หลวงพี่คริปโตหอบคอมพ์ล่องหน พระลูกวัดป้องแค่ศึกษาบิตคอยน์ ปัดตั้งโต๊ะบอล ชาวบ้านจี้สำนักพุทธสอบ (คลิป)

กรณีกระแสฮือฮาบนโลกโซเชียลฯ เมื่อมีแฟนเพจเฟซบุ๊กออกมาแฉพระรูปหนึ่ง ที่กำลังขะมักเขม้นอยู่หน้าเหมืองคริปโต ซ้ำยังมีอุปกรณ์ชุดคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งชาวเน็ตวิจารณ์ว่าการทำเหมืองคริปโตเพื่อขุดเหรียญแบบนี้ต้องเสียค่าไฟจำนวนมาก เพราะต้องใช้ศักยภาพของคอมพิวเตอร์ จึงอยากรู้ว่าพระรูปดังกล่าวจ่ายค่าไฟเองหรือทางวัดจ่าย

ต่อมาวันที่ 28 พ.ค.64 แฟนเพจเฟซบุ๊ก โหลกแดง Back To School ได้แฉข้อมูลเกี่ยวกับพระรูปนี้อีกรอบ โดยอ้างว่าหลวงพี่รายนี้ไม่เพียงแต่จะขุดเหรียญคริปโต ซึ่งเป็นสกุลเงินออนไลน์ แต่ยังพบว่ามีการเปิดโต๊ะบอลออนไลน์ด้วย ในขณะที่เจ้าอาวาส ก็เข้าใจว่าเป็นเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์ธรรมดา

ล่าสุดวันที่ 30 พ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดดังกล่าว แขวงสายไหม เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ขณะที่บรรยากาศในวัดค่อนข้างเงียบเหงา เจ้าอาวาสและพระที่อยู่ในภาพดังกล่าวไม่อยู่ที่วัด

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ พระลูกวัด เปิดเผยว่า พระที่ปรากฏในภาพชื่อ "พระภาดา" โดยกุฏิดังกล่าวที่มีภาพคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกไปนั้น เป็นที่ทำงานของพระในวัด โดยจะมีพระทำงานในห้องนี้ 3 รูป ลูกศิษย์ 1 คน โดยคอมพิวเตอร์ที่เห็นเป็นคอมพิวเตอร์ของท่านเอง และจ่ายค่าไฟด้วยตัวเอง ไม่ได้ใช้เงินวัดเลยแม้แต่บาทเดียว และไม่ใช่เงินที่ญาติโยมทำบุญด้วย เพราะเป็นเงินคนละส่วน ท่านศึกษาด้านคอมพ์มานาน และศึกษาเรื่องนี้มานานแล้ว บวชมาหลายพรรษา มากกว่า 10 พรรษา อาตมามาที่วัดนี้ก็เจอท่านแล้ว พระภาดามีความรู้และเก่งด้านเทคโนโลยีอย่างมาก ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการพนัน หรือการทุจริตเงินวัดเข้ามาเกี่ยวข้อง

สำหรับคอมพิวเตอร์ที่เห็น พระภาดาลองนำมาประกอบเท่านั้น และลองใช้โปรแกรมบิตคอยน์ (Bitcoin) เพิ่งจะประกอบได้ประมาณ 1 เดือน และยังไม่มีเงินไหลเข้ามา เพราะการที่เงินจะเข้าบัญชีได้จะต้องใช้เวลานาน หลังจากเกิดกระแสวิจารณ์พระภาดาไม่สบายใจ จึงยกคอมพ์กลับไปที่จ.ลำปางแล้ว แต่ไม่ได้มีการลาสิกขา ต้องให้ความเป็นธรรมพระด้วย เพราะพระภาดาเป็นคนมีฐานะก่อนที่จะบวช ชาวบ้านแถวนี้ก็รู้จักท่านดี เพราะท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไม่เคยมีเรื่องเสียหาย ยืนยันทางวัดไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด ขณะนี้สำนักพระพุทธศาสนา อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ว่าผิดหรือไม่

ทีมข่าวยังได้สอบถาม นายอนุรักษ์ เจริญผ่อง อายุ 48 ปี ชาวบ้าน เปิดเผยว่า เหตุการณ์เริ่มตั้งแต่เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว เกิดน้อยใจในการทำงานของพระลูกวัด ที่พระบางรูปไม่ทำวัตร และไม่ทำกิจนิมนต์ ซึ่งเจ้าก็วาสก็พยายามจะหนีสึก เมื่อโยมทราบข่าวจึงไปพูดคุยห้ามไม่ให้สึก ชาวบ้านจึงอยากจะเข้ามาช่วยเหลือ และดูแลกิจกรรมของวัดเพิ่มเติม จึงได้ทราบว่าพระบางรูปในวัดมีพฤติกรรมแปลก ๆ ตนยืนยันว่าตนไม่ได้รับผลประโยชน์ แต่ที่ตนเข้าไปช่วยงานวัด เพราะมีชาวบ้านเข้าไปถ่ายรูปออกมา จึงกลายเป็นภาพที่แชร์กันอยู่ตอนนี้ 

อย่างไรก็ตาม ตนอยากทราบความเคลื่อนไหวในวัด เพราะไม่มีกรรมการวัด และไวยาวัจกรก็ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก จนไม่สามารถทำงานได้ จึงมีพระลูกวัดบางรูปที่คอยดูแลเงินวัด ฉะนั้นวัดต้องแจงรายละเอียดของเงินอย่างโปร่งใส เพราะที่ผ่านมาประมาณ 3 ปี ไม่มีการแจงให้ชาวบ้านรับรู้ ตนกลัวว่าภาพลักษณ์ของวัดจะเสียหาย 

ขณะเดียวกัน นายเชาว์ ศรีคล้าม อายุ 58 ปี ชาวบ้าน ที่ช่วยเหลืองานในวัดมานาน เปิดเผยว่า พระบางรูปมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คือพระที่อยู่ที่ห้องดังกล่าว 2-3 รูป และมีฆราวาสไปอาศัยหลับนอนด้วย พระที่อยู่ที่นี่ไม่มีกิจนิมนต์ ไม่มีการบิณฑบาตร ตนเข้าไปเจออุปกรณ์เล่นเกม บางครั้งพระมีหูฟังใหญ่ ๆ ใส่ด้วย ไม่รู้ว่าไว้ทำอะไร 

นอกจากนี้ เรื่องรายรับรายจ่ายที่วัดไม่ชี้แจงรายละเอียด ชาวบ้านจึงไม่มั่นใจในการใช้เงินของวัด ขณะนี้ตนและชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ไปแจ้งความแล้วที่ สน.คันนายาวแล้ว และจะเร่งทำเรื่องไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบการกระทำของพระในวัดต่อไป