จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "จะอยู่ก็ขอบใจ จะไปก็ขอบคุณ" โพสต์ภาพบันทึกวงจรปิดในกลุ่มหนองเรือ จ.ขอนแก่น กรณีมีชายประมาณ 4 คน เข้าค้นบ้านและรถยนต์ วันที่ 1 มิ.ย. 64 เวลา 11.28 น. ระบุข้อความว่า "เตือนภัยนะคะ มีบุคคลอ้างตัวว่าเป็นเจ้าน่าตำรวจ สภ.หนองเรือเข้ามาตรวจค้นภายในบ้าน โดยไม่แสดงหมายค้น. อ้างเพียงว่าเป็น ปส. มีอำนาจตรวจค้นโดยไม่ต้องใช้หมายค้นพะนะ”
ล่าสุด วันที่ 2 มิ.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางไปบ้านเกิดเหตุ บ้านหนองแวงโนนสะอาด ม.7 ต.โนนสะอาด อ.หนองเรือ จ.ของแก่น เป็นบ้าน 2 ชั้นอยู่ระหว่างปรับปรุงต่อเติมรั้วบ้านในพื้นที่เพียง 2 งานกว่า พบรถเก๋ง 1 คัน
นางสาวฐิติยา พิมพา หรือ แอ๋ว อายุ 30 ปี พี่สาวผู้โพสต์ อาศัยอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ กับนายสายชล จำปาหวาย หรือ อายุ 35 ปี สามี พร้อมด้วยพี่ชายแม่อายุ 75 ปี ลูกสาว อายุ 15 ปี ลูกชาย 13 ขวบ หลานชายอายุ 13 ขวบ หลานชาย 10 ขวบ และหลานชาย 6 ขวบ เล่าว่า เวลา 11.00 น. มีรถกระบะเข้ามาจอดหน้าบ้าน ก่อนที่ผู้ชายเสื้อสีขาว พร้อมพวกอีก 3 คน ถามหาคนชื่อโอ ซึ่งเป็นแฟนของตน ตนเองจึงเดินออกไปถามว่า "มีอะไรคะพี่" และบอกว่า "โอไม่อยู่ โอไปนา"
จากนั้นมีการถามตนว่า "ทำงานให้ใคร" ตนเองตกใจจะโมโหและด่าทอว่าหาเช้ากินค่ำ หนูไม่เคยทำเรื่องผิดกฎหมาย ทำงานสุจริต ซื่อสัตย์ กระทั่งชาย 4 คน อ้างตัวว่าเป็นตำรวจมีคนแจ้งความไปว่าที่บ้านค้ายา ตนยิ่งโมโหหนักมาก แต่ชายทั้ง 4 คนก็เดินเข้าบ้าน จึงย้อนถามว่ามีหมายค้นไหม แต่คำตอบที่ได้รับคือน้ำเสียงตะคอกใส่ว่า "สมัยนี้ไม่ต้องใช้หมายค้น เพราะเป็น เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. มีใครแจ้งอะไรก็ค้นได้" พร้อมนำบัตรให้ดู ตนขอถ่ายรูปก็ไม่ยอมให้ ตนจึงเชื่อว่าเป็นตำรวจ แต่ก็ยังอยู่ในอาการตกใจ และร้องไห้ อารมณ์น้อยใจมาก คนหาเช้ากินค่ำทำไมถึงเจอเรื่องแบบนนี้
ตนจึงบอกว่า "พี่อยากค้นตรงไหนก็ค้น แต่ว่าอย่ายัดยาให้หนูนะ" ซึ่งก็ใช้เวลานอนกว่า 30 นาที ตนเองก็ยืนอยู่ใกล้ ๆ ไม่ห่าง อย่างไรก็ตาม อาชีพหลักตนคือทำนา ทำไร่ มันสำปะหลัง ทำอาชีพสุจริต ตนเป็นคนบริสุทธิ์ ขออย่าป้ายสีให้ก็พอ ตนไม่เคยมีปัญหากับใครในหมู่บ้านเลย บ้านที่ต่อเติมก็หาเงินมาค่อย ๆ สร้างบ้าน เป็นเงินบริสุทธิ์
ทั้งนี้ ตนอยากรู้ว่าใครเป็นคนแจ้งความ กระทำกลั่นแกล้งกันทำไม และพยายามถามตำรวจก็ไม่ยอมบอก พร้อมติดใจก็เดินทางไปถึงสถานีตำรวจ ซึ่งพบตำรวจคนที่เข้ามาค้นบ้าน แต่ตำรวจก็กล่าวอ้างอีกว่าหากตอนนั้นตนเองไม่ให้ความร่วมมือก็จะปรับ 6,000 บาท และติดคุก 6 เดือน ตนเองจึงตอบกลับว่าถ้าผิดก็จะยอมรับผิด แต่ถ้าไม่ผิดเป็นประชาชนก็ต้องสู้ เพราะการมาของตำรวจแบบนี้ มันเกินกว่าเหตุ เกิดความเสียหายให้ตนเองและครอบครัว
ด้าน พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ ยืนยันว่า บุคคลที่ไปตรวจค้นเป็นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สภ.หนองเรือ สาเหตุในการเข้าทำการตรวจค้นบ้านพัก จากการสืบสวนหาข่าวของชุดสืบสวนทราบว่านายสายชล หรือ โอ และน.ส.ฐิติยา หรือ แอ๋ว มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้กับวัยรุ่นภายในหมู่บ้านและหมู่บ้านข้างเคียง ใช้บ้านพักดังกถ่าวเป็นที่จำหน่าย มีสายลับติดต่อซื้อยาบ้ามาแจ้งตำหนิรูปพรรณและลักษณะการแต่งกายไว้อย่างชัดเจน
สำหรับการตรวจค้นบ้านพัก อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2519 เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่ามีบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหลบซ่อนอยู่ หรือมีทรัพย์สินได้ใช้หรือจะใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่าหากดำเนินการล่าช้ากว่าจะได้หมายค้นมาบุคคลนั้นจะหลบหนีไป หรือทรัพย์สินถูกโยกย้ายซุกซ่อนทำลายหรือเปลี่ยนสภาพไปจากเดิม โดยมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองแวงเป็นพยานร่วมสังเกตการณ์ด้วย ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด