เมียเสี่ยโกศลผวาข้อความลับเตือนระวังถูกลอบกัด แก๊งฆ่าพลาดตำรวจรู้แล้วจุดทิ้งศพ (คลิป)

จากกรณีภรรยาของนายโกศล ผู้สูญหาย ได้ยินเสียงปืนจากบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่สามีไปดื่มเหล้าที่บ้านหลังดังกล่าว จึงไปตามถึงบ้าน แต่เจ้าของบ้านยังไม่ยอมออกมา สุดท้ายบอกว่าไม่ทราบว่าสามีไปไหนเพราะขณะนั้นกำลังนอนหลับ แต่ภรรยาผู้สูญหายสังเกตเห็นมีรอยเลือดเป็นทาง มีร่องรอยการล้างเลือดตามพื้นถนน มีรอยเลือดติดบนใบหญ้า แต่ไม่พบตัวสามี ซึ่งในวันดังกล่าวสามีได้สวมสร้อยคอทองคำและเลสข้อมือหนัก 10 บาทออกไปด้วยนั้น

วันที่ 27 พ.ค. 64 นางจินดาหรา วสินทรัพย์ ภรรยาของเสี่ยโกศล เปิดใจว่า หลังจากวันนี้ตนเองได้เจอกับผู้กำกับ สภ.ไชยา ในฐานะชุดทำงานพื้นที่ ก็รู้สึกพึงพอใจเกี่ยวกับความคืบหน้า ที่มาแจ้งให้ตนเองในฐานะครอบครัวผู้สูญเสียรับทราบ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการออกมาชี้แจงหรือพูดถึงความคืบหน้าในคดี ตนเองก็ไม่รู้ว่าตำรวจทำงานอะไรกันอยู่ อย่างน้อยการเข้ามาแจ้งวันนี้ก็ทำให้ครอบครัวอุ่นใจหรือเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าตำรวจยังคงทำงานอยู่ ตนเองก็เพิ่งทราบว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม 1 คน ตนคิดว่านายบำรุงต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากมีการทำลายหรือล้างคราบเลือด

แม้ว่าวันนี้ตนเองจะทราบความคืบหน้าทางคดีบ้างบางส่วนแล้ว แต่ก็ยังมองว่าคดีมีความล่าช้า มีการออกหมายจับ 8 คน แต่ก็ยังจับใครไม่ได้ โดยเร็ว ๆ นี้ตนเองเตรียมที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปเจอกับทีมทนาย เดินทางไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องขอความเป็นธรรม เตรียมที่จะเข้าพบรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี

ในการพูดคุยกับผู้กำกับโรงพักพื้นที่วันนี้ ยอมรับว่า ตนเองรู้สึกดีใจที่ได้รับเบาะแสเกี่ยวกับการทิ้งศพของเสี่ยโกศลกลางทะเล เพราะมีการระบุถึงดาวทะเล หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลุ่มคนก่อเหตุได้มีการถอดดาวทะเล ออกไปจากเรือที่ใช้ลำเลียงศพ ด้านของผู้กำกับแจ้งว่าตอนนี้พบกล่องดาวแล้ว อยู่ระหว่างการเปิดข้อมูลย้อนหลังในวันที่มีการย้ายศพไปทิ้งกลางทะเล ซึ่งกล่องดังกล่าวระบุพิกัดจุด ทิ้งศพทางออกจากชายฝั่งประมาณ 32 กิโลเมตร หรือ 20 ไมค์ทะเล แต่ตนเองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเป็นเรือลำเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่ ถ้าหากใช่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี โทรหากเปิดกล่องดังกล่าวแล้วขับเรือออกไปตามหา ก็จะไปเจอจุดทิ้งศพโดยทันที

ส่วนกรณีที่นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก ออกมาระบุผลเบื้องต้นว่ากระดูกดังกล่าวเป็นของสัตว์ใหญ่หรือมนุษย์นั้น ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นกระดูกอะไร หาเป็นลองเสี่ยโกศลก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะอย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าศพอยู่บนบก จะได้ไม่ต้องออกตามหาทางทะเลให้เสียเวลา แต่ว่าหลังจากที่ครอบครัวได้นำกระดูกออกมาจากกองเผานั่งยาง ก็มีแต่ครอบครัวที่เก็บเอาไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ขอนำไปตรวจสอบ ซึ่งถ้าหากนำไปตรวจสอบหรือเทียบกับดีเอ็นเอก็จะทำให้คลายข้อสงสัยได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม นางจินดาหราได้ส่งแชตข้อความของบุคคลปริศนา ส่งมาทางเฟซบุ๊ก ทำนองว่า "คนร้ายมันก็อยู่ใกล้ ใกล้กับพี่นั่นแหละแต่พี่ไม่รู้ตัวว่ามันเป็น ใครหรือคนที่รู้จักกับพี่ก็ได้แน่นอนครับ แล้วคนร้ายก็มองการเคลื่อนไหวของพี่ ขอให้พี่อยู่นิ่งนิ่งไว้เดี๋ยว มันจะเป็นไปตามเก็บตำรวจเองครับผม" โดยข้อความดังกล่าว ถูกส่งมาให้เมื่อช่วงประมาณ 2 วันก่อน ไม่รู้เจตนาสื่อเรื่องอะไร ต้องการจะบอกด้วยความเป็นห่วงหรือเตือน หรือให้รีบกลับบ้านที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าการให้ถอนตัวออกไปจากคดีนี้เป็นเพราะต้องการให้เรื่องเงียบ หรือเป็นเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่กรณีที่อ้างว่าให้ปล่อยไปตามเกมของตำรวจนั้น ตนเองไม่รู้ว่าเล่นเกมอะไรกันอยู่

สำหรับดำเนินการกวาดล้างเครือข่ายและคนที่เกี่ยวข้องกับนายสุรัตน์ เศวตศิลป์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ตั้งแต่ 10-26 พ.ค. ยึดอาวุธปืนคนในเครือข่ายไปตรวจสอบมากกว่า 20 กระบอก เป็นปืนไม่มีใบอนุญาต 5 กระบอก และจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติดได้อีก 3 คน

มีการดำเนินการควบคุมตัว 3 บุคคล เกี่ยวข้องกับคนดูต้องทาง และเฝ้าระวังให้กับกลุ่มผู้ต้องหาในการลำเรียงศพไปซ่อนอำพราง คือบุคคลที่เป็นต้นทางจุดแหลมโพธิ์ บนสะพานข้ามคลอง, จุดแหลมซุย บริเวณลงเรือครั้งแรก, จุดลำเรียงศพจากวัดตะกรบ ไปยังบ่อทรายของนายสุรัตน์ เป็นเครือญาติของครอบครัวเศวตศิลป์