สาวโวยสูญเงินไล่ผี เจ้าสำนักโต้ค่าครูไม่บังคับให้ทำ หมอปลาลุยดูเจอแต่มะเร็ง (คลิป)

วันที่ 24 พ.ค. นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เดินทางออกจากบ้านที่ จ.เพชรบุรี เพื่อเดินทางมาหาคุณยายรายหนึ่งที่บ้านหมู่ 5 ถ.สืบศิริ ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในเวลา 18.00 น. เพราะได้รับเรื่องร้องเรียนมาเกี่ยวกับการถูกหลอกให้แก้คุณไสยผ่านทางออนไลน์

โดยคุณยายรายนี้ อายุ 69 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดตั้งแต่ปี 2562 จนกระทั่งปี 2564 คุณยายปฏิเสธการทำคีโม เพราะทรมาน แพทย์ให้ยาตามอาการ แต่คุณยายกลับมีอาการแปลก เช่น นอนไม่หลับ และชอบพูดคนเดียวในเวลากลางคืนขณะหลับตา ทางครอบครัวไร้ที่พึ่ง เมื่อได้ดูคลิปจากยูทูบเกี่ยวกับอาการของคนโดนของและการถอนคุณไสย จึงได้ตัดสินใจติดต่อ โอนเงินให้ในวันที่ 12 พ.ค. 64 จำนวน 3,500 บาท ทางช่องยูทูบได้ส่งคลิปการถอดคุณไสยกลับมาให้ในวันที่ 22 พ.ค. 64 แต่หากจะถอนคุณไสยให้หมด จะต้องจ่ายอีก 3,300 บาท จำนวน 3 ครั้ง

วันที่ 24 พ.ค. 64  เวลา 17.45 น. หมอปลาเดินทางมาถึงบ้านที่เกิดเหตุ ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมได้เข้าไปดูอาการของนางอ๊อด (นามสมมติ) อายุ 69 ปี ผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 3 หายใจไม่ค่อยสะดวก ส่งผลให้ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง หมอปลาบอกว่า หมอแก้คุณไสยเอาความเชื่อ เอาโซเชียลมาหากิน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก เพราะเป็นการใช้สื่อโซเชียลแบบผิด ๆ โดยหากดูประวัติของหมอแก้คุณไสยรายนี้ อายุ 32 ปี ที่ จ.พัทลุง ซึ่งเป็นเจ้าสำนักโหรณาโหร เจ้าแม่เทวี หมอสะเดาะเคราะห์ชื่อดังของ จ.พัทลุง จะพบว่าเจ้าตัวถูกจับในข้อหาครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนและมีหัวกะโหลกมนุษย์ไว้ในครอบครอง ตนอยากจะถามว่าความน่าเชื่อถืออยู่ที่ใด การแก้คุณไสยล้วนเป็นการตัดต่อคลิปทั้งสิ้น

ตนขอยืนยันว่าอาการของนางอ๊อด เป็นเพียงอาการป่วยจากโรคมะเร็งและอากาศ ทำให้นอนไม่สบายตัว ตนขอท้าหมอแก้คุณไสย แน่จริงลองทำของใส่ตนให้ดู ไม่อย่างนั้นตนจะด่าทุกวัน จนคุณถูกตำรวจจับ ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงปล่อยให้เปิดสำนักแบบนี้ได้ ถ้าใครเดือดร้อนถูกหมอแก้คุณไสยคนนี้หลอก ขอให้ติดต่อตนมา ถ้าหมอแก้คุณไสยทำของแก้ของได้จริง คงไปหลอกผู้หญิงรวย ๆ มาทำเมียแล้ว ไม่มาหลอกคนแบบนี้หรอก

จากนั้นหมอปลาก็ได้บอกว่า จะขอปัดเป่าให้นางอ๊อดสบายใจ แต่แท้จริงแค่ลูบแขนและปลอบนางอ๊อดว่าไม่มีคุณไสย ขอให้หายป่วยไว ๆ ต้องสู้ อย่านอน ต้องกินข้าว ต้องเชื่อแพทย์วิทยาศาสตร์ ขอให้เชื่อในบุญที่ทำไว้ โรคมาอาศัยร่างแม่อยู่ ร่างเป็นของแม่ ไม่ใช่ของโรค

ซึ่งนางอ๊อดบอกว่าตนไม่รู้เรื่องที่ลูกสาวไปปรึกษาหมอแก้คุณไสย ทุกวันนี้ตนกินข้าวได้นิดหน่อย แต่ก็อาเจียนออกมา ตนนอนไม่ค่อยหลับ มีอาการเหนื่อย หายใจไม่ค่อยออก แต่ตนไม่เชื่อเกี่ยวกับคุณไสย ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกับหมอปลา ซึ่งตนรู้สึกดีใจมาก และสบายใจขึ้นมากแล้ว

นางสาวกบ (นามสมมติ) อายุ 50 ปี ลูกสาวของนางอ๊อด (นามสมมติ) อายุ 69 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 3 เล่าว่า หลังจากที่แม่ของตนป่วยได้ 1 ปี แม่ได้เข้ารับการทำคีโมตบอดปี 2563 ซึ่งอาการดีขึ้นตามลำดับมาโดยตลอด แต่เมื่อต้นปี 2564 คุณแม่ได้หยุดทำคีโม และเปลี่ยนมากินยาพุ่งเป้ามะเร็ง เนื่องจากแพทย์มีความเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำคีโมบำบัดแล้ว แต่คุณแม่กลับอาการไม่ดีขึ้น เอาแต่นอนอยู่บนเตียง ร่างกายซูบผอมลงเรื่อย ๆ หน้าตาหมองคล้ำ เริ่มมีอาการนอนไม่หลับ ไม่ยอมกินข้าว กระสับกระส่าย พูดพรึมพรำคนเดียวตอนกลางคืนจับใจความไม่ได้ อีกทั้งยังทำตาลอยและตาขวางใส่คนในครอบครัว ทำให้ครอบครัวเชื่อว่าแม่ของตนโดนของ เพราะภายในบ้าน นก็มักจะได้ยินเสียงพื้นไม้ลั่นบ่อยครั้ง

ตนซึ่งเป็นห่วงแม่ จึงได้ไปปรึกษาพระที่นับถือ พระอาจารย์ได้ให้ตะกรุดมา พร้อมให้น้ำมนต์มาอาบมากิน ตนก็ยังคงมีความกังวล จึงเริ่มหาวิธีแก้คุณไสยในอินเทอร์เน็ต พบกับช่องยูทูบที่พูดถึงคนโดนของ เข้าไปดูคลิปตอนที่ 20 บอกว่าคุณไสยแฝงมากับโรค เช่น มะเร็ง โดยอาจทำให้คนที่โดนของมีสีหน้าหมองคล้ำ ท่าทางผิดแปลกจากเดิม ตนจึงเชื่อเพราะต้องการหาที่พึ่ง ต้องการให้คุณแม่หาย และได้แอดไลน์ทักไปหาช่องยูทูบดังกล่าวในทันที ตนไม่ได้เล่าอาการใด ๆ ของคุณแม่ให้ฟัง ตนพลาดที่ทักไปบอกอีกฝ่ายว่า "อาการใช่ตามคลิปเลย" อีกฝ่ายจึงตอบกลับมาว่า "3,500 บาท ขอชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด เดี๋ยวจะถอนของแล้วส่งคลิปให้ดู"

ขณะนั้นตนก็คิดว่าทำไมง่ายจัง แต่ด้วยความเป็นห่วงคุณแม่ ตนจึงโอนเงินให้ในทันที อีกฝ่ายบอกว่าจะส่งคลิปถอนคุณไสยกลับมาให้ในวันที่ 21 พ.ค. 64 จากนั้นตนก็ได้ทักไลน์ไปทวงคลิปถอนคุณไสย อีกฝ่ายก็ได้ส่งคลิปกลับมาในวันที่ 22 พ.ค. 64 ซึ่งคลิปการถอนคุณไสย ความยาวเพียง 35 วินาที อีกฝ่ายได้ใช้มีดกรีดดินเหนียวคล้ายดินน้ำมัน พบว่ามีเศษผงดำ ๆ อยู่ภายใน บอกว่าคือ ผงกระดูก เศษขี้เถ้า ถ่านหมอผี เศษอาหารของกิน ซึ่งมีปริมาณเยอะอ้างว่าโดนของมานาน ตนก็เชื่อสนิทใจ เพราะคลิปในยูทูบมีความน่าเชื่อถือ ตนไม่ได้เอะใจว่าอีกฝ่ายอาจจะยัดผงในดินเหนียวไว้ก่อนหน้านี้ก็ได้

จากนั้นอีกฝ่ายก็ได้บอกกับตนว่าทำพิธีถอนคุณไสยอีก 2 ครั้งจะดี แต่ถ้าอยากให้หายขาดจะต้องทำ 3 ครั้ง ลดราคาให้จากครั้งละ 3,500 บาท เหลือเพียงครั้งละ 3,300 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าทำครบ ราคาจะรวมเป็น 3,500+3,300+3,300+3,300 = 13,400 บาท  จากการสนทนาทั้งหมด ตนเริ่มเอะใจว่าทำไมต้องถอนคุณไสยหลายครั้ง แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงพูดถึงแต่เรื่องเงิน ตนคิดได้ว่าน่าจะเป็นการหลอกลวง เพราะเวลาที่ตนไปหาพระ พระรดน้ำมนต์ให้ พระไม่เคยเรียกร้องเงินแม้แต่บาทเดียว

ตนจึงลองปรึกษาหมอปลา หมอปลาก็ตอบรับที่จะมาดูอาการแม่ของตนให้ หมอปลาแนะนำว่าขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ และย้ำว่าตนถูกหลอก โดยตนดีใจมากที่หมอปลาจะมาดูอาการแม่ของตน ตนจะได้คลายข้อสงสัยและสบายใจ

ทีมข่าวเดินทางมายังสำนักขุนโหรญาโหร แม่จันเทวี ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวใน จ.พัทลุง พบว่าด้านในเปิดเป็นตำหนัก มีเศียรพ่อแก่ หน้ากากพรานบุญ และเครื่องครอบครูต่าง ๆ

นายสิทธิชัย แก้วคง อายุ 33 ปี อาจารย์ทำพิธีถอนคุณไสย ระบุว่า ตำหนักของตนเปิดมาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว ที่ผ่านมามีการทำพิธีดูดวง และรับทำพิธีทางพราหมณ์ ส่วนการถอนคุณไสย์ต่าง ๆ เพิ่งเริ่มทำในช่วงหลัง ตนเป็นครูหมอสายมโนราห์ มักจะทำพิธีตามความเชื่อทางใต้ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยบังคับใคร เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ปกติจะเปิดให้คนเข้ามาถอนคุณไสยที่บ้าน แต่ช่วงโควิด-19 มีการเว้นระยะห่าง จำกัดการเดินทาง จึงเริ่มเปิดถอนคุณไสยผ่านช่องยูทูบ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,500 บาท เพราะต้องซื้อของประกอบพิธีทั้งเครื่องบายศรี อุปกรณ์ต่าง ๆ และต้องจ้างแอดมินในการประสานงานรวมถึงช่วยทำพิธีแทนคนที่ไม่สามารถมาได้ แต่หากผู้ที่ถูกคุณไสยมาหาตนถึงสำนัก ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ตนถอนให้ฟรี

ส่วนวิธีการแก้คุณไสย คือใช้หุ่นปั้น ห่อกับรูปถ่ายของบุคคลที่ต้องการแก้คุณไสย เขียนวันเดือนปีเกิดด้านหลังรูปถ่าย พร้อมทั้งสวดถอนเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นถ่ายคลิปลงยูทูบ แล้วแอดมินจะเป็นผู้ส่งคลิปดังกล่าวไปให้ผู้ที่ต้องการถอน พร้อมทั้งติดตามอาการ ซึ่งบางคนอาจไม่ได้หายภายในครั้งเดียว เพราะโดนของเป็นจำนวนมาก ต้องถอน 2-3 ครั้ง แต่ตนก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะหายแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ และไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำกี่ครั้ง

ทั้งนี้ การแก้คุณไสยเป็นการเสริมดวงไปด้วย และรักษาอาการทางใจ เมื่อจิตใจดีขึ้น ก็จะเกิดการดูแลร่างกายตัวเองจนดีขึ้นตามลำดับ ตนไม่ได้หลอกลวงหรือบังคับให้คนอื่นมาทำพิธี ทุกอย่างเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ยืนยันว่าจะทำพิธีต่อ ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ก็ขึ้นอยู่กับอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร