เปิดชีวิตสุดเศร้าอดีตเณรปอบแม่ให้ 2 พันก่อนทิ้ง "ปลา" ช่วยพารักษา อึ้งดูดวงแม่น (คลิป)

จากกรณีการปรากฏตัวของ นายพุฒิพงศ์ ศรีนวล หรือในอดีตรู้จักกันในชื่อ "เณรผีปอบ" ที่เคยทำพิธีควักไส้เป็ดกินสด ๆ ซึ่งขณะนี้เปลี่ยนชื่อเป็น นายเจริญทรัพย์ ศรีนวล อายุ 35 ปี อาศัยอยู่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

โดยปัจจุบัน นายเจริญทรัพย์จะแต่งตัวนุ่งขาวห่มขาวเลิกกินของสด หันมาติดหมาก ประกาศตัวว่านับถือและสามารถสื่อสารกับเจ้าแม่กวนอิมได้ เปิดรับดูดวง อีกทั้งยังออกปั่นจักรยานเปิดเพลงจีนไปด้วยระหว่างเดินทาง รักษาคนป่วยและคนพิการ โดยใช้เหล้าขาวและดอกไม้แบบไม่เรียกเก็บค่ารักษา แล้วแต่ชาวบ้านจะให้ และให้เหตุผลถึงเรื่องในอดีตว่าเกิดจากความเครียด

ทั้งนี้ แม้ชาวบ้านจะไม่กลัวนายเจริญทรัพย์ แต่ก็มีชาวบ้านอีกไม่น้อยที่เป็นกังวลนายเจริญทรัพย์อาจจะก่อเหตุรุนแรงหรือไม่

วันที่ 14 มิ.ย. 64 ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ หมู่ 2 บ้านเขาเกตุ ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งนายเจริญทรัพย์ ศรีนวล หรือ อดีตเณรผีปอบ ได้เดินทางมาเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา นางลำยวน ปาคำ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านเขาเกตุ เปิดเผยว่า นายเจริญทรัพย์ปรากฏตัวที่หมู่บ้านของตนครั้งแรกในเวลาประมาณ 11.00 น. เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่งตัวชุดขาว มองไกล ๆ ลักษณะคล้ายกับผู้หญิง ปั่นจักรยานเข้ามาในหมู่บ้าน จากนั้นได้จอดแวะพักที่ร้านขายของชำภายในหมู่บ้าน ตนสังเกตเห็นและรู้สึกคุ้นหน้าว่านายเจริญทรัพย์คือเณรผีปอบ

เมื่อนั่งพัก นายเจริญทรัพย์ก็ได้เริ่มทักชาวบ้านที่เดินทางผ่านไปมาเรื่องดวง เช่น พี่สาวตนต้องการจะขายที่ดิน นายเจริญทรัพย์ก็ได้ทักว่า "ที่ดินรูปตัวแอล มีตอไม้อยู่หน้าบ้าน อย่าขาย ให้เก็บไว้" ซึ่งถือว่านายเจริญทรัพย์ทายได้แม่น เพราะลักษณะที่ดินนั้นเป็นรูปตัวแอลและมีตอไม้อยู่จริง จากนั้นนายเจริญทรัพย์ก็ทักลูกสะใภ้ของตนว่า "เป็นคนหัวแข็ง ตื่นนอนให้หัดเก็บที่นอนบ้าง" ซึ่งปกติลูกสะใภ้ของตนก็ไม่ค่อยจะเก็บที่นอนหลังจากตื่นจริง ๆ

เมื่อตนเดินทางมาถึงร้านค้า เพราะตนมีความกังวล เนื่องจากตนคุ้นหน้านายเจริญทรัพย์ว่าเป็นเณรผีปอบ ตนก็ได้ไปยืนหลบสังเกตการณ์ห่างจากนายเจริญทรัพย์ประมาณ 10 เมตร และบ่นกับพ่อของตัวเองว่า "คนนี้เคยเป็นข่าวกินเป็ดสด" จากนั้นนายเจริญทรัพย์ก็ได้ให้คนเดินมาตามตนพร้อมบอกตนว่า "มึงปากดี" ซึ่งตนยืนห่างจากนายเจริญทรัพย์ เจ้าตัวไม่น่าจะได้ยินสิ่งที่ตนพูด ตนจึงตอบไปว่าเคยเห็นเป็นข่าว อีกฝ่ายก็ได้ถามตนกลับว่า "เดี๋ยวนี้เห็นไหม น่ากลัวไหม" ตนจึงตอบไปว่า "ไม่กลัว ไม่น่ากลัว"

โดยนายเจริญทรัพย์ได้นั่งอยู่ที่ร้านขายของชำจนกระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น. จากนั้นก็ได้ปั่นจักรยานไปจอดพักอยู่ที่ชายทุ่งนา แต่เนื่องจากชาวบ้านบางคนเป็นกังวล ตนจึงได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวของนายเจริญทรัพย์ออกไป เท่าที่ตนทราบ นายเจริญทรัพย์บอกกับตนว่าจะเดินทางไปยังอำเภอวิเชียรบุรี แต่ตนได้เตือนนายเจริญทรัพย์ว่าที่อำเภอวิเชียรบุรีมีคนติดเชื้อโควิด-19 นายเจริญทรัพย์จึงเปลี่ยนเส้นทางการเดินทาง แล้วบอกว่าจะปั่นจักรยานเดินทางไปจังหวัดนครสวรรค์ แล้วอาจจะกลับขึ้นเหนือ ตนคิดว่านายเจริญทรัพย์ไม่มีพิษภัย เขาจะเรียกแทนตัวเองว่า "แม่" เพราะอ้างว่าสื่อสารกับเจ้าแม่กวนอิมได้ แต่บอกว่าไม่ใช่ร่างทรง

จากนั้น ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายเจริญทรัพย์ ศรีนวล อายุ 35 ปี หรือ อดีตเณรผีปอบเรียกแทนตัวเองว่า "แม่" บอกว่า ตนสึกตั้งแต่ปี 2558 หลังจากที่เป็นข่าวกินเป็ดสด จากนั้นแม่ของตนก็ทิ้งตนไปเมืองนอก ทิ้งเงินไว้ให้ตนเพียง 2,000 บาท ตอนที่ตอนอายุได้ 13 ปี จากนั้นยายของตนก็เสียชีวิต แต่ตนไม่เคยได้มรดกของครอบครัว เมื่อแม่ของตนย้ายไปอยู่ จ.ลำพูน ตนก็ได้ย้ายตามไปอยู่ด้วยบ้าง เดินทางไปกลับ จ.อุดรธานี ซึ่งแม่นมของตนอาศัยอยู่ที่นั่น

นายเจริญทรัพย์ก็ได้หยิบรูปสมัยเด็กมาให้ทีมข่าวดู รูปแรกเป็นรูปวัยเด็กของนายเจริญทรัพย์สวมใส่ชุดพื้นบ้าน รูปที่สองเป็นรูปใส่กรอบ โดนนายเจริญทรัพย์ถ่ายคู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งนายเจิรญทรัพย์บอกว่าเป็นครูที่นับถือ มีบุญคุณ เพราะรับดูแลตนและแม่ของตน แต่สุดท้ายแม่ของตนก็หนีไปแต่งงานได้สามี 2 คน

ทั้งนี้ ตนรับรู้ว่าตัวเองสื่อสารกับเจ้าแม่กวนอิม หรือพระโพธิสัตว์กวนอิม รับรู้ตั้งแต่หลังจากกินไส้เป็ดสด ซึ่งรับรู้ได้เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ซึ่งตนรู้สึกว่าตนต้องตระเวนทำบุญ ซึ่งตนตั้งเป้าว่าจะจักรยานไปวัดตามจังหวัดต่าง ๆ ให้ครบ 3,000 วัด แต่จะไม่เดินทางไปภาคใต้ และภาคอีสาน โดยจักรยานคันนี้ ตนได้มาจาก จ.สุพรรณ มีเจ้าของที่ดินที่ขายที่ได้ซื้อให้ตน ตนจะปั่นไปเรื่อย ๆ ค่ำไหนนอนนั่น ซึ่งเมื่อคืนตนก็ได้แวะนอนที่โรงเรียนร้างในบริเวณนี้ ส่วนอาหาร ตนก็จะนำเงินที่ชาวบ้านให้หลังจากตนช่วยคนไปซื้อผลไม้กิน

โดยเมื่อตนทำบุญครอบ 3,000 วัด จากนั้นตนก็ตั้งใจจะตายจบชีวิตอย่างสงบ ซึ่งตนเคยได้บอกกับทางวัดวัดหนึ่งไว้ว่าจัดงานศพแล้ว ขอให้เลี้ยงอาหารเจกับแขกที่มางาน ซึ่งนายเจริญทรัพย์ได้หยิบสมุดจดรายละเอียดการเดินทางให้ทีมข่าวดู พบว่ามีชื่อวัดและจังหวัดที่เคยเดินทางไปไว้ ซึ่งมีมากกว่า 2,000 วัด

นายเจริญทรัพย์ กล่าวว่า ส่วนวิชาดูดวง ตนไม่ได้เรียนมาจากไหน จู่ ๆ ตนก็รับรู้ได้เอง ตนจะมองหน้าแล้วจะสามารถพูดดวงได้ทันที

ผู้สื่อข่าวขอให้นายเจริญทรัพย์ดูดวงทีมข่าว เจ้าตัวบอกว่า "ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ชอบกับใจที่รัก ฉันก็รักของฉัน เธอก็รักของเธอ ทางใครทางมัน ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เธอเรียนจบสูงปริญญาโท ฉันมันด้อยโอกาส" และไม่ยอมดูดวงให้ทีมข่าว ทั้งนี้ นายเจริญทรัพย์บอกกับทีมข่าวว่า "อยากเจอหมอปลา เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปไหน คนก็มักจะบอกให้ตนลองไปพบหมอปลาดู ชาวบ้านบอกว่าตนสติไม่ดี จึงอยากให้เจอหมอปลา ซึ่งตนก็สงสารชาวบ้านที่ถูกทุบศาลพระภูมิ หลายคนบอกตนเป็นปอบ หมอปลาเก่งไล่ผี ก็มาไล่ให้ตนหน่อย"

จากนั้น เวลา 20.00 น. หมอปลาได้เดินทางมาเพื่อพูดคุยกับนายเจริญทรัพย์ หมอปลาถามว่านายเจริญทรัพย์จะเป็นเพศอะไร ซึ่งนายเจริญทรัพย์บอกว่าเป็นได้หมด หมอปลาจึงถามต่อว่านายเจริญทรัพย์เคยไปพบแพทย์ไหม ซึ่งนายเจริญทรัพย์บอกว่าเคยไปโรงพยาบาลศรีธัญญาหลังจากกินเป็ดสด หลังจากออกรายการเรื่องจริงผ่านจอในอดีต

โดยนายเจริญทรัพย์บอกว่า ตนไม่ได้ป่วย พร้อมได้ท่องบมสวดเจ้าแม่กวนอิมให้ฟัง เพราะปกติตนก็สวดบทนี้ขณะรักษาชาวบ้าน พร้อมเปิดเพลงบำบัดให้ชาวบ้านฟัง เพลงนี้ตนก็จะเปิดฟังขณะปั่นจักรยานด้วย ทั้งนี้ ตนน้อยใจนายกรัฐมนตรี เพราะตนไม่ได้รับสิทธิ์อะไรสักอย่าง ตนอยากให้แม่ของตนไปขอขมายายทวด กรรมของตนจะได้จบ แม่ตนไม่รักตน บอกตนเป็นลูกดวงพิฆาต เพราะเป็นลูกของสามีอีกคน เมื่อพูดคุยผ่านไปสักระยะ นายเจริญทรัพย์ก็ได้บอกหมอปลาว่าให้เปลี่ยนจากเรียกตนว่า "แม่" เป็น "น้อง"

ทั้งนี้ หมอปลาจึงได้ชวนนายเจริญไปอยู่ที่บ้าน จ.เพชรบุรี ด้วยกัน บอกว่าจะให้นายเจริญทรัพย์ไปช่วยรักษาคน และสัญญาว่าจะซื้อรถจักรยานให้ใหม่ โดยในตอนแรกนายเจริญทรัพย์ทำท่าทีน้อยใจ บอกว่า "พี่ปลาหาว่าน้องไม่ปกติ" แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ได้เกี่ยวก้อยสัญญากัน โดยในวันพรุ่งนี้หมอปลาจะมารับนายเจริญทรัพย์ไปที่ จ.เพชรบุรี

หมอปลา กล่าวว่า ตอนแรกที่ตนติดตามข่าว ตนคิดว่านายเจริญทรัพย์อวดอ้างหลอกลวงคน แต่เมื่อได้มาพบ ตนรู้สึกสงสารนายเจริญทรัพย์เป็นอย่างมาก คาดว่านายเจริญทรัพย์น่าจะได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ ตนได้ยกยอนายเจริญทรัพย์ ชมว่านายเจริญทรัพย์เก่ง เพื่อที่จะทำให้นายเจริญทรัพย์สบายใจ ตนไม่อยากให้นายเจริญทรัพย์ปั่นจักรยานไปเรื่อย เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุ โดยในวันพรุ่งนี้ตนจะมารับนายเจริญทรัพย์ไปอยู่ที่บ้าน จ.เพชรบุรี ด้วยกัน