กรณีเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 64 กลางดึก ร.ต.อ.สุริยันต์ เรืองนุ้ย รอง สว.สอบสวน สภ.เสวียด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต อยู่ริมถนนสายบ้านควนรา-วิภาวดี จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายทราบชื่อคือ นายประเสริฐ ชูทรัพย์ อายุ 60 ปี สภาพนอนหงาย อยู่ริมถนน แต่งกายด้วยเสื้อยืดคอปกสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสามส่วน สีเทา คาดเข็มขัดหนังสีดำ ไม่สวมรองเท้า สูงประมาณ 160 ซม. ผิวขาว ลักษณะผมบาง ใบหน้ามีแผลฉกรรจ์ ศีรษะแตกเลือดไหลนองพื้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฆ่าสยองหนุ่ม 9 เมียยิงหัวแทงซ้ำ รถปริศนาหิ้วศพทิ้ง ลูกช็อกเบอร์มือถือโผล่หลังพ่อตาย
วันที่ 27 พ.ค. 64 เวลา 12.00 น. ที่สำนักสงฆ์หนองบัวเจริญธรรม อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ญาติรับศพนายประเสริฐกลับมาจากโรงพยาบาล นำมาวางที่แคร่ด้านในศาลา เวลา 13.30 น. มีการทำพิธีรดน้ำศพ โดยนางเกศิริ จันทร์พฤกษ์ อายุ 34 ปี ลูกสาวจากภรรยาคนที่ 6 เป็นผู้นั่งจับมือพ่อพร้อมทั้งร้องไห้ตลอดเวลา จากนั้นญาติช่วยกันนำศพใส่โลง ยกไปวางบนแท่นตั้งศพกลางศาลา
นางเกศิริ จันทร์พฤกษ์ กล่าวว่า ตนเจอพ่อครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม พ่อมาอยู่กับตนที่บ้านเป็นเวลา 5 คืน ระหว่างที่นั่งกินข้าวด้วยกันกับตน สามี และลูกชายของตนอีก 3 คน พ่อพูดว่า "มีความสุขมากที่มานั่งกินข้าวพร้อมกัน" พูดไปก็น้ำตาไหลไป หลังจากนั้นช่วงกลางคืนสังเกตว่าพ่อนอนร้องไห้ทุกคืน ตนจึงถามพ่อว่ามีปัญหาอะไร หากไม่สบายใจก็ให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่พ่อบอกว่าไม่เป็นไร และไม่ได้เล่าปัญหาให้ฟัง กระทั่งวันที่พ่อจะกลับ พูดกับตนและลูกว่า "ครั้งนี้เป็นการมาหาครั้งสุดท้ายแล้ว" แต่ตนยังไม่ได้เอะใจอะไร
หลังพ่อออกจากบ้านตนไป ตนพยายามโทรหา แต่พ่อไม่เคยรับเลย ตนคิดว่าพ่ออาจจะงานยุ่ง จึงไม่ได้ติดตาม จนมีญาติแจ้งมาว่าพบศพพ่อ ตนตกใจมาก ซึ่งสภาพศพพ่อใส่กางเกงขาสั้น ตนยังแปลกใจ เพราะปกติพ่อจะใส่กางเกงยีนส์ขายาวตลอด ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากสาเหตุใด ส่วนเรื่องที่พ่อมีภรรยาและลูกหลายคนนั้น ตนรู้จักแค่ 2 คน ที่เป็นพี่สาวคนโต และน้องคนเล็ก ซึ่งพ่อมักจะเล่าว่าไปมาหาสู่กับลูกแค่ 3 คนนี้เท่านั้น
ทั้งนี้ พ่อเลิกกับแม่ตนไปตั้งแต่ตนยังอยู่ในท้อง และกลับมาหาตนอีกครั้งตอนตนเรียนชั้น ป.3 หลังจากนั้นก็มาหานาน ๆ ครั้ง เนื่องจากพ่ออยู่ไม่ค่อยเป็นที่ มักเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อย ๆ
ด้านนางยาว อายุ 45 ปี ภรรยาคนที่ 6 ของผู้ตาย มาร่วมรดน้ำศพ พร้อมเปิดใจว่า ตนคบหากับนายประเสริฐตั้งแต่อายุ 12 ปี โดยขณะนั้นยังเด็กมาก ผู้ตายได้ฉุดไปอยู่ด้วยกัน ขณะที่ตนไปขายของกับแม่ในงานวัด อ.พุนพิน หลังอยู่ด้วยกัน 5 เดือน นายประเสริฐพาตนกลับบ้านไปไหว้พ่อแม่ และตัดสินใจอยู่กินด้วยกัน
กระทั่งตนเองอายุ 14 ปี ตนตั้งท้องได้ 3 เดือน นายประเสริฐพาไปอยู่กับญาติ และบอกกับตนว่าจะไปทำงานออกเรือหาปลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งตนก็เฝ้ารอเป็นเวลา 2 เดือน นายประเสริฐยังไม่กลับมา จึงตัดสินใจเดินเท้ากลับบ้านซึ่งอยู่อีกอำเภอใช้เวลาประมาณครึ่งวัน หลังจากนั้นช่วงใกล้คลอด นายประเสริฐกลับมา ให้เงินเป็นค่าทำคลอดกับตน 5,000 บาท แต่ตนไม่รับเพราะญาติสั่งห้าม กลัวว่าหากรับเงินจะมีความผูกพันกันต่อ
จากนั้น ตนคลอดลูกออกมาคือนางเกศิริ ก็เลี้ยงดูด้วยตัวเอง นายประเสริฐเคยกลับมาหา เอาเงินมาให้อีกจำนวน 12,000 บาท แต่ตนก็ไม่รับ หลังจากนั้นนายประเสริฐหายไป จนลูกเริ่มโตก็กลับมาอีก และไปมาหาสู่เรื่อย ๆ ขณะนั้นตนมีสามีใหม่แล้ว นายประเสริฐก็เข้ามาทำความรู้จักกับสามีใหม่ของตน จนสนิทเป็นเพื่อนกัน
ล่าสุด เมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว นายประเสริฐมากินเหล้ากับสามีของตน พร้อมขอมาอยู่ด้วย บอกว่าอยากฝากผีฝากไข้ เพราะแก่แล้ว แต่ตนปฏิเสธ เนื่องจากตนมีสามีใหม่แล้ว มีลูกใหม่แล้วด้วย หากมาอยู่ด้วยกันจะเป็นปัญหา ซึ่งการมาขออยู่ด้วยนั้นไม่ได้เป็นการกลับมาคืนดี เพราะนายประเสริฐเป็นคนที่ไม่ปักหลักกับใคร ทั้งนี้ นายประเสริฐก็ไม่ได้มีเงินมีทอง บางครั้งมาหาก็ยังขอเงินตนใช้
ซึ่งส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าสาเหตุที่โดนฆ่า ส่วนภรรยาคนอื่นของนายประเสริฐก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง ตอนที่คบกับตน ตนก็ไม่รู้ว่านายประเสริฐเคยมีภรรยามาแล้ว แต่ภายหลังอีกฝ่ายเคยพูดว่ามีลูกทั้งหมด 6 คนเป็นผู้หญิงทั้งหมด โดยภรรยาแต่ละคนก็ต่างคนต่างอยู่ เพราะนายประเสริฐก็ไม่ได้เลี้ยงดูใคร เมื่อภรรยาท้องก็มักจะตีตัวออกห่าง แล้วไปหาคนใหม่
น.ส.กรรวี ชูทรัพย์ อายุ 38 ปี ลูกซึ่งเกิดจากภรรยาคนแรกของนายประเสริฐ กล่าวว่า ตนเจอพ่อครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ขณะนั้นพ่อไม่สบาย เป็นโรคมือเท้าชา ตนไปรับพ่อมาจากโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี จากนั้นพ่อก็ไปอยู่บ้านญาติพี่น้อง ขณะนั้นพ่อดูเครียดมาก พูดกับตนว่า "อยากตาย" ตนจึงปลอบใจว่าการตายไม่ใช่ทางออก
หลังจากนั้น ตนทราบว่าพ่อไปอยู่บ้านน้องสาวคนสุดท้อง เป็นน้องสาวต่างแม่ ตนคิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หากอยู่กับน้อง ตนไม่ได้ติดต่อกับน้องสาว เพราะทะเลาะกันเรื่องที่ดิน เนื่องจากก่อนหน้านี้พ่อยกที่ดินให้ตนจำนวน 5-6 ไร่ ตนก็เข้าไปจัดการปรับหน้าดินเรียบร้อยแล้ว แต่พ่อเกิดเปลี่ยนใจยกให้น้องสาว ตนกับน้องจึงบล็อกเฟซบุ๊กและไลน์ของกันและกัน โดยที่ไม่ได้มีปากเสียงกัน ส่วนพ่อก็ทราบว่ามีปากเสียงกัน เพราะน้องสาวไล่พ่อออกจากบ้านประมาณวันที่ 24 พ.ค. แต่ตนก็ไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกัน
ที่ผ่านมาพ่อไม่เคยเลี้ยงดูตน เพราะทิ้งแม่ตนไปตั้งแต่แม่ท้องตนได้ 7 เดือน หลังจากนั้นตนเกิดมาจนโต พ่อก็กลับมาหานาน ๆ ครั้ง แต่ทุกครั้งที่พ่อมีปัญหาก็มักจะมาหาตน ทั้งนี้ ตนไม่รู้ปมเหตุว่าพ่อถูกฆ่าได้อย่างไร แต่เวลากินเหล้าพ่อมักจะมีปัญหากับคนอื่นบ่อยครั้ง เวลาเมาชอบชวนคนอื่นทะเลาะ
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปบ้านของภรรยาคนที่ 9 ของนายประเสริฐ ซึ่งอยู่ใน อ.พุนพิน นางสาวจันทร์จิรา ชูทรัพย์ อายุ 26 ปี ลูกสาวของภรรยาคนที่ 9 ระบุว่า ตนไม่มั่นใจว่าแม่ตัวเองเป็นภรรยาคนที่เท่าไร เพราะไม่รู้ว่าพ่อมีเมียมาแล้วกี่คน ตั้งแต่เกิดมา พ่อเลี้ยงดูตนจนอายุ 2 ขวบครึ่ง หลังจากนั้นก็แยกทางกับแม่ และกลับมาหาตนนาน ๆ ครั้ง
ก่อนหน้านี้พ่อไม่สบายเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ มีอาการมือเท้าชาครึ่งซีก มาอยู่กับตนที่บ้านเป็นเวลา 2 เดือน กระทั่งวันสุดท้ายคือ 22 พ.ค. พ่อกินเหล้าจนเมาหนัก และเริ่มด่าคนในบ้าน ตนก็ไม่กล้าอยู่ใกล้ พ่อจึงขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป ซึ่งตนก็โทรไปถามลุงว่าพ่อไปหาหรือไม่ แต่ลุงบอกไม่ได้ไปหา ตนก็เป็นห่วง กระทั่งมารู้ข่าวเมื่อวานนี้ว่าพ่อเสียแล้ว ตนยังถามญาติว่าพ่อเป็นลมหรือไม่ เพราะไม่คิดว่าจะเป็นการฆาตกรรม แต่มาทราบภายหลังว่าพ่อถูกฟัน โดยที่ตนไม่รู้ปมเหตุ เพราะช่วงที่พ่อมาอยู่ที่บ้านตนก็ไม่ได้มีเรื่องมีราวกับใคร เนื่องจากพ่อไม่มีเงินกินเหล้า เพราะหากพ่อกินเหล้าก็จะชอบหาเรื่องคนอื่น
ส่วนที่พี่สาวบอกว่าตนไล่พ่อออกจากบ้านนั้น วันเกิดเหตุพ่อเสียงดังโวยวาย แต่ไม่ได้มีการทะเลาะหรือไล่กัน ทั้งนี้พ่อเพิ่งกลับมาหาตนหลังหายไป 4-5 ปีแล้ว ตนจึงแทบจะไม่ได้เจอพ่อ เพราะหากสบายดีพ่อคงไม่มาหา ส่วนปัญหาเรื่องที่ดินนั้น ทราบว่าตอนแรกพ่อจะยกให้พี่สาว แต่ภายหลังพ่อมาอยู่กับตนจึงจะยกให้ตน พ่อบอกว่าพ่อมาอยู่มากินกับลูกก็ยกให้ลูก ซึ่งปัญหาเป็นการคุยกันทางโทรศัพท์ระหว่างพี่สาวกับพ่อ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. โดยตนเข้าไปดูที่ดิน กลับบ้านมาก็ได้ยินว่าพ่อคุยโทรศัพท์กับพี่ ส่วนตัวมองว่าประเด็นนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะเป็นเรื่องในครอบครัว ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ที่ผ่านมาพ่อเป็นคนไม่ยอมคน เคยมีคดีเกี่ยวกับทะเลาะวิวาทหลายครั้ง
นายมนตรี จินดา อายุ 51 ปี หลานชายผู้ตาย เล่าว่า ตนได้เจอนายประเสริฐครั้งสุดท้ายเมื่อ 7 เดือนที่แล้ว นายประเสริฐมาหาตนที่บ้านในเวลาประมาณ 20.00 น. พร้อมเล่าให้ฟังว่ามีเรื่องกับคู่กรณีแล้วใช้จอบดายหญ้าฟันจนอีกฝ่ายเข้าโรงพยาบาล ซึ่งจากการสอบถามนายประเสริฐบอกว่า สาเหตุมาจากเจ้าตัวเปิดร้านตัดผมแล้วไปพ่วงไฟบ้านคู่กรณี จากนั้นอีกฝ่ายได้ตัดไฟประมาณ 2 ครั้ง ตัวเองทนไม่ไหวจึงใช้จอบฟันจนคู่กรณีบาดเจ็บ แต่ไม่ถึงแก่ความตาย
จากนั้นนายประเสริฐได้นอนค้างที่บ้านตนเป็นเวลา 4 คืน แล้วก็ออกไป ตนคิดว่านายประเสริฐน่าจะไปค้างบ้านญาติคนอื่นอีก ทั้งนี้ตนมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องเมื่อ 7 เดือนที่แล้ว เพราะผ่านมานานแล้ว คาดว่าครั้งนี้ผู้ตายน่าจะไปกินเหล้าแล้วมีเรื่องกับคนอื่น จนอีกฝ่ายไม่พอใจแล้วมาก่อเหตุดังกล่าว
ล่าสุด พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด โดยได้สั่งการให้ชุดสืบสวนไล่กล้องวงจรปิด พร้อมขยายผลเรื่องรถยนต์ที่นำศพมาทิ้ง เพราะคาดว่าผู้ตายน่าจะถูกฆ่าจากที่อื่นก่อนนำมาทิ้งที่จุดเกิดเหตุ โดยสภาพศพจากการชันสูตร พบว่ามีเพียงร่องรอยบาดแผลจากของมีคม ไม่มีร่องรอยกระสุนปืน ส่วนปมการก่อเหตุมุ่งไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องชู้สาว ซึ่งให้น้ำหนักเป็นประเด็นรอง