จากกรณี นายต้อม คนขับรถเก๋งสีดำชนคุณลุงที่กำลังเดินออกกำลังกายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งภายหลังมีการแชร์คลิปกล้องวงจรปิด บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเผยให้เห็นว่า เก๋งสีดำ ขับรถมาด้วยความเร็ว ก่อนชนคุณลุงรายดังกล่าวล้มลงไป ซึ่งผู้โพสต์คลิป ยังระบุว่า คนขับให้การกับตำรวจว่า ถูกคนวิ่งตัดหน้ารถ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าหลับในตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 11 ส.ค. 61
นายศิรพัชร์ ตรีประทีปศิลป์ ลูกชายของนายนที ตรีประทีปศิลป์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุมีคนขับรถมารับตนไปดูที่เกิดเหตุ พบว่าพ่อนอนอยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งก็มีพยานรายหนึ่งเล่าให้ตนฟังว่า พ่อของตนเดินเซไปมาก่อนจะล้มลงไปในจังหวะที่รถขับมาพอดี ส่วนตัวคนขับอ้างว่า ไม่ทราบว่าขับรถชนกับวัตถุใด จนลงจากรถมาดูพบว่าเป็นคน ซึ่งตอนแรกตนก็ไม่ได้ติดใจ คิดว่าเป็นแค่อุบัติเหตุ
จนกระทั่งได้ไปขอภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งพบว่าขัดแย้งกับการที่พยานบอกและที่คนขับพูด ทำให้ตนรับไม่ได้ หากไม่มีคลิปก็อาจไม่มีหลักฐานมายืนยัน นอกจากนี้จากการดูในคลิป เชื่อว่าคนขับน่าจะขับรถเร็ว ส่วนที่เจ้าตัวอ้างว่าหลับใน ตนก็เพิ่งมาทราบจากข่าว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังได้พูดคุยกับคู่กรณีแล้ว ซึ่งเจ้าตัวยอมรับผิดและยินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาตาม พ.ร.บ. ที่คุ้มกันรถ แต่ในการรักษาอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือออกไป ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนในส่วนนี้ จึงต้องรอดูต่อไปว่าอีกฝ่ายจะรับผิดชอบแบบใด
ส่วนอาการของพ่อตน มีการบวมช้ำตามร่างกายตั้งแต่ศีรษะ คอ แผ่นหลัง และสะโพก ซึ่งตอนแรกแพทย์แจ้งว่าปกติ แต่เช้ามืดวานนี้ (10 ส.ค.) พ่อตนเกิดอาการช็อกตาค้างไปประมาณ 40 วินาที ตนจึงเกรงว่าพ่อจะได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง จึงต้องย้ายโรงพยาบาลเพื่อตรวจสแกนให้มั่นใจอีกครั้ง ทั้งนี้ยืนยันว่า พ่อมีความพิการทางการได้ยินตั้งแต่กำเนิด แต่เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับที่เจ้าตัวถูกรถชน เพราะพ่อตนเดินเฉยๆ หากคนใช้รถใช้ถนนขับอย่างระมัดระวังก็คงไม่เกิดเหตุขึ้น