กรณี พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แถลงพบคลัสเตอร์ใหม่ในพื้นที่ กทม. จำนวน 2 คลัสเตอร์ ได้แก่ แคมป์คนงานเขตจตุจักร และชุมชนเขตสวนหลวง รวมแล้วคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังทั้งหมด 57 คลัสเเตอร์ ครอบคลุมพื้นที่ 32 เขต และในจำนวน 5 คลัสเตอร์ไม่พบผู้ติดเชื้อแล้ว ในรอบ 28 วันที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 4 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้ที่แคมป์คนงานก่อสร้างพื้นที่จตุจักร ตั้งอยู่ภายในกองบัญชาการการศึกษาตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบบริเวณด้านใน มีการก่อสร้างเป็นอาคารเรียน ความสูง 8 ชั้น สำหรับอาคารแห่งนี้สร้างไปแล้วกว่า 50% บรรยากาศโดยรอบพื้นที่ไม่พบคนงานก่อสร้าง และเจ้าหน้าที่ของกองบัญชาการศึกษา ส่วนบริเวณรอบ ๆ แคมป์คนงานพบว่ายังไม่มีการปิดสถานที่หรือติดป้ายประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงโควิด-19 แต่อย่างใด
ทีมข่าวสอบถามไปยังพนักงานฝ่ายธุรการงานก่อสร้างที่ตั้งเป็นออฟฟิศอยู่บริเวณด้านหลังแคมป์ก่อสร้าง บอกว่า ตนไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลคนงานที่นี่ แล้วก็เพิ่งมารู้ว่ามีการประกาศพื้นที่เป็นคลัสเตอร์ใหม่ ส่วนคนงานไม่ได้มาทำงานตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.64 แล้ว หลังจากนั้นทีมข่าวของเราเดินตรวจสอบรอบอาคารดังกล่าว ปรากฏว่าไปเจอคนงาน 3-4 คน กำลังมาเก็บของด้านในตัวอาคาร เพราะมีคำสั่งให้มาเก็บของออกจากแคมป์ก่อสร้าง
ทีมข่าวไปเจอเอกสารที่ติดประกาศอยู่บริเวณด้านหน้าแคมป์ก่อสร้าง เป็นเอกสารคำสั่งให้แยก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตและห้ามเข้าออกสถานที่ โดยหนังสือฉบับนี้เรียนไปถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท อินเตอร์ เอ็กซ์เพิร์ท คอนสตรัคชั่น จำกัด ตามที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวน 5 ราย และพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกเป็นจำนวนมากในแคมป์คนงานของบริษัท อินเตอร์ เอ็กซ์เพิร์ท คอนสตรัคชั่น จำกัด นั้น พนักงานควบคุมโรคติดต่อ จึงมีคำสั่งให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.นำผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมดที่อยู่ในแคมป์ทำการแยกกักกัน เพื่อดูสังเกตอาการ จนกว่าจะได้รับการตรวจและการชันสูตรทางการแพทย์ ว่าพ้นระยะการติดต่อของโลก หรือสิ้นสุดเหตุอันควรสงสัยจนครบ 14 วัน นับตั้งแต่สัมผัสผู้ป่วยยืนยันครั้งสุดท้าย พร้อมจัดให้มีมาตรการเฝ้าระวัง และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างเคร่งครัด
2.ปรับปรุงสถานที่บริเวณแคมป์คนงานให้ถูกสุขลักษณะ ทำความสะอาดสถานที่พื้นผิวสัมผัสตามหลักสุขาภิบาลทำการฆ่าเชื้อโรค พร้อมจัดให้มีมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างเคร่งครัด
3.ห้ามเคลื่อนย้ายคนงานออกจากแคมป์หรือสถานที่บริเวณที่เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อกำหนดและห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในแคมป์หรือสถานที่บริเวณที่เป็นเขตควบคุมโรคโดยเด็ดขาด
4.กรณีคนงานที่ไม่เป็นผู้ป่วยและไม่เป็นผู้สัมผัสเสียงสูง อนุญาตให้ทำงานได้ตามปกติ โดยมีการควบคุมคนงานระหว่างการเดินทางไปกลับจากแคมป์และที่พัก ห้ามมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนจนกว่าผู้ป่วยคนสุดท้ายที่ออกจากโรงพยาบาลได้มีการแยกกักตัวแล้ว จนครบ 14 วัน พร้อมเสนอแผนการดำเนินการต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรค
ทั้งนี้ให้ดำเนินการทันทีนับแต่ได้รับคำสั่งฉบับนี้ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม อาจมีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือมีความผิดตามมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยขณะนี้ ผอเขตจตุจักร กำลังประชุมหารือร่วมกับทางสำนักงานเขตอื่น ทั้งหมด 50 เขตของกรุงเทพมหานคร เพื่อหาแนวทางป้องกันและการทำงานร่วมกันในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนัก และจะสรุปผลให้ทราบในวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.64)