยู่บริเวณนี้ เป็นคนไม่ค่อยพูด นิ่งเงียบ ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าจะเป็นข่าวใหญ่โตแบบนี้มาก่อน วันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองยังไม่เห็นนายนัทและนางสาวเตยเดินทางมาที่โรงงานแต่อย่างใด
ทีมข่าวเดินทางที่ร้านขายโลงศพ นางสายฝน เจ้าของร้านจำหน่ายโลงศพ เล่าวว่า นายนัท พ่อเด็กมาซื้อโลงศพด้วยตัวเองวันที่ 19 พ.ค. ตาแดง ร้องไห้เสียใจมาขอซื้อโลงศพเด็ก จ่ายเงินมัดจำ 1,000 บาท บอกจะมารับ 20 พ.ค. 64 เวลา 13.00 น. สีหน้าเศร้าเหมือนเดิม จ่ายเงินเพิ่มอีก 500 บาทแล้วกลับออกไป
เมื่อตนเห็นข่าวว่าเตยเปิดโลงศพร้องไห้ จำได้ว่าเป็นโลงของที่ร้าน พอเห็นแถลงข่าวว่าไม่ได้ท้องจริง ก็ยังงงว่าทำไปเพื่ออะไร เพราะเรื่องแบบนี้คนที่ทำต้องได้รับผลกรรม ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ตาม
เวลา 17.30 น. นายนิทัศน์ ลีย์อารีย์กุล สจ.เขตเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้นำนายนัทมาพบสื่อมวลชน ที่โรงงานที่นายนัททำงานอยู่ นายนัท กล่าวว่า ตนเองได้ปรึกษากับภรรยาจนทราบเรื่องแล้วพอสมควร เปิดใจคุยกันล่าสุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา และจะขอเปิดเผยรายละเอียดในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ พร้อมกับทางโรงพยาบาลอีกครั้ง ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ จะให้ภรรยาเป็นคนชี้แจงอย่างละเอียดอีกครั้ง ตนเองยืนยันว่าที่ผ่านมาภรรยาท้องจริง แต่มีเหตุที่เด็กหลุดไป ภรรยาก็ปิดบังเอาไว้ โดยท้องเมื่อประมาณ 4-5 เดือนที่แล้ว และมีเพศสัมพันธ์กันทำให้เด็กแท้ง ตนเองอยากจะขอโทษทุกคน "พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้น ยังไม่สามารถพูดอะไรตอนนี้ได้"
ทั้งนี้ สภาพจิตใจค่อนข้างย่ำแย่ ตนเองไม่โกรธภรรยา เพราะรักภรรยา ภรรยาอ้างว่าทำไปเพราะรัก จึงไม่ได้พูดเรื่องดังกล่าวให้ฟังแต่อย่างใด ที่ผ่านมาครอบครัวฝ่ายหญิงก็ไม่ทราบฝ่ายหญิงแท้งมาก่อน ช่วงที่ไปออกรายการโหนกระแสนั้น ก็ยังไม่มีใครทราบว่านางสาวกรกนกแท้งไปแล้ว
ทางด้าน สจ.นิทัศน์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวน้องทั้ง 2 คนเสียใจ และก็ตั้งใจจะเดินทางไปขอโทษทางโรงพยาบาล ทั้ง 2 โรงพยาบาลอยู่แล้ว วันนี้เป็นการชี้แจ้งเบื้องต้น
พญ.รสสุคนธ์ จงมั่นวัฒนา แพทย์เจ้าของภาพอัลตร้าซาวด์ เจ้าของคลินิกแพทย์ปัญญา รับฝากครรภ์ โรคเด็ก โรคทั่วไป อรัญประเทศ เปิดเผยว่า ที่ตนเองออกมาให้ข้อมูลนั้น เป็นเรื่องของการออกมายืนยันข้อเท็จจริงเท่านั้น ส่วนตัวไม่ทราบข่าวมาก่อน เพิ่งมีคนติดตามในเพจเฟซบุ๊กของคลินิกส่งมาให้ตนดูว่าภาพอัลตร้าซาวด์อาจเป็นของตน
ส่วนตัวเห็นภาพอัลตร้าซาวด์แล้ว ยืนยันว่าเป็นภาพของคลินิกตนเองจริง ซึ่ง 2 ภาพเป็นเด็กคนละคนกัน ภาพต้นฉบับก็ยังอยู่นระบบของคลินิก อีกอย่างนอกจากเด็กจะเป็นคนละคนแล้ว ยังเกิดกันคนละปีอีกด้วย ส่วนตัวที่จำได้ เพราะเป็นคนอัลตร้าซาวด์เองกับมือ ตนเองอยู่กับภาพ อุปกรณ์ตรวจมานาน ก็จะจำได้ว่าภาพใดที่ตนเองนั้นเป็นคนอัลตร้าซาวด์
ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่คิดเอาผิดสาวที่เอาภาพไปแอบอ้าง เพียงตนต้องการช่วยเหลือ โดยให้โพสต์นี้เป็นหลักฐานให้กับโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช เพราะตนมองว่าบุคลากรทางการพทย์เหนื่อยกับโควิด-19 มามาก ไม่ควรมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้อีก อีกอย่างตนเองไม่เคยรู้จักกับ น.ส.กรกนก เจ้าตัวไม่เคยมาใช้บริการกับคลินิกตนที่ จ.สระแก้ว
นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ ให้ข้อมูลว่า ตนเองดูจากข้อมูลแล้ว ก็เชื่อว่าหญิงสาวคนดังกล่าวไม่ได้ท้อง เพราะจากผลตรวจของแพทย์ก็ชัดเจนแล้ว ส่วนเรื่องน้ำหนักรวมไปถึงท้องที่ค่อนข้างใหญ่นั้น อาจจะเป็นเพราะน้ำหนักขึ้น อ้วนขึ้นก็เป็นได้
ส่วนการที่พ่อเด็กอ้างว่ามีการฟังท้องเด็ก และได้ยินเสียงนั้น อาจจะเป็นการมโนเอาก็ได้ เพราะไม่ได้ใช้หูฟังของแพทย์โดยตรง ผู้หญิงอาจจะหิวข้าวมีเสียงท้องร้องก็เป็นไปได้ ตนเองขอวิเคราะห์อยู่ 2 เรื่องหลัก ๆ คือ 1. อาจจะจิตเวชหรือไม่ เพราะถ้าเป็นอาการจิตเวช ต้องมีการพบแพทย์ด้วย เพราะอยากท้อง และไปโกหกคนอื่นว่าตัวเองท้อง หรือ 2. เป็นความปรารถนาอยากมีลูกกับแฟนคนนี้ จึงต้องท้องให้สำเร็จ เพราะกลัวแฟนจะไม่อยู่ด้วยหรือไม่
Advertisement