ปิดฉากไปอย่างสวยงามกับคอนเสิร์ต
‘Wanna One World Tour in Bangkok’ ที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าตอนนี้ 11 หนุ่ม
Wanna One (วอนนาวัน) คือ
ไอดอลหนุ่มแห่งยุคอย่างแท้จริง!! หลังจากที่สร้างปรากฏการณ์บัตรคอนเสิร์ตทั้ง 2 รอบการแสดงขายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่ง ทำให้คอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นที่จับตามองมาโดยตลอด และเมื่อวันเสาร์ที่ 4 และวันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา
พวกเขาสะกดสายตาทุกคู่ที่อยู่ในอิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ได้อย่างอยู่หมัด ด้วยศักยภาพที่เต็มเปี่ยมทั้งการร้อง การเต้น และการเอ็นเตอร์เทนคนดู ซึ่งคอนเสิร์ตใหญ่ของพวกเขาครั้งนี้อัดแน่นไปด้วยความสนุกสนาน ความมันส์ และปิดท้ายด้วยความประทับใจของทั้งศิลปินและผู้ชม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่มีครบทุกอรรถรสเลยทีเดียว
ปรากฏการณ์
ไทยวอนนาเบิล (WANNABLE/ชื่อทางการของแฟนคลับ) มารวมตัวกันอย่างเนืองแน่นเต็มพื้นที่อิมแพ็ค อารีน่า เริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า และพีคยิ่งขึ้นเมื่อถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย เสียงกรี๊ดดังสนั่นตั้งแต่วีทีอาร์แนะนำเมมเบอร์ปรากฏขึ้นบนจอ LED 11 หนุ่มวอนนาวันเปิดตัวด้วย 3 เพลงที่มีท่าเต้นอันทรงพลังอย่าง
Burn it up, Never และ
Energetic แฟน ๆ เองก็ทั้งร้อง ทั้งเต้นแบบที่ไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่จะจบไปด้วยโซโล่แดนซ์สุดเซ็กซี่ของหนุ่ม
ฮวังมินฮยอน
เสียงกรี๊ดยังคงแรงอย่างต่อเนื่องกับยูนิตสเตจ เริ่มด้วยโชว์อันสุดแสนเซ็กซี่จากยูนิต
NO.1 ของ เ
บจินยอง, ไลควานลิน และ
ปาร์คจีฮุน กับเพลง
11 (Eleven) ต่อเนื่องกับเพอร์ฟอร์มของ 3 หนุ่ม
ฮวังมินฮยอน, ยุนจีซอง และ
ฮาซองอุน ที่มาในยูนิต
Lean On Me กับเพลงที่โชว์สกิลเสียงหวาน ๆ บาดลึกสุดใจอย่างเพลง
Eternity +1 ที่ทำแฟน ๆ ต้องเคลิ้มกันไปทั้งฮอลล์ ต่อกับโชว์แดนซ์สุดเท่ของหนุ่ม
ปาร์คจีฮุนและ
ฮาซองฮุน
ก่อนที่จะเริ่มเพลงมันสอย่าง
BOOMMERANG ออกสเตปกันพอหอมปากหอมคอ พวกเขาขอพักทักทายและหยอดคำหวานให้ไทยวอนนาเบิลกันหน่อย โดยหนุ่มน้อยสุดสดใส
อีแดฮวี ถามแฟน ๆ ว่า
“คิดถึงผมไหมครับ ผมก็คิดถึงวอนนาเบิลไทยมาก ๆ ครับ” ส่วน
คิมแจฮวาน ก็หยอดแฟน ๆ ว่า
“คิดถึงจังเลย” ฮวังมินฮยอนออกปากชมว่า
“วอนนาไทยทำไมน่ารักจังครับ” หยอดคำหวานมารัว ๆ ขนาดนี้ ไทยวอนนาเบิลถึงกับไปไม่เป็นกันเลย
พักหยอดคำหวานแบบเหงื่อยังไม่ทันแห้ง ทั้ง 11 หนุ่ม ก็พาไทยวอนนาเบิลไปสนุกกันต่อกับเพลง
DAY BY DAY จากนั้นท้องฟ้าในฮอลล์ก็ปกคลุมไปด้วยเมฆฝน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเพลง
BEAUTIFUL กำลังจะเริ่มขึ้น และ
คังแดเนียล ขอยึดเวทีช่วงท้ายของเพลงนี้ด้วยการแดนซ์โซโล่โชว์ซิกแพคเรียกเสียงกรี๊ดกันอีกระรอก
ต่อด้วยเพลงช้าๆ ซึ้งๆ เสียงหวานชวนฝันของหนุ่ม
คิมแจฮวาน กับเพลง
I'LL REMEMBER ความซึ้งมีกันอย่างต่อเนื่องด้วยเพลงความหมายดี ๆ อย่าง
I WANNA HAVE และ
ALWAYS ที่เหล่าไทยวอนนาเบิลเซอร์ไพรส์หนุ่ม ๆ ด้วยโปรเจคท์การแปรอักษรไฟชมพูเป็นภาษาเกาหลีเขียนว่า
영원이 약속해 (สัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป) งานนี้ทำเอา
ยุนจีซองถึงกับออกปากว่าประทับใจและซาบซึ้งกับแฟนโปรเจคท์นี้มากๆ
กลับมาถึงเวทีของยูนิตพิเศษอีกครั้ง คราวนี้เป็นคิวของ
อีแดฮวีและ
องซองอู ที่มาคู่กันภายใต้ยูนิต
THE HEAL กับเพลงช้าๆ ซึ้ง ๆ
SANDGLASS โดย
อีแดฮวีขอโชว์สกิลการเล่นเปียโนเป็นการเปิดเวทีอีกด้วย เพิ่มความสดใส น่ารักกับเวทีของ
คังแดเนียล, พัคอูจิน และ
ฮาซองอุน ที่แทคทีมกันมาในยูนิต
TRIPLE POSITION พร้อมพาทุกคนขยับสเตปจิงโจ้ไปด้วยกันในเพลง
KANGAROO กันต่อ
ผ่านมากว่าครึ่งคอนเสิร์ต
วอนนาวันขอเทสต์พลังและเสียงกรี๊ดของ
ไทยวอนนาเบิลว่ายังมีแรงอยู่ไหม เมื่อเสียงกรี๊ดยังเหลือเต็ม 100% พวกเขาก็เดินหน้า Party กันอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปลี่ยนอิมแพค อารีน่าให้เป็น คอนเสิร์ต EDM ภายในพริบตา มีดีเจ
ยุนจีซอง หรืออีกชื่อ
DJ Hankki เป็นผู้นำของปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ โดยมี
คังแดเนียลมาร่วมแจมปาร์ตี้นี้เพื่อเพิ่มความสนุกกันแบบคูณสอง
ก่อนที่ยกเวทีให้กับโซโล่แดนซ์ของ
ฮาซองอุนและ
ไลควานลิน ที่ผลัดกันโชว์สกิลการเต้นแบบเซ็กซี่และเสน่ห์ล้นเหลือ และแล้วคอนเสิร์ตก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย พวกเขาขอเก็บความประทับใจด้วยเพลงที่มีจังหวะสนุกอย่าง
WANNA BE, TWILIGHT และเพลงแรกที่ทำให้เรารู้จักพวกเขาอย่าง
PICK ME ก่อนจะจับมือกันเดินไปบนเส้นทางสีทองกับเพลง
GOLD เป็นการส่งท้าย
ไทยวอนนาเบิลไม่ยอมให้ช่วงเวลาที่ความสนุกจบลงไปอย่างง่ายดาย ต่างช่วยกันตะโกนเรียก
“วอนนาวัน” กันอย่างสุดเสียง เมื่อข้อความ “
ขอบคุณ Bangkok พวกเราจะจดจำเวลานี้ตลอดไป” ปรากฏขึ้น พวกเขาก็กลับมาบนเวทีอีกครั้งพร้อมเพลง
LIGHT ก่อนที่จะต้องลาจากกันไปจริง ๆ สมาชิกทั้ง 11 คนก็ขอพูดความในใจทีละคนเริ่มที่
ฮวังมินฮยอน “รอยยิ้มและเสียงกรี๊ดของไทยวอนนาเบิลทำให้พวกเราหลงรักไปเลย” ทางด้าน
ปาร์คอูจิน ที่เซอร์ไพรส์กับเสียงกรี๊ดอย่างกระหึ่มของไทยวอนนาเบิล ก็ขอให้คำมั่นสัญญาว่า
“พวกเราสัญญาจะตอบแทนในความรักนี้ เจอกันอีกนะครับ สัญญา (ภาษาไทย)”
คิมแจฮวาน ขอเผยความรู้สึกอย่างจริงใจว่า
“ขอบคุณทุกๆ คนที่กรี๊ดดังขนาดนี้ ทุกคนส่องสว่างเหมือนดวงดาว ผมมีความสุขที่ได้ยืนอยู่บนเวทีนี้ แล้วก็เล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย ผมจะไม่มีวันลืมวันนี้เลยครับ รักมากๆ นะครับ (ภาษาไทย)” ส่วน
ฮาซองอุน อยากขอบคุณแฟน ๆ ว่า
“พวกเรามีความสุขมากเพราะเสียงกรี๊ดของทุกคน พลังไทยวอนนาเบิลสุดยอดไปเลย ขอบคุณที่รักพวกเรา เจอกันนะครับ (ภาษาไทย)” ถึงคิวของพี่ใหญ่
ยุนจีซอง บ้าง
“คอนเสิร์ตของพวกเรา 2 วันจบแล้ว ไม่รู้ทุกคนมีความสุขกันรึเปล่า พอได้เจอไทยวอนนาเบิลที่นี่ ก็รู้เลยว่าทำไมมีแต่คนรักประเทศไทยและรักแฟนๆ ชาวไทย ตั้งแต่วันแรกที่สนามบิน จนถึงวันนี้ ขอบคุณสำหรับรอยยิ้ม ความรัก กำลังใจที่ทุกคนมอบให้มา จนกว่าจะเจอกันทุกคนรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ”
คังแดเนียล ผู้ชายที่ใครหลายคนตกหลุมรักรอยยิ้มของเขา เผยว่า
“ประเทศไทยคือ Land Of Smile ผมเชื่อว่าผมเป็นคนที่ยิ้มและหัวเราะเก่งแล้ว แต่บอกเลยว่าตอนนี้ผมแพ้แฟนชาวไทยแล้ว ทุกคน รู้ใช่ไหมว่าการให้รอยยิ้มเป็นการที่ทำให้คนข้างๆ มีความสุขขึ้น วันนี้พวกเรามีความสุขมากๆ เพราะทุกคนเลยนะครับ รักนะจุ๊บๆ (ภาษาไทย)” ต่อกันที่ความในใจของ
เบจินยอง “วันนี้มีความสุขมากที่เจอไทยวอนนาเบิลที่แสนสวยๆ แบบนี้อีกครั้ง อยากให้เราเจอกันอีกนานๆ พวกเราจะเจอกันอีกใช่ไหม รักนะจุ๊บๆ (ภาษาไทย)”
หนุ่มน้อย
อีแดฮวี กล่าวความในใจด้วยท่าทีที่น่ารักว่า
“ไทยวอนนาเบิลสุดยอดจริงๆ ผมเชื่อว่าครั้งหน้าที่เราเจอกันเสียงกรี๊ดของทุกคนจะดังขึ้น รักมากๆ นะคร้าบบ (ภาษาไทย)” ปาร์คจีฮุน เริ่มต้นด้วยการเรียกไทยวอนนาเบิลว่า
“ไทยวอนนาเบิลลลลล.... พวกเรามีความสุขมากๆ ที่ได้สร้างความทรงจำดีๆ ได้พลังพร้อมความรักจากพวกคุณมากมาย ที่พวกคุณเตรียมแฟนโปรเจคท์มาให้พวกเรา ขอบคุณทุกคนมากๆ สัญญาว่าจะไม่มีวันลืมวันนี้เลยครับ”
มาถึง
องซองอู เปิดอกพูดความรู้สึกอย่างจริงใจว่า “
ตอนได้ยินเสียงกรี๊ดของทุกคนก็ประทับใจแล้ว แต่รู้สึกเศร้านิดนึง เพราะผมรู้สึกถึงการรอคอยของทุกคน ทุกคนต้องรอพวกเรานานมากแน่เลย ถึงต้องส่งเสียงกรี๊ดดังขนาดนี้ ตอนนี้ก็เลยรู้สึกเสียใจที่ต้องจากกันไปอีกครั้ง พวกเราจะตั้งใจทำงาน สัญญาว่าจะเป็นศิลปินที่ดีขึ้นแล้วจะรีบกลับมาหานะครับ รักมากๆ นะครับ (ภาษาไทย)” และคนสุดท้ายน้องเล็กของวง
ไลควานลิน ที่ขอบอกความในใจสไตล์นิ่งๆ ว่า
“ผมจะบอกทุกคนว่า เก็บเสียงกรี๊ดไว้อีกนิดนึงก็ได้นะครับ ครั้งหน้าตอนที่พวกเรากลับมาจะได้มีพลังเสียงกรี๊ดให้พวกเราดังๆ อีก ขอบคุณโปรเจคท์ที่ทำให้ พวกเรา Forever Promise นะครับ”
ส่งท้ายความประทับใจพร้อมคำมั่นสัญญาของ
วอนนาวันที่มอบให้กับ
ไทยวอนนาเบิลผ่านเพลง
I PROMISE YOU ด้านไทยวอนนาเบิลก็ให้คำมั่นสัญญากลับผ่านโปรเจคท์ที่เป็นภาษาเกาหลีว่า
우리는 항상 함께 있어요 서로의 추억 속에 ❤ ที่มีความหมายว่า
“เราจะอยู่ด้วยกันเสมอ ในความทรงจำของกันและกัน” เป็นการให้คำมั่นสัญญาต่อกันและกันว่าจะอยู่แบบนี้ด้วยกันตลอดไป เป็นการปิดฉากคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างสวยงาม และประทับใจที่ไม่รู้ลืม งานนี้ก็ต้องขอปรบมือ และยกนิ้วให้กับผู้จัด YJPARTNERS (วายเจพาร์ทเนอร์) และ BEX (กรุงเทพ เอ็กซิบิชั่น) ที่นำพาคอนเสิร์ตดี ๆ แบบนี้มาให้เราได้ดูกัน
ติดตามข่าวสารเรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่
อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34