จากกรณี วันที่ 14 มิ.ย.64 เฟซบุ๊กแฟนเพจ R4 Racing Channel รวมคลิปรถแรงข่าวเด็ด V.4 ได้มีการเผยแพร่คลิปจากกล้องหน้ารถที่สามารถจับภาพรถเก๋งสปอร์ต บีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น Z4 ทะเบียน 3กก7558 กรุงเทพมหานคร โดยมี นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง คนขับ อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร บาดเจ็บสาหัส ก่อนทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา แลสาวอายุ 18 ปี ที่นั่งมาด้วยเจ็บสาหัส
ซึ่งในคลิปหน้ารถจะเห็นว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุไม่ถึง 2 นาที รถเก๋งสปอร์ตบีเอ็มขับมาด้วยความเร็ว ระหว่างทางมีฝนตกลงมาตลอด โดยได้ขับแซงรถเจ้าของกล้องไปอย่างรวดเร็ว และยังขับแซงรถทุกคันที่อยู่ด้านหน้า
กระทั่งเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนไปชนกับรถเก๋งซูซูกิ สวิฟต์ ทะเบียน 1ขฐ9316 กรุงเทพมหานคร ที่วิ่งมาทางตรงมุ่งหน้าเข้าตัว จ.เพชรบูรณ์ ทำให้คนขับและคนที่นั่งข้างคนขับมาที่อยู่ในรถเก๋ง สวิฟต์ เสียชีวิตทันที 2 ราย คือ น.ส.กรกฏ หิรัญ อายุ 31 ปี คนขับ และน.ส.วรรณกานต์ วรรณกายนต์ อายุ 29 ปี
ความเคลื่อนไหวเฟซบุ๊กของ น.ส.เมษสวรรค์ มีการลงภาพกิจกรรมขับรถแข่งในสนาม และลงภาพตัวเองหลังจากขับรถ และโพสต์ภาพในสนามแข่งกับรถด้วยนั้น ก่อนเกิดเหตุมีการลงภาพตัวเองตามปกติ แต่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาคอมเมนต์เชิงติติง และเฟซบุ๊กมีการคอมเมนต์กลับไปด้วยนั้้น
นางสาวเมษสวรรค์ หรือ เมย์ อายุ 18 ปี ผู้รอดชีวิตที่นั่งมาในรถบีเอ็ม พบว่าขาซ้ายหักต้องดามเอาไว้ และรอผ่าตัด บริเวณต้นคอมีรอยเข็มขัดสีแดงเป็นทางยาว เปิดใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงที่ตนไลฟ์นั้นคือบริเวณเขาค้อ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 50-60 กิโลเมตร ตนแค่พูดด้วยความคะนองว่า "ซิ่งเลย ๆ" เนื่องจากขณะนั้นเป็นทางราบ ฝนไม่ตก ไม่มีรถคันอื่นอยู่บนถนน และเชื่อว่าคนขับไม่น่าจะได้ยินเสียงตนเพราะลมแรง ขณะนั้นรถขับอยู่ประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ไม่ได้ขับความเร็วแบบนี้ตลอด เพราะหลังจากนั้นก็เริ่มลดความเร็วลง
จนช่วงเกิดเหตุตนนอนหลับไป รู้สึกตัวอีกทีคล้ายรถตกหลุม และตื่นมาพบว่ารถเหินข้ามเกาะกลางมาแล้ว แต่ตนยังสะลึมสะลืออยู่ในรถ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนคนที่นั่งข้างตนไม่ได้สังเกต เพราะอยู่ในอาการเบลอ ตนอยากบอกทุกคนว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ และยืนยันว่าช่วงเกิดเหตุตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนายสุรภักดิ์ คนขับบีเอ็มนั้น เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน เนื่องจากตนทำแบรนด์โลชั่น และเป็นนางแบบอิสระ จึงรู้จักกับอีกฝ่าย จากนั้นก็ชวนกันมาถ่ายรูปสวย ๆ เท่านั้น ไม่ได้เป็นพริตตี้รับงานเหมือนที่สังคมเข้าใจ
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ไปคอมเมนต์ด่าหรือตอบโต้ใด ๆ เพราะตอนนี้โทรศัพท์พัง แต่คาดว่าอาจจะมีการสร้างเฟซบุ๊กปลอมของตนขึ้นมา แล้วเข้าไปตอบคอมเมนต์ต่าง ๆ ที่มีการเผยแพร่ออกมา