โควิดสายพันธุ์เดลตา ล่าสุดพบในไทยแล้ว 348 คน ลาม 11 จังหวัด

10 มิ.ย. 64

ไทยสุ่มตรวจพบ โควิดสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ล่าสุด 348 คน หรือ 8.32% ลามแล้ว 11 จังหวัด เป็นอันดับ 2 รองจากสายพันธ์อัลฟา (อังกฤษ) ซึ่งพบ 88.48%

วันนี้ (10 มิ.ย.64) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเครือข่ายห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ในประเทศ

โควิดสายพันธุ์อินเดีย ติดแล้ว 235 โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้รวม 26 ราย⁣

พบว่า จากการสุ่มตรวจเฝ้าระวังสายพันธุ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เดือนเม.ย.-มิ.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งหมด 4,185 คน พบว่า สายพันธุ์อัลฟา หรือสายพันธ์อังกฤษ มีการพบมากที่สุดในประเทศไทย จำนวน 3,703 คน คิดเป็น 88.48%

รองลงมาคือ สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จำนวน 348 คน คิดเป็น 8.32% สายพันธุ์ดั้งเดิม B.1 (dade G), B.1 (dade GH), B.1.1.1 (dade GR) จำนวน 98 คน คิดเป็น 2.34% สายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) จำนวน 26 ราย คิดเป็น 0.62% และสายพันธุ์ B.1.524 จำนวน 10 ราย คิดเป็น 0.24% ซึ่งข้อมูลต่างๆ นี้มีการประสานรายงานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อใช้ในการควบคุมเฝ้าระวังในพื้นที่ต่อไป

img_9012(1)

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้ข้อมูลว่า จากข้อมูลรายงานขององค์กรสาธารณสุขประเทศอังกฤษ (Public Health England) และองค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า สายพันธุ์อัลฟา เป็นสายพันธุ์ที่มีการแพร่กระจายง่าย ทำให้เกิดการป่วยและเสียชีวิตได้มากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม วัคซีนที่ใช้ในประเทศยังสามารถใช้ได้กับสายพันธุ์นี้

ส่วนสายพันธุ์เดลตา พบว่า มีการแพร่กระจายได้เร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา แต่ยังไม่พบว่า มีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อัลฟาแต่อย่างใด วัคซีนที่ใช้ในประเทศยังสามารถใช้ได้กับสายพันธุ์นี้ ขณะที่ส่วนสายพันธุ์เบตา พบว่า มีการแพร่กระจายได้ช้ากว่าสายพันธุ์อื่น แต่ทำให้เกิดการป่วยและเสียชีวิตได้มากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม

ข้อมูลล่าสุด เมื่อวานนี้ ( 9 มิ.ย.) มีการรายงานพบสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จำนวน 348 คนใน 11 จังหวัดคือ กทม. 318 คน อุดรธานี 17 คน สระบุรี 2 คน นนทบุรี 2 คน ขอนแก่น 2 คน ชัยภูมิ 2 คน พิษณุโลก 1 คนร้อยเอ็ด 1 คน อุบลราชธานี 1 คน บุรีรัมย์ 1 คน และสมุทรสาคร 1 คน 

การรายงานผลการเฝ้าระวังนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานในประเทศ จังหวัด ชุมชน สำหรับเฝ้าระวังติดตามในจังหวัด รวมถึงเป็นข้อมูลในการรักษาโรค และเพื่อให้ประชาชนได้ป้องกันตนเอง โดยการสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ยังคงมีความสำคัญในการป้องกันโรคนี้เช่นเดิม ไม่ว่าจะสายพันธุ์อะไร ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังเดินหน้าเฝ้าระวังสายพันธุ์ในประเทศ ร่วมกับเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง และพร้อมให้ข้อมูลการเฝ้าระวังกับทุกหน่วย เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ

นายก ประกาศจัดหาวัคซีนครบ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ ยันไม่มีจังหวัดใดถูกทอดทิ้ง 

กลุ่มคนชราลงทะเบียน หมอพร้อม อดฉีดวัคซีน เหตุชื่อหาย หลายจังหวัดวัคซีนไม่พอ 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ