กรณีตำรวจในคดีน้องชมพู่ รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด 16 ชิ้นได้จากที่เกิดเหตุ โดยหนึ่งในหลักฐานสำคัญคือเส้นผมทั้งหมด 36 เส้น ความยาวประมาณ 1 ซม. ซึ่งตรวจพบดีเอ็นเอของน้องชมพู่ และเส้นขนไร้ราก 3 เส้น จากนั้นจึงนำไปตรวจด้วยเทคโนโลยีแสงซินโครตรอนที่มีความละเอียดระดับนาโนเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีในการคลี่คลายคดีอาชญากรรมหลาย ๆ คดี
ล่าสุดวันที่ 4 มิ.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ฉายาสารวัตรแรมโบ้ อดีตผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ และอดีตสารวัตรกองปราบนครบาล กล่าวว่า เรื่องเงินรางวัลนำจับ 1 ล้านบาท ตนได้คุยกับหมอปลาแล้ว ยังยืนยันคำเดิมว่าจะมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับพยานที่เชื่อถือได้ เป็นประจักษ์พยานจริง ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ เราต้องการพยาน 1-2 ปาก ซึ่งเห็นผู้กระทำความผิด อุ้มน้องชมพู่ออกจากบ้านไปจุดซ่อน หรือนำไปทิ้งที่ใดที่หนึ่ง หรือพาน้องชมพู่ขึ้นเขาไปจุดเกิดเหตุ
เรื่องเงินรางวัล ตนยืนยันว่าให้แน่นอน และพยานต้องมาพบตนและหมอปลา เพื่อตอบข้อซักถามรายละเอียด และจะพาไปพบตำรวจ และต้องเป็นพยานที่มาเบิกความจนกระทั่งศาลตัดสินลงโทษถึงที่สุด ถึงจะได้ 1 ล้านบาท และต้องไม่ใช่พยานเท็จ
สำหรับนายชัยวัฒน์ และนายอำนวย ดับเพลิง 2 นักธุรกิจที่ร่วมลงขันช่วยเงินรางวัลนำจับ ยังช่วยเหมือนเดิม ส่วนเงินของลุงพลที่มอบเงินบริจาคด้วยนั้น ต้องตัดทิ้งไป เพราะลุงพล กลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีเสียเอง โดยตนและหมอปลาจะช่วยรวมเงินกันให้ได้จำนวน 1 ล้านบาท
น.ส.เมย์ ชาวบ้านกกกอก บอกว่า ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เพราะบุคคลที่ถูกออกหมายจับ แต่มีส่วนสนับสนุนในเงินรางวัลนำจับ เพื่อให้มีความคืบหน้าทางคดี ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องตลกพอสมควร แต่ในอีกมุมชาวบ้านก็เชื่อว่า ถ้าลุงพลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ลุงพลก็อาจต้องการที่จะให้เร่งรัดคดี หรือจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะในวันที่มีการรวมเงินเพื่อตามหาคนร้าย ในวันนั้นลุงพลเป็นเพียงแค่ผู้ต้องสงสัย ไม่ได้เป็นผู้ต้องหา แต่ทั้งนี้เมื่อมีการออกหมายจับแล้ว ก็ต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการในชั้นศาลว่าจะชี้ออกมาในลักษณะใด
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี สอบถามนายหนุ่ม หนึ่งในยูทูเบอร์ว่า เมื่อลุงพลถูกหมายจับแล้ว จะกระทบกับรายได้ที่เปิดช่องยูทูบหรือไม่ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า ถึงลุงพลจะไม่อยู่แล้ว ตนก็ไม่กระทบเรื่องการขาดรายได้แต่อย่างใด ตนมาทำยูทูเบอร์ที่บ้านลุงพล เพราะตนนับถือพญานาค ไม่เกี่ยวกับลุงพล ตนขอให้ข้อมูลแค่เท่านี้ จากนั้นยูทูปคนอื่น ๆ ก็พยายามสะกิดไม่ให้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับลุงพัน ไทบ้านนอก ยูทูเบอร์ที่นอนอยู่ สภ.กกตูม ทั้งคืน พร้อมกับเพื่อน ๆ อีก 3 ช่อง เปิดเผยว่า ตนตามลุงพลมาทั้งวัน จึงตัดสินใจนอนที่หน้าสภ.กกตูม ซึ่งตลอดทั้งคืนที่หน้าโรงพักไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร ส่วนตัวตามเกาะติดลุงพลมาหลายเดือนแล้ว ตนก็ยังเชื่อมั่นในตัวลุงพลเช่นเดิม แม้จะมีหมายจับก็ตาม ซึ่งก็ต้องรอดูตามกระบวนการกฎหมายต่อไป